วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSเตือน“มั่นคง”เฉยไม่ได้ “Common School”รุกคืบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เตือน“มั่นคง”เฉยไม่ได้ “Common School”รุกคืบ

ท่ามกลางเสียงแตกกับเป้าหมายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ห่วงโรคระบาดจะรุนแรงจนเอาไม่อยู่ ด้านทหารพร้อมดูแลชายแดนและทหารเข้าประจำการใหม่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeyNews ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 19 มิ.ย.64 ตัวเลขของการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังสูง ไม่ลดลง แต่ทางรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตั้งเป้าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน…..เปิดประเทศเป็นเรื่องที่ดีเมื่อถึงเวลา แต่ช่วยไต่ตรองฟังความให้รอบด้าน ที่สำคัญวัคซีนยังไม่ครอบคลุมประชาชนส่วนใหญ่เลย แล้วจะดันทุรังเปิดประเทศทำไม…..? 

@@@…….อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ครบตามเป้าหมายภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ว่า เป็นภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บางอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามแผน หรือบางอย่างอาจจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีความไม่แน่นอน ขอให้ทุกคนเปิดใจว่าภารกิจใหญ่ขนาดนี้ ที่ต้องเร่งให้เร็วที่สุดและต้องเข้าถึงทุกคน ทุกพื้นที่ ครอบคลุมทั้งประเทศ อาจจะมีความผิดพลาด หรือมีความไม่สะดวกอยู่บ้าง

@@@…….ส่วนปัญหาการจัดสรรวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีการมองว่ามีปัญหามีการโยนกันไปกันมาระหว่างกรุงเทพฯ และกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. กล่าวว่า ทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน โดยจะมีการแบ่งจ่ายวัคซีนเป็นงวดๆ และจะมีการทยอยจ่าย ซึ่งทุกภาคส่วนยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด โดยหากครบ 1 เดือน จะเป็นไปตามแผนที่ ศบค.วางไว้ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้การสื่อสารนั้นมีปัญหาอยู่บ้าง แต่วันนี้จะมีการคุยรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

@@@…….ส่วนปัญหาการจัดสรรวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีการมองว่ามีปัญหามีการโยนกันไปกันมาระหว่างกรุงเทพฯ และกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. กล่าวว่า ทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน โดยจะมีการแบ่งจ่ายวัคซีนเป็นงวดๆ และจะมีการทยอยจ่าย ซึ่งทุกภาคส่วนยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด โดยหากครบ 1 เดือน จะเป็นไปตามแผนที่ ศบค.วางไว้ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้การสื่อสารนั้นมีปัญหาอยู่บ้าง แต่วันนี้จะมีการคุยรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง

www.thaigov.go.th

@@@…….พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กล่าวย้ำในที่ประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณกำลังพลทุกเหล่าทัพที่สนับสนุนส่วนราชการต่างๆ รับมือกับวิกฤติโควิด-19 และเข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยขอให้ดำรงความต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะปกติ พร้อมแสดงความห่วงใยทหารที่จะเข้าประจำการพร้อมกันทุกเหล่าทัพในวันที่ 1 ก.ค.64 โดยขอให้มีมาตรการควบคุมโรคในการฝึกและประสานสาธารณสุขจัดหาวัคซีนรองรับทหารที่เข้าใหม่และครูฝึก ให้เพียงพอสำหรับเกิดภูมิคุ้มกันเป็นส่วนรวมในการปฏิบัติงานร่วมกัน

@@@…….นอกจากนี้ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้กำชับขอให้ทุกเหล่าทัพและตำรวจ เสริมกำลังเข้าไปสนับสนุนกรุงเทพมหานคร ตามที่ร้องขอ ในการควบคุมการแพร่ระบาดเป็นพื้นที่ทั้งใน กทม.และปริมณฑล ที่ยังพบกระจายในหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะแคมป์คนงานที่มีกว่า 400 แห่ง ที่จำเป็นต้องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (อีโอดี) ควบคุมการปฏิบัติเข้มในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด เพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้า-ออก และนำเข้าสู่การรักษาในระบบ พร้อมทั้งขอให้ดำรงความต่อเนื่องสนับสนุนการบริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ที่ยังพบการขาดแคลน เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยรอการรักษาอีกจำนวนมาก

@@@……พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID–19 และสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งการบริหารจัดการชายแดนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID–19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปจาก กองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ ณ ค่ายสุรสีห์ และเดินทางไปหารือข้อราชการกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รับฟังการบรรยายสรุปจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ศาลากลาง จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและรับฟังการชี้แจงสถานการณ์รวมถึงมาตรการสกัดกั้นการลัก ลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเยี่ยมชมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID–19 ณ ช่องทางออกด่านศุลกากร บ้านน้ำพุร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 

@@@…….ช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทน รมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน กับ รมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 8 ( ADMM-Plus ) ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดย กห.บรูไนเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดย รมว.กลาโหม ทั้ง 18 ประเทศ รับทราบพัฒนาการความร่วมมือของอาเซียนที่ผ่านมา และได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศร่วมกัน ซึ่งภาพรวมที่ประชุมให้ความสำคัญกับการรับมือกับความท้าทายที่เป็นปัญหาร่วมกันและส่งผลกระทบกับภูมิภาค โดยเฉพาะภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยจากไซเบอร์ การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามจากโรคระบาด COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง  ซึ่งทุกประเทศจำเป็นต้องร่วมกันรับมือกับความท้าทายที่เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนฟื้นฟูประเทศร่วมกัน

@@@…….นอกจากนั้น ยังมีความกังวลร่วมกันถึงปัญหาความมั่นคงทางทะเล ทั้งคาบสมุทรเกาหลีและทะเลจีนใต้ ที่ทุกประเทศจำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพกันและกัน ยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช้กำลังทหารแก้ปัญหา ร่วมกันหาทางออกด้วยสันติวิธี โดยใช้ทุกกลไกที่มีอยู่ร่วมแก้ปัญหา เพื่อให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากนิวเคลียร์ และให้ทะเลจีนใต้ เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างและเสรีในการคมนาคม   สำหรับปัญหาในเมียนมา ที่ประชุมได้เรียกร้องไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง ร่วมแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม โดยให้เป็นไปตามฉันทามติ 5 ข้อ ของการประชุมผู้นำอาเซียน

@@@…….พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำความสำคัญของการร่วมมือและช่วยเหลือกันและกันรับมือกับ COVID-19 อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดตั้งกองทุนอาเซียนและแผนการฟื้นฟูอาเซียน ภายหลัง COVID-19  ร่วมกับการขับเคลื่อนความร่วมมือของศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ ด้านเคมี ชีวภาพและรังสี  พร้อมทั้งให้ความสำคัญร่วมรับมือกับภัยคุกคามจากไซเบอร์ จากกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มก่อการร้าย ที่มีการใช้ไซเบอร์มากขึ้นภายใต้สถานการณ์ COVID-19  พร้อมทั้งยืนยัน ไทยสนับสนุนฉันทามติ 5 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ระหว่างทุกฝ่ายและการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงสนับสนุนเมียนมาในการรับมือกับ COVID-19 ในฐานะครอบครัวอาเซียนด้วยกัน

@@@…….พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน  ผู้บัญชาการทหารเรือ  (ผบ.ทร.) และ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี ร่วมกันลงนามในข้อตกลงการประสานความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกองทัพเรือ กับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ณ   ห้องวิไชยประสิทธิ์ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่  กรุงเทพมหานคร โดย กองทัพเรือ ได้อนุมัติให้ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ พิจารณาดำเนินการจัดทำข้อตกลงการประสานความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง กองทัพเรือ กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือทั้งด้านวิชาการและด้านอื่น ๆ ที่ทั้งสองสถาบันมีศักยภาพ  อันจะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติงานของทั้งสองหน่วยงานและประชาชนทั่วไป 

@prbangkok

@@@…….อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด นอกจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของการเมืองที่ กลุ่ม Re-Solution เดินหน้าปลุกกระแสรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญอีกรอบ นำโดย บุคคลกลุ่มเดิม ๆ จากคณะก้าวหน้า ณ ที่ทำการอาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถ.เพชรบุรี เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ สอดคล้องกับการประชุมรัฐสภาฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการยื่นเสนอร่างหลายร่างจากหลายพรรค..คาดว่าจะใช้เวลาอีกพอสมควร กับกระแสการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทำให้ฝ่ายการเมือง เร่งกระบวน การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีฝ่ายการเมืองบางกลุ่ม มุ่งปรับแก้หมวดที่ 1 และ 2 สอดรับกับแกนนำม็อบบนถนนผิดกฏหมาย ที่ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลท์ ควบคู่ไปกับการบ่มเพาะชุดความคิดของเยาวชนคนไทยรุ่นใหม่ ๆ ด้วยการอ้างอิงประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือน ใน Common School ที่ถูกมองกันว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศในอนาคต 

FB / Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่

@@@…….ประเด็นเร่งแก้รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่เป็นความต้องการเทียมที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชนสักเท่าไร .. การเตรียมเลือกตั้งรอบใหม่ กับวางพื้นฐานล้มสถาบันให้สำเร็จ คือ ความต้องการจริง .. สถาบันบ่มเพาะเยาวชน Common School ด้วยแกนนำชนชั้นกลางปฏิกษัตริย์นิยม เพื่อปลูกฝังบิดเบือนประวัติศาสตร์ของชาติไทย กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ .. 

กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการเปิดหน้าชกอย่างท้าทายที่จะส่งผลให้ความขัดแย้งทางสังคมขยายตัวอย่างน่ากังวล.. ทั้งนี้ อาจถึงเวลาที่ฝ่ายความมั่นคง จำต้องเตรียมวางมาตรการตอบโต้ด้วยการกระจายการปฏิบัติออกไปได้แล้ว แม้ยังมิได้มีผลในปัจจุบันมากนัก แต่หากละเลยไม่ดำเนินการใดๆ ในระยะยาวอาจสร้างปัญหาร้ายแรงที่แก้ไขได้ยาก
………………………

คอลัมน์ : Military Key

โดย “รหัสมอร์ส” 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img