“พลพีร์” กางหลักฐานโต้ “เพื่อไทย” ยันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ถูกรัฐบาลเสียงข้างน้อยสกัด แต่ถูกพับเก็บเองในยุครัฐบาลแพทองธาร เผยเบื้องลึกเหตุผลทางกฎหมายและความเสี่ยงจากนโยบายสหรัฐฯ ต้องโยกงบ 1.57 แสนล้านไปลงงานน้ำ-ถนน-ท่องเที่ยว แทนการแจกเงิน
วันที่ 23 ธ.ค.2568 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ตอบโต้นางมนพร เจริญศรี อดีต สส.เขต 2 จังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย ที่ออกมากล่าวหาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากถูกรัฐบาลเสียงข้างน้อยตัดงบประมาณ เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการคนละครึ่งพลัส ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน เนื่องจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตล้มไปแล้วตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯโดยในขณะนั้น นายกฯ แพทองธาร อ้างเหตุผลว่าจำเป็นต้องกันงบประมาณไว้รับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา (ภาษีทรัมป์) ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับคำร้องกรณีที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และคณะ มีการโยกงบประมาณไปใช้ในโครงการดังกล่าว โดยไม่เป็นไปตามกรอบที่กำหนด
“เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต พอมาถึงยุครัฐบาลแพทองธาร โครงการนี้ มีความเสี่ยงทางกฎหมายแล้ว และเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต ก็เลือกที่จะพับเก็บโครงการไปตั้งแต่ต้น แล้วเอางบ 1.57 แสนล้านบาท ไปทำเรื่องน้ำ เรื่องถนน เรื่องท่องเที่ยว ดังนั้นการได้ทำหรือไม่ได้ทำโครงการ จึงไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่เข้ามาบริหารประเทศต่อเลย” นายพลพีร์กล่าว
นายพลพีร์ กล่าวอีกว่า การที่นางมนพรนำประเด็นนี้ไปกล่าวหา เป็นการใช้เวทีหาเสียงด้วยการโกหกประชาชนอย่างหน้าไม่อายที่สุด เพราะข้อเท็จจริงทั้งหมดปรากฏอยู่ในสื่อมาโดยตลอด ความจริง นางมนพรควรจะขอบคุณพรรคภูมิใจไทยด้วยซ้ำ ที่เคยร่วมผลักดันโครงการนี้ จนเกิดผลสำเร็จในเฟสแรก แต่เมื่อโครงการมีปัญหา พรรคเพื่อไทยเลือกไม่ไปต่อ พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมที่ดี มีมารยาททางการเมืองมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับนำคำโกหกมาใส่ร้ายกัน เสียชื่อคนอีสาน เสียชื่อลูกหลานอีสานหมด
นายพลพีร์ กล่าวยืนยันว่าโครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณที่เหลืออยู่อย่างจำกัด ไม่ได้มีการตัดงบจากดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีงบให้ใช้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว การเมืองที่ดี ไม่จำเป็นต้องปั้นเรื่องโกหกไปหลอกประชาชน เอาความจริง เอาผลงานมาหาเสียงกันดีกว่า การให้ร้ายผู้อื่น ไม่ได้ทำให้ใครสูงขึ้น มีแต่จะทำให้ตัวเองต่ำลงจากคำโกหกที่สร้างขึ้นเท่านั้น



















