วันเสาร์, พฤศจิกายน 2, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“ความมั่นคง”ชี้ข้อเสนอใหม่เพื่อหยุดยิงของ“ฮามาส”เป็นไปได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ความมั่นคง”ชี้ข้อเสนอใหม่เพื่อหยุดยิงของ“ฮามาส”เป็นไปได้

“….ฝ่ายความมั่นคง มองว่า จากถ้อยแถลงของ นายซามี อาบู ซูห์รี โฆษกของกลุ่มฮามาส ซึ่งแสดงท่าทีเปิดกว้างต่อข้อตกลง หรือแนวคิดใด ๆ ก็ตามที่จะช่วยยุติความทุกข์ทรมานของประชาชนในฉนวนกาซา และนําไปสู่การหยุดยิงถาวรนั้น นับว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่ต้องการจะเจรจา และหาทางออกจากวิกฤตที่ยืดเยื้อ ระหว่างกลุ่มฮามาส กับอิสราเอล…”

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 2 พ.ย.67 สัปดาห์ที่ผ่านมาในสถานการณ์ในตะวันออกกลาง มีข้อเสนอใหม่ เกี่ยวกับการหยุดยิง และการแลกเปลี่ยนนักโทษที่กลุ่มฮามาสเสนอ คือ ประเด็นที่น่าสนใจ โดยนาย ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กลุ่มฮามาส กล่าวเมื่อวันที่ 29 ต.ค.67 ที่ผ่านมาว่า ฮามาส เปิดกว้างต่อข้อตกลงหรือแนวคิดใดๆ ก็ตาม ที่จะช่วย ยุติความทุกข์ทรมานของประชาชนและนําไปสู่การหยุดยิงถาวร รวมถึงหากแนวคิดดังกล่าวครอบคลุมถึงการถอนกําลังทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซาทั้งหมด พร้อมทั้งขอให้อิสราเอลให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนให้ที่พักพิง แก่ประชาชน ไปจนถึงการฟื้นฟูพื้นที่ และการทําข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวนี้ เป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประเทศตัวกลาง ซึ่งต้องการให้มีการหารือข้อเสนอใหม่ เกี่ยวกับการหยุดยิง และการแลกเปลี่ยนนักโทษ ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสได้จัดการประชุมเกี่ยวกับประเด็นนี้แล้ว และจะมีการประชุมเพิ่มเติมตามมา 

@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่า จากถ้อยแถลงของ นายซามี อาบู ซูห์รี โฆษกของกลุ่มฮามาส ซึ่งแสดงท่าทีเปิดกว้างต่อข้อตกลง หรือแนวคิดใด ๆ ก็ตามที่จะช่วยยุติความทุกข์ทรมานของประชาชนในฉนวนกาซา และนําไปสู่การหยุดยิงถาวรนั้น นับว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่ต้องการจะเจรจา และหาทางออกจากวิกฤตที่ยืดเยื้อ ระหว่างกลุ่มฮามาส กับอิสราเอล โดยคํากล่าวนี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มฮามาส เริ่มเปิดกว้างต่อการเจรจาและพร้อมที่จะพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ในการลดความรุนแรงในพื้นที่ฉนวนกาซา ซึ่งอาจสะท้อนถึงการปรับโครงสร้างใหม่ของกลุ่มเอง และแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากการใช้กําลังทางทหาร รวมถึง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งอย่างหนัก และต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากกลุ่มฮามาส และอิสราเอล สามารถเจรจาจนหาทางออกที่สามารถยอมรับได้ ทั้ง 2 ฝ่าย ในครั้งนี้ อาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะนําไปสู่การหยุดยิงถาวร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การสร้างโครงสร้าง พื้นฐานใหม่ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในฉนวนกาซา 

@@@… อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในการเจรจายังมีความท้าทาย เนื่องจากกลุ่มฮามาส และอิสราเอล ยังมีความแตกต่างในแง่ของมุมมอง และความต้องการ โดยกลุ่มฮามาส ต้องการให้มีการยุติการปิดล้อมฉนวนกาซา และถอนกําลังทหาร รวมถึงการรับประกันความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่อิสราเอล มีความกังวลในเรื่องความมั่นคง ดังนั้น การที่จะบรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืน จําเป็นต้องมีการประนีประนอม และสร้างความไว้วางใจในระดับสูง .. อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงดังกล่าวแสดงถึงโอกาสในการเดินหน้าสู่สันติภาพในภูมิภาค ซึ่งการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงสหรัฐฯ และอิหร่านในการผลักดันข้อตกลงเพื่อลดความขัดแย้งที่มีการใช้กำลังอาวุธสงครามในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง จะได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้การแสดงท่าทีของไทยในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ มีความเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อประเทศในอนาคตจากนี้ไป 

@@@…….กองบัญชาการกองทัพไทย….พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ ได้พบปะและรับประทานอาหารร่วมกับกำลังพล สำนักงานพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ และขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ในทันทีที่เกิดเหตุ โดยได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ความช่วยเหลือ” ณ สำนักงานพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท เสียสละ ของหน่วยและกำลังพล ที่ทุกท่านได้ทำหน้าที่ของทหารที่พร้อมช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างเต็มความสามารถในสถานการณ์วิกฤต ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ดูแลนักเรียนและครอบครัว ทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย ทำให้สถานการณ์สามารถบรรเทาลงได้อย่างรวดเร็ว 

@@@…….กองทัพบก…พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยเจ้ากรมกำลังพลทหารบก, เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก, เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และคณะผู้บังคับบัญชา เดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามความพร้อมการเตรียมการรับทหารใหม่ที่จะเข้ากองประจำการในวันที่ 1 พ.ย.67 นี้ ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ในพื้นที่กองพลทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี โดย ผู้บัญชาการทหารบกได้รับฟังบรรยายสรุปการเตรียมการรับทหารใหม่ ตามกรรมวิธีรับทหารใหม่และแนวทางการฝึกที่กรมยุทธศึกษาได้กำหนด ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ ที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 723 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอานันทมหิดล ในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันอุบัติเหตุ อาทิ การอบรมทักษะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน, การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากโรคลมร้อน, การฟื้นคืนชีพ (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED), การจัดเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพื่อประเมินอาการต่างๆ และสามารถให้การช่วยเหลือได้ในทันที 

@@@…….โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทุกนาย โดยขอบคุณที่ได้ตั้งใจเข้าร่วมการฝึกทบทวนในห้วงที่ผ่านมาเพื่อเตรียมการด้านต่างๆ เป็นอย่างดี ซึ่งขอให้นำความรู้และแนวทางการฝึกที่ได้รับไปใช้ในการดำเนินการภายในหน่วยฝึกอย่างเต็มที่ โดยผู้บังคับหน่วยทุกระดับต้องให้ความสำคัญต่อการฝึกทหารใหม่ ต้องกำกับดูแล ตรวจเยี่ยมและใส่ใจทหารใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงแรกที่ถือเป็นระยะของการปรับตัว ผู้ฝึกและครูผู้ฝึกต้องร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเสนารักษ์ทำการคัดกรอง ประเมินสภาพทหารใหม่ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างละเอียด พร้อมจำแนกกลุ่มตามเกณฑ์ที่กรมแพทย์ทหารบกได้กำหนด เพื่อทำการฝึกเสริมสร้างอย่างเหมาะสม จากเบาไปหาหนักและสอดคล้องตามสภาพแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานการฝึกของกองทัพบก

@@@…….รวมทั้งให้มีการดูแลป้องกันอาการบาดเจ็บและโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฝึก เพื่อไม่ให้มีโรคระบาดและการสูญเสียในหน่วยฝึก และเพื่อให้ทหารใหม่มีความเข้มแข็ง ปลอดภัย มีระเบียบวินัย เข้าใจในทักษะต่างๆ ทางทหาร ขณะเดียวกันหน่วยฝึกทหารใหม่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องการสื่อสารควบคู่ไปกับการฝึก ทั้งการสร้างความเข้าใจกับทหารใหม่ ชี้แจงสิทธิและสวัสดิการที่จะได้รับ, การเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำทหารใหม่, การประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนให้เข้าถึงโอกาสต่างๆ อาทิ การศึกษา การประกอบอาชีพ และการต่อยอดในเส้นทางทหารอาชีพ ตลอดจนการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและญาติทหารใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้เข้าใจ คลายความกังวล และเป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดการฝึก  

@@@…….สำหรับการเตรียมความพร้อมของหน่วยฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารบกได้ถอดบทเรียนการปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมา และกำหนดให้ 303 หน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ คัดสรรกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทุกนาย ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจประเมินความรู้จากกรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ฝึกอย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถรับฟังและให้คำแนะนำทหารใหม่ได้ตลอดระยะเวลาการฝึก, ด้านสถานที่ ทั้งที่ประกอบกิจกรรมการฝึก โรงนอน โรงประกอบเลี้ยง และระบบสุขาภิบาล ที่จะต้องมีสภาพพื้นที่ที่เหมาะสม สะอาด และอากาศถ่ายเทได้สะดวก, ด้านรูปแบบการฝึก ตลอดจนการจัดให้มีอัตราส่วนครูพี่เลี้ยง ระหว่างครูนายสิบ (นายทหารชั้นประทวน), ครูทหารใหม่ (พลทหารที่ประจำการครบ 1 ปี) และทหารใหม่ ในอัตรา 1 : 1 : 8 นาย และการจัดให้มีระบบบัดดี้ทหารใหม่ เพื่อเป็นที่ปรึกษาระหว่างกันตลอดการฝึก รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์อำนวยการและกำกับดูแลการฝึกทหารใหม่ (CCIR) เพื่อติดตามและร่วมขับเคลื่อนการฝึกอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันทุกส่วนได้เตรียมการเป็นที่เรียบร้อย พร้อมรับทหารใหม่ที่จะเข้ารายงานตัว ณ หน่วยทหารตามกำหนด ในวันที่ 1 พ.ย.67 นี้ 

@@@…….กองทัพเรือ….พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ และโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในพื้นที่ตำบลบางเสร่   อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  โดยได้ตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ รวมถึงการดูแลสวัสดิการให้แก่กำลังพล  ตลอดจนการจัดเลี้ยงให้ถูกสุขลักษณะ และการดูแลสุขภาพกำลังพลในทุกระดับ  ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลทหารกองประจำการ และนักเรียนจ่า ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นย้ำแก่ครูฝึก ให้เข้าใจถึง “อำนาจ หน้าที่ และ ความรับผิดชอบ” ของตนเอง อีกทั้งให้สอดส่องดูแลกำลังพลในทุกระดับไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมมาตรการในการป้องกันปราบปรามอย่างเด็ดขาด 

@@@…….โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ย้ำให้ผู้บังคับบัญชาและครูฝึกปฏิบัติตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการปฏิบัติแก่ผู้ที่เข้ารับการฝึก ให้มีสิทธิเท่าเทียม ห้ามไม่ให้มีการลงโทษเกินกว่าเหตุ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้ครูฝึกฯ ทุกนายคำนึงอยู่เสมอในการดูแลเอาใจใส่ นักเรียนจ่า รวมถึง พลทหารกองประจำการ ผลัด 3/67 ว่าเป็นน้องเล็กของกองทัพเรือ ให้เป็นไปตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ หรือ “NAVY-SAFETY 2025” ในทุก ๆ ด้าน  เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนากำลังพลให้มีความพร้อมและมีมาตรฐานความปลอดภัยในการปฏิบัติงานทุกภารกิจ

………………….

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img