อดีตรมว.คลัง ห่วงกระบวนการอนุมัติแบบบนลงล่าง ขาดเสียงประชาชน – ไม่มีกลไกตรวจสอบที่โปร่งใส เสี่ยงถูกแทรกแซงทางการเมือง แนะชะลอใช้เงินจนรู้ผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่พรรคพลังประชารัฐ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางได้มีหนังสือแจ้งเวียนถึงหัวหน้าหน่วยงานรัฐทั่วประเทศให้สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ แม้มีผู้ยื่นประมูลเพียงรายเดียว
นายธีระชัยระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการรั่วไหลของงบประมาณ โดยเฉพาะช่องโหว่ในระเบียบข้อ 11 ที่กำหนดให้การเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือเป็นการอนุมัติโครงการ ซึ่งเปิดช่องให้หน่วยงานสามารถเดินหน้าการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบรอบด้าน
“การอนุมัติโครงการครั้งนี้เป็นการเดินเกมจากบนลงล่าง ไม่ยึดโยงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ไม่มีการเปิดรับฟังเสียงจากชุมชน และขาดการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่น” นายธีระชัยกล่าว
เขายังชี้ว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวเริ่มต้นอย่างเร่งรีบตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและต้องเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน ผนวกกับการผ่อนคลายขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง จะยิ่งเปิดโอกาสให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ง่ายผ่านรัฐมนตรีเจ้าสังกัด อีกทั้งยังขาดกระบวนการติดตามและประเมินผลอย่างชัดเจน
นายธีระชัยยังเตือนรัฐบาลให้พิจารณาชะลอการใช้เงินจากโครงการนี้ไปก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงผลการเจรจาด้านภาษีและการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจมีผลกระทบตามมาในอนาคต
“การเร่งใช้งบในสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอน ถือเป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง การตัดสินใจใด ๆ ควรอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ประชาชนและความโปร่งใส ไม่ใช่เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง” นายธีระชัยกล่าวย้ำในช่วงท้าย.



















