Hydropower : Largest Renewable Source of Electricity Globally
“……กำลังไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศไทย คือ รูปแบบพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ รวมกว่า 7,000 MW ที่ติดตั้งในเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ 26 แห่งทั่วประเทศ …”
ปัจจุบัน กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower คือ แหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Source ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายทศวรรษนี้ ..
การเติบโตของกำลังการผลิต คาดว่าจะคงที่จนถึงปี 2573 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตในจีน China, อินเดีย India, แอฟริกา Africa และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Southeast Asia .. แม้ว่าการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower Generation คาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั่วโลกเมื่อมีโครงการใหม่ๆ เริ่มดำเนินการ แต่สัดส่วนของเทคโนโลยีนี้ในการผลิตพลังงานทั้งหมด กำลังจะลดลง เนื่องจากความต้องการพลังงานไฟฟ้าเติบโตเกินกว่าการใช้งาน ..

การผลิตกำลังไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้าจากน้ำ Hydroelectricity Generation เพิ่มขึ้นเกือบ 70 TWh คิดเป็นเพียงประมาณ 2% ในปี 2565 โดยแตะระดับ 4,300 TWh .. กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower ยังคงเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุด โดยผลิตได้มากกว่าเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ ทั้งหมดรวมกัน ..ในสถานการณ์การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิ ภายในปี 2593 หรือ Net Zero Emissions by 2050 Scenario นั้น กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower รักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่เกือบ 4% ในปี 2566-2573 เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าประมาณ 5,500 TWh ต่อปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา .. อัตราการเติบโตเฉลี่ย อยู่ที่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของอัตราที่จำเป็น ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการพยายามที่เข้มแข็งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปรับปรุงกระบวนการอนุญาต และรับรองความยั่งยืนของโครงการ .. ทั้งนี้ในภาพรวมระบบพลังงานสะอาดนั้น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Plants ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า พวกมันคือ กระดูกสันหลังที่เชื่อถือได้ของระบบพลังงานสะอาดในอนาคต และควรได้รับการสนับสนุนให้มากขึ้นไปกว่านี้ ..
เกือบ 3 ใน 4 ของการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใหม่ทั่วโลก Global Hydropower Capacity Additions ในปี 2565 เกิดขึ้นในประเทศจีน China .. อย่างไรก็ตาม ประเทศและภูมิภาคที่มีความคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัดในการส่งเสริมการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Notable Progress to Advance Hydroelectricity ได้แก่ :-
–จีน China ยังคงเป็นผู้นำในแง่ของการเพิ่มกำลังการผลิต โดยเพิ่ม 24 กิกะวัตต์ GW ในปี 2565 ซึ่งเท่ากับ 3 ใน 4 ของการเติบโตทั่วโลก .. กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower ยังคงเป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียน 5 ปี ฉบับที่ 14 ที่เผยแพร่ในปี 2565 แต่การเพิ่มกำลังการผลิตคาดว่าจะชะลอตัวลงในปีต่อๆ ไป เนื่องจากจำนวนสถานที่ที่เหมาะสมลดลง และข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม ..
–อินเดีย India ยังคงพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ Large Hydropower Projects หลายโครงการ โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตที่สำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า .. กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower คือ หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในการบรรลุพันธสัญญาของอินเดีย เพื่อที่จะบรรลุกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แตะระดับ 500 GW ในปี 2573 ..
–ยุโรป Europe ได้เปิดใช้งานกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เกือบ 2 GW ในปี 2565 ซึ่งถือเป็นปริมาณที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 1990 เป็นอย่างน้อย .. โครงการ 2 โครงการในสวิตเซอร์แลนด์ Switzerland และโปรตุเกส Portugal มีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการบูรณาการโซลาร์เซลล์ และพลังงานลม Integration of Solar PV & Wind Power ..
-ในเดือนสิงหาคม 2565 สหรัฐฯ United States : US ได้ผ่านพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเพิ่ม และขยายการสนับสนุนในรูปแบบของเครดิตภาษีสำหรับเทคโนโลยีกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Tax Credits for Hydropower Technologies ..
กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในปัจจุบัน Hydropower Capacity Today พบว่า ในปี 2566 กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ติดตั้งทั่วโลก World’s Installed Hydropower Capacity อยู่ที่ 1,416 กิกะวัตต์ GW .. พลังงานน้ำ ยังคงเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก .. จีน China มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Capacity อยู่ที่ 368 GW ซึ่งมากกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของบราซิล Brazil, แคนาดา Canada, สหรัฐฯ United States: US, และสหพันธรัฐรัสเซีย Russian Federation รวมกัน .. ขณะที่ยุโรป Europe ในปี 2565 การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในยุโรปลดลง 19% เนื่องจากภัยแล้ง .. สำหรับในส่วนของประเทศไทย Thailand ปี 2566 นั้น กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของไทย Thailand’s Hydropower Capacity อยู่ที่ประมาณ 3.7 GW ..
ทั้งนี้ กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower สร้างประโยชน์อย่างมากมาย และส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าปริมาณมหาศาลให้แก่โครงข่ายระบบสายส่งกำลังไฟฟ้า Power Grid Support ตามปริมาณการใช้งาน รวมทั้งการรักษาความน่าเชื่อถือ และความยืดหยุ่นของโครงข่ายระบบสายส่ง Maintaining the Reliability & Resiliency of Power Grids ได้อย่างยอดเยี่ยม ..
อย่างไรก็ตาม กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower ยังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมถึงข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ Geographical Limits, ปัญหาสิ่งแวดล้อม Environmental Issues, ภัยแล้ง Drought, ความลังเลของนักลงทุน Investor Hesitancy เนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม Environmental & Social Concerns และกรอบการกำกับดูแลที่ต้องแก้ไขในประเด็นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Regulatory Frameworks that Need to Address Climate Change เป็นต้น ..

อนาคตของกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower’s Future นั้น ยังคงมีแนวโน้มที่สดใสด้วยเทคโนโลยีใหม่ New Technologies, กลไกตลาด Market Mechanisms และการเน้นไปที่ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Focus .. พวกมันสามารถเป็นส่วนสำคัญของอนาคตพลังงานสะอาด และสามารถช่วยตอบสนองความต้องการพลังงานของโลกได้ .. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น ไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PHS คือแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ Giant Batteries ที่กักเก็บพลังงานโดยการเคลื่อนย้ายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่สูงกว่าไปยังอ่างเก็บน้ำที่ต่ำกว่า Stores Energy by Moving Water from a Higher Reservoir to a Lower One รวมทั้งการดำเนินการที่เป็นกลางต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เกษตรกรรมได้เป็นอย่างดี ..
นอกจากนี้ กลไกตลาดที่สร้างสรรค์ Innovative Market Mechanisms จะทำให้ระบบไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PHS สามารถช่วยผนวกรวมพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ต่อเนื่อง เช่น พลังงานลม และแสงอาทิตย์ Wind & Solar Energy เข้ากับโครงข่ายระบบสายส่งกำลังไฟฟ้า Power Grids มาพร้อมด้วย ..
ตัวอย่างอุตสาหกรรมพลังงานน้ำของสหรัฐฯ U.S. Hydropower Industry ได้รับการคาดหมายว่า อาจเติบโตได้ถึงเกือบ 150 GW ของกำลังการผลิตไฟฟ้า และการจัดเก็บ Electricity Generating & Storage Capacity รวมกัน ภายในปี 2593 ..
จนถึงปัจจุบัน หลายประเทศ ยังคงมองว่า กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower คือแหล่งพลังงานที่เป็นกุญแจสู่อนาคตเศรษฐกิจของพวกเขา Key to their Future Economic ..
ระบบไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับเพื่อกักเก็บพลังงาน Pumped Storage Hydropower : PSH คือความจำเป็นในอนาคตในภาคส่วนพลังงาน Future Necessity in Energy Sector ..
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency : IEA กำลังจัดทำการคาดการณ์โดยละเอียดครั้งแรกของโลกสำหรับพลังงานน้ำ 3 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าบนอ่างเก็บน้ำ Reservoir Hydropower Plants, โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหล Run-of-River Power Plants และโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำ Pumped Storage Plants ..
จนถึงปี 2573 โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบอ่างเก็บน้ำ Reservoir Hydropower Plants รวมถึงเขื่อน Dams ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้นานหลายเดือน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำสุทธิที่เพิ่มขึ้น Net Hydropower Additions จนถึงปี 2573 .. ตามการคาดการณ์ของ IEA ชี้ว่า การเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุน Cost-Effective Electricity Access, โอกาสในการส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าข้ามพรมแดน Cross-Border Export Opportunities และการใช้เขื่อนแบบเอนกประสงค์ Multipurpose Use of Dams คือปัจจัยหลักในการขยายโครงการอ่างเก็บน้ำ ..
ขณะที่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower Plants จะกักเก็บพลังงานไฟฟ้าโดยการสูบน้ำขึ้นจากอ่างเก็บน้ำด้านล่างไปยังอ่างเก็บน้ำด้านบน จากนั้นจึงปล่อยน้ำออกผ่านกังหันน้ำเมื่อจำเป็นต้องใช้กำลังไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 30% ของการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำสุทธิ Net Hydropower Additions จนถึงปี 2573 .. ความต้องการระบบที่มีความยืดหยุ่น และการจัดเก็บที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดหลายแห่งเพื่อรองรับการบูรณาการพลังงานหมุนเวียนที่ผันผวนในปริมาณมากขึ้น คือแรงผลักดันให้โครงการไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เพื่อกักเก็บพลังงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด ระหว่างปี 2564-2573 .. ทั้งนี้ พลังงานน้ำแบบไหลผ่านแม่น้ำ Run-of-River Hydropower ซึ่งผลิตกำลังไฟฟ้าจากการไหลของน้ำตามธรรมชาติซึ่งมีความสามารถในการกักเก็บพลังงานได้อย่างจำกัด ยังคงเป็นกลุ่มการเติบโตที่เล็กที่สุด เนื่องจากรวมถึงโครงการขนาดเล็กจำนวนมากที่มีกำลังการผลิตโดยรวมทั่วโลกแล้ว ยังต่ำกว่า 10 MW ..
สำหรับในประเด็นของระบบไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH นั้น พวกมันทำหน้าที่เหมือนเช่นชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ซึ่งช่วยให้เกิดความอ่อนตัว และประหยัดพลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไม่ต่อเนื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ..
สำนักงานพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ International Renewable Energy Agency : IRENA ระบุว่ากำลังผลิตไฟฟ้าพลังน้ำระบบแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage ทั่วโลก จะต้องเพิ่มเป็น 2 เท่าจากประมาณ 180 GW ในวันนี้ เป็นมากกว่า 325-350 GW ภายในช่วง 30 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นความจำเป็นยิ่งยวดเพื่อจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2oC ..
หากไม่มีการจัดเก็บพลังงานในปริมาณมหาศาลที่เพียงพอ จะทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากที่โครงข่ายระบบสายส่งกำลังไฟฟ้าในอนาคต Future Power Grids จะไม่สามารถจัดหาพลังงานที่เชื่อถือได้โดยปราศจากแหล่งพลังงานคาร์บอนสูง หรือแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลสำรองไว้ เช่น เครื่องยนต์กังหันก๊าซ Gas Turbines Engines เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่พึงปรารถนา ..
ทั้งนี้ หากภาครัฐในประเทศต่างๆ ไม่มีนโยบายที่จะรักษาโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล Power Plants Fired by Fossil Fuels ไว้ต่อไป พวกเขาจะต้องพิจารณาวางแผนการลงทุนสำหรับระบบจัดเก็บพลังงานสะอาดด้วยระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Investment in the Clean Energy Storage Provided by Pumped Storage Hydropower : PSH เพิ่มเติมไปพร้อมกับระบบจัดเก็บพลังงานรูปแบบอื่นๆ ด้วย .. ชุดแบตเตอรี่ Battery Packs เพียงรูปแบบเดียว ไม่สามารถให้การจัดเก็บพลังงานในระบบสาธารณูปโภคที่เพียงพอได้ รวมทั้งอาจไม่ยืดหยุ่นพอที่จะรองรับความแปรปรวนบนโครงข่ายระบบสายส่ง Grid Variabilityได้อีกด้วย ..
สถานการณ์ไฟฟ้าดับ หรือความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนกลับไปใช้แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เนื่องจากปัญหาขาดแคลนพลังงาน การเรียกร้องให้เพิ่มขนาดการจัดเก็บพลังงานระยะทนยาว Scale up Long-Duration Storage เพื่อรองรับแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม Solar & Wind Energy Sources ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ ระบบไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH ยังคงต้องการการลงทุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องต่อไปสู่อนาคต ด้วยขนาดความจุอย่างน้อย 2 เท่า ภายในช่วงอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าตามที่กล่าว ได้กลายเป็นความจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้ ..
แม้จะเป็นเทคโนโลยีเก่า และมีใช้งานมานานแล้ว แต่ระบบไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower ถือเป็นรูปแบบการจัดเก็บพลังงานที่มีความจุ และขนาดใหญ่ที่สุดบนโครงข่ายระบบสายส่งกริดไฟฟ้าที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบัน .. ทั้งนี้ ระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH ยังคงเป็นความจำเป็นสำคัญสำหรับระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติในอนาคตไปอีกนานด้วยศักยภาพขนาดความจุปริมาณมหาศาล อายุการใช้งานที่ระยะทนยาว ราคาพลังงานที่ถูกอย่างยิ่ง ..
การทำให้แหล่งน้ำต่างระดับขนาดใหญ่ทำงานได้เช่นเดียวกับชุดแบตเตอรี่นั้น คือระบบพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม .. พวกมันคือแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคของผู้คนในพื้นที่ และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรมของชุมชนเกษตรกร รวมทั้งการเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการป้องกันภัยแล้ง และการป้องกันอุทกภัยไปพร้อมด้วย ถือเป็นประเด็นการสร้างประโยชน์ทางสังคมที่โดดเด่นในพื้นที่ .. ระบบไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH อาจต้องมีการลงทุนเริ่มต้นสูง วางแผนงานได้อย่างยากเย็น และใช้เวลาก่อสร้างนาน แต่ก็เป็นที่แน่ชัด และได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ด้วยราคาค่าดำเนินงานที่ต่ำมาก ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH สามารถช่วยให้พลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy มีสัดส่วนสูงขึ้นบนระบบสายส่ง Power Grids รวมทั้งทำให้เกิดความเสถียรในโครงข่ายระบบสายส่งกริดไฟฟ้า Power Grids ด้วยราคาพลังงานที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ..
โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH Plants แตกต่างจากชุดแบตเตอรี่ตรงที่ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบซิงโครนัส Synchronous Generators ซึ่งจะช่วยให้โครงข่ายระบบสายส่งกริดไฟฟ้ามีเสถียรภาพสำหรับรองรับกำลังไฟฟ้าที่ผันแปรจากแหล่งพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ Asynchronous Wind & Solar Power ได้อย่างยอดเยี่ยม ..

ข้อได้เปรียบ และประโยชน์ที่โดดเด่นของการจัดวางระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower : PSH บนโครงข่ายระบบสายส่งนั้น ได้แก่ พวกมันเป็นแหล่งพลังงานสะอาดแน่นอนไม่มีข้อสงสัย ..
ทั้งนี้ ในภาพรวมนั้น เทคโนโลยีกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydroelectricity Technologies ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีความเชื่อถือสูง และมีการให้บริการในวงกว้างมานานกว่า 100 ปี .. พวกมัน สามารถให้ขนาดความจุกำลังไฟฟ้าปริมาณมหาศาลที่มั่นคงเป็นเวลายาวนานกว่าชุดแบตเตอรี่ หรือการตอบสนองต่อความต้องการพลังงานสำหรับระบบเศรษฐกิจ และสังคมของมนุษยชาติได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถลดต้นทุนทางพลังงาน ลดข้อจำกัดของเครือข่าย และลดความจำเป็นในการลงทุนเครือข่ายเพิ่มเติมได้อย่างมาก รวมถึงศักยภาพในการสตาร์ทระบบเร่งด่วน Black Start และการตอบสนองต่อสถานการณ์ทางพลังงานที่อ่อนตัว ส่งผลให้ปัญหาเรื่องความไม่สม่ำเสมอในการผลิตพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Generation ได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ ลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค สร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวสำหรับประเทศชาติ และสามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide : CO2 สู่สิ่งแวดล้อมได้หลายล้านตันในแต่ละปีอีกด้วย ..
กำลังไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศไทย Hydroelectricity or Hydropower in Thailand ..
พลังงานไฟฟ้าพลังน้ำ Hydroelectricity คือแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย Thailand’s Largest Renewable Energy Source แต่การผลิตกำลังไฟฟ้าของประเทศ Country’s Power Generation ยังคงใช้น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ Oil & Natural Gas เป็นหลัก ..
กำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำของไทย Thailand’s Hydropower Capacity ในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 3.7 GW โดยมีเขื่อนภูมิพล Bhumibol Dam เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย Thailand’s Largest Hydroelectric Dam ด้วยกำลังการผลิตขนาด 749 MW ..
ปัจจุบัน ประเทศไทย Thailand มีนโยบายให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียน Prioritize Renewable Energy รวมถึงกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Including Hydropower มาอย่างต่อเนื่อง .. ภายในปี 2580 ตามแผนพัฒนากำลังผลิตพลังงานไฟฟ้าแห่งชาติ National Power Development Plan : PDP 2024-2037 ของไทย มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Renewable Electricity ให้เป็นมากกว่า 50% ซึ่งรวมไปถึงการนำเข้ากำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ เพิ่มเติม 15% เพื่อเพิ่มขนาดกำลังผลิตอีก 3,500 MW ระหว่างปี 2578-2580 ..
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคมต่อการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเขื่อนผลิตกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง ก็อาจลดทอนประสิทธิภาพ และผลผลิตของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในระยะยาวได้นั้น คือความท้าทายของไทยที่เกี่ยวข้องกับกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower ..
สำหรับ เขื่อนภูมิพล Bhumibol Dam นั้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) Electricity Generating Authority of Thailand : EGAT เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ และจัดดำเนินงานมาจนถึงปัจจุบัน .. ทั้งนี้แหล่งเก็บพลังงานน้ำที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดต่างๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศของไทยนั้น มีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น เป็นแหล่งน้ำในภาคการเกษตร ป้องกันอุทกภัย สนับสนุนการท่องเที่ยว และการทำประมงได้เป็นอย่างดี รวมทั้งพบว่า แม้น้ำท่วมผืนป่าจนดูเหมือนพื้นที่ป่าจะลดลง แต่ภาพรวมสุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่ป่าไม้กลับมีเพิ่มขึ้น จำนวนสัตว์ป่าก็มีเพิ่มมากขึ้นตามมา ระดับน้ำใต้ดินที่ยกตัวสูงใกล้ผิวดินมากขึ้น และการสร้างความชื้นในอากาศ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นมาพร้อมด้วยในพื้นที่ชุมชนเกษตรกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศ ..
ในประเด็น โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำ Pumped Storage Hydropower : PSH Plants นั้น โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำ PSH Plant ของไทยปัจจุบัน จะเน้นไปที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา Lamtakong Jolabha Vadhana Power Plant ซึ่งดำเนินการโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กฟผ. Electricity Generating Authority of Thailand : EGAT ซึ่งใช้อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง Lamtakong Dam Reservoir ที่มีอยู่เพื่อกักเก็บน้ำสำหรับการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าประเภทนี้แห่งแรกในประเทศไทย และตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ..
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำในประเทศไทย จุดเน้นของโครงการอยู่ที่ กฟผ.กำลังมุ่งมั่นพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำอย่างแข็งขัน ด้วยแผนงานที่จะขยายกำลังการผลิตของเขื่อนที่มีอยู่อีก 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ์ Vajiralongkorn Dam, เขื่อนกระทูน Krathoon Dam และเขื่อนจุฬาภรณ์ Chulabhorn Dam โดยเป้าหมายของการขยายโครงเพื่อบรรเทาปัญหาการไม่ต่อเนื่องของแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม Solar & Wind Energy ด้วยการให้ทางเลือกในการจัดเก็บพลังงานที่เชื่อถือได้ Reliable Energy Storage Option ในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูงสุด Peak Demand Periods บนโครงข่ายระบบสายส่ง .. ทั้งนี้ กฟผ. EGAT มีแผนการลงทุนสำหรับระบบกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับบนโครงข่ายระบบสายส่ง ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบน้ำ Pumped Storage Hydropower : PSH Plants เหล่านี้ ซึ่งพวกมันทำงานโดยการสูบน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำที่สูงขึ้นในช่วงที่มีความต้องการต่ำ จากนั้นจึงปล่อยน้ำออกผ่านกังหันน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าเมื่อจำเป็น โดยมีเป้าหมายกำลังการผลิตรวม 2,472 MW ..

นอกจากกำลังไฟฟ้าพลังน้ำจากเขื่อน และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับแล้ว สำหรับในประเทศไทยนั้น ยังมีโครงการ “โรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก Small Hydropower” ลักษณะโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบน้ำไหล Run-of-River Power Plants จากลำธารบนดอยสูงกระจายแยกย่อยในพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่สูงอยู่อีกเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ หมายถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กที่สร้างขึ้นในหมู่บ้านชนบท Small-Scale Hydroelectric Power Plants Built in Rural Villages ซึ่งมักบริหารจัดการโดยชุมชนเอง โดยมุ่งมั่นที่จะให้กำลังไฟฟ้าเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากโครงข่ายระบบสายส่งกำลังไฟฟ้าของประเทศ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลเหล่านี้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การพัฒนาเหล่านี้มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุมชนชาวเขาในภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งโครงการดังกล่าวโครงการแรก และโครงการส่วนใหญ่ ได้รับการริเริ่มโดยโครงการพระราชดำริฯ Royal Projects ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของประชาชน ..
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย Small Hydropower in Remote Thailand ขับเคลื่อนโดยชุมชน .. โครงการพระราชดำริฯ Royal Projects จำนวนมาก ได้รับการพัฒนา และดำเนินการโดยสหกรณ์หมู่บ้าน Village Cooperatives ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุม และได้รับประโยชน์จากท้องถิ่น นำไปสู่การเข้าถึงกำลังไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ Reliable Electricity Access ในพื้นที่นอกโครงข่ายระบบสายส่ง Off-Grid Area ด้วยการประยุกต์ใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืน Sustainable Energy Sources และใช้การไหลของน้ำตามธรรมชาติจากแม่น้ำ และลำธาร Rivers & Streams ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy Sources ที่สะอาดสีเขียว ..
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย ทรงสนพระทัยเรื่อง “น้ำ” เป็นอันดับต้นๆ เพราะทรงทราบว่า “น้ำ” คือปัญหาสำคัญของเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศพระองค์ จึงทรงมีพระราชดำริมากมายเกี่ยวกับการจัดการ “น้ำ” เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำในการทำการเกษตรอย่างพอเพียง .. ในเวลาเดียวกัน พระองค์ยังทรงมีพระราชดำริให้นำ “น้ำ” ที่กักเก็บเอาไว้มาใช้ประโยชน์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรแบบองค์รวมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนมาพร้อมด้วย ..
ตัวอย่างโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ จังหวัดยะลา, โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านยาง จังหวัดเชียงใหม่, โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านขุนกลาง จังหวัดเชียงใหม่, โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่, โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนพรมธารา จังหวัดชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนห้วยกุ่ม จังหวัดชัยภูมิ, โรงไฟฟ้าพลังน้ำคลองช่องกล่ำ จังหวัดสระแก้ว, โรงไฟฟ้าพลังน้ำไอกะเปาะ จังหวัดนราธิวาส และโรงไฟฟ้าพลังน้ำทุ่งเพล จังหวัดจันทบุรี เป็นต้น ..
ทั้งนี้ แนวพระราชดำริฯ อันเกี่ยวกับการใช้พลังงานน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้านั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทั้ง 2 พระองค์จะทรงเน้นการก่อสร้างเขื่อน พัฒนาแหล่งน้ำ และการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก เพื่อเก็บกักน้ำ และผลิตกำลังไฟฟ้าไว้ใช้ในชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะเป็นการเสริมการทำงานของเขื่อนขนาดใหญ่ที่จัดทำโดยหน่วยงานภาครัฐ ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้แต่ละชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผนวกกับให้ประชาชนได้รับการพัฒนาการส่งเสริมอาชีพ พึ่งพาตนเองได้ และเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในทุกภาคส่วนของประเทศไปพร้อมด้วย ..
คาดการณ์ตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำทั่วโลก Global Hydropower Generation Market ..
การผลิตกำลังไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าพลังงานน้ำทั่วโลก Electricity Generation in the Hydropower Market คาดว่าจะสูงถึง 4.39 ล้านล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง tn KWh ในปี 2568 นี้ และได้รับการคาดหมายว่า อัตราการเติบโตของกำลังผลิตไฟฟ้าพลังน้ำต่อปี Annual Hydropower Growth Rate จะอยู่ที่ค่า CAGR 1.23% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2568-2572 ..
ภาคส่วนกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Hydropower Sector ทั่วโลก ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และนวัตกรรม Sustainability & Innovation มากขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยความมุ่งมั่นของประเทศต่างๆ ที่มีต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน Commitments to Renewable Energy และการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Climate Change Mitigation ..
ตลาดกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำทั่วโลก Global Hydropower Market กำลังเผชิญกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศต่าง ๆ พยายามเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน Enhance Energy Security และลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน Reduce Carbon Footprints .. ในภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Southeast Asia มีการพัฒนาโครงการพลังงานน้ำขนาดเล็ก Small-Scale Hydropower Projects ที่ส่งเสริมชุมชนในท้องถิ่น Empower Local Communities และส่งเสริมความเป็นอิสระด้านพลังงาน Promote Energy Independence เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ .. ในยุโรป Europe ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการปรับปรุงโรงงานที่มีอยู่ให้ทันสมัย ปรับปรุงประสิทธิภาพ และความยั่งยืน .. ในขณะเดียวกัน ในอเมริกาเหนือ North America มีการผลักดันให้ใช้ระบบการจัดการน้ำ และพลังงานแบบบูรณาการ ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางองค์รวมในการใช้ทรัพยากร .. ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำ Critical Role of Hydropower ในการบรรลุเป้าหมายพลังงานหมุนเวียน Achieving Renewable Energy Targets และศักยภาพในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความยืดหยุ่นในหมู่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย Potential to Foster Economic Growth & Resilience among Stakeholders ..
อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ Precedence Research พบว่า ขนาดธุรกิจในตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำทั่วโลก Global Hydropower Generation Market มีมูลค่า 296.13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 431.64 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2577 ด้วย อัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate : CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับการลงทุนในตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำทั่วโลก Global Hydropower Generation Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุดรวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 3.84% ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2568-2577 ..

ข้อมูลภาพรวมสำคัญเกี่ยวกับตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Generation Market แสดงให้เห็นว่า เอเชียแปซิฟิก Asia Pacific ครองตลาดโลกโดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่ 39% ในปี 2567 .. คาดว่ายุโรป Europe จะมีการขยายตัวที่อัตราการเติบโตต่อปีด้วยค่า CAGR ที่โดดเด่นในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ .. เมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตแล้ว ยังพบอีกด้วยว่า กลุ่มไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดใหญ่ Large Hydropower Segment มีส่วนสนับสนุนส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด ในปี 2567 หากแต่ว่า กลุ่มไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็ก Small Hydropower Segment คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อปีด้วยค่า CAGR ที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงปี 2568-2577 ..
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia Pacific ครองสัดส่วนตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Generation Market ด้วยมูลค่าตลาด อยู่ที่ 115.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567 และขยายตัวที่อัตราการเติบโตต่อปี อยู่ที่ค่า CAGR 3.97% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ .. ประเทศต่างๆ เช่น จีน China, อินเดีย India และเวียดนาม Vietnam คือผู้นำในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Capacity Expansion โดยลงทุนอย่างหนักในโรงไฟฟ้าใหม่ และปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีอยู่เดิม เพื่อกระตุ้นการผลิตกำลังไฟฟ้า .. ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พึ่งพาพลังงานน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะส่วนหนึ่งของเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality Goals .. การลงทุนในเทคโนโลยีสมาร์ทกริด Investments in Smart Grid Technologies และข้อไขโซลูชันการจัดเก็บพลังงาน Energy Storage Solutions ยังช่วยให้บูรณาการกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำเข้ากับโครงข่ายระบบสายส่งกริด Integration of Hydropower into the Power Grids ได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของอุปทานพลังงานทั่วทั้งภูมิภาค Stability of Energy Supply across the Region ..
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ยุโรป Europe จะมีขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปี ด้วยค่า CAGR ที่เร็วที่สุดในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ โดยสหราชอาณาจักร United Kingdom : UK ครองตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower Generation Market ในภูมิภาคยุโรป Europe Region .. กฎระเบียบของรัฐบาลที่เข้มงวด และเอื้ออำนวย ซึ่งนำโดยสหภาพยุโรป European Union : EU และรัฐบาลของแต่ละประเทศ คือแรงผลักดันให้ตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำในภูมิภาคเติบโต .. การขยายตัวของเมือง และอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำในยุโรปเพิ่มขึ้น .. นอกจากนี้ ความต้องการพลังงานหมุนเวียน Demand for Renewable Energy ที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยเปิดทางใหม่ให้กับการเติบโต และการพัฒนาของตลาดการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในยุโรปอีกด้วย .. รัฐบาลยังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอนุมัติโครงการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น ปัจจัยเหล่านี้จึงช่วยส่งเสริมการเติบโตของตลาดการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังน้ำในภูมิภาคยุโรป Boosting the Growth of the Hydropower Generation Market in Europe Region ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ ..
ทั้งนี้ การพัฒนาพลังงานน้ำขนาดเล็กจิ๋ว และขนาดเล็ก Micro & Small Hydropower Development รวมทั้งการขยายขีดความสามารถในการผลิต Expansion of Manufacturing Capabilities มีศักยภาพสำคัญสำหรับโครงการผลิตกำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กต่าง ๆ มากมายทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล หรือชนบท ซึ่งสามารถจัดหาข้อไขโซลูชันพลังงานในพื้นที่นอกโครงข่ายระบบสายส่งไฟฟ้าได้ .. กำลังไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ Pumped Storage Hydropower คือโอกาสในการจัดเก็บพลังงานขนาดใหญ่ เมื่อความต้องการข้อไขโซลูชันการจัดเก็บพลังงาน Demand for Energy Storage Solutions เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยสร้างสมดุลระหว่างอุปทาน และอุปสงค์ และสนับสนุนการบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ต่อเนื่อง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และลม Solar & Wind Energy .. ประเทศกำลังพัฒนาที่มีทรัพยากรน้ำอุดมสมบูรณ์ และความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นนั้น หมายถึงโอกาสที่สำคัญสำหรับการพัฒนาพลังงานน้ำ ซึ่งขับเคลื่อนโดยความพยายามในการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การเน้นย้ำที่เพิ่มมากขึ้นในโครงการพลังงานน้ำที่ยั่งยืน ซึ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เช่น กังหันที่เป็นมิตรต่อปลา และเทคโนโลยีการจัดการตะกอน เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ..
กลุ่มพลังงานน้ำขนาดเล็ก Small Hydro Power Segment คือกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดการผลิตพลังงานน้ำ Hydropower Generation Market ในปี 2567 .. พลังงาน Energy กลายเป็นความต้องการ และความจำเป็นที่สำคัญอย่างหนึ่งในยุคปัจจุบัน .. แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของพลังงานสะอาด และพลังงานสีเขียว Growing Trend of Clean & Green Energy คือแรงผลักดันความต้องการพลังงานน้ำขนาดเล็ก Demand for Small Hydro Power .. ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปล่อยคาร์บอน เป็นแรงสนับสนุนการเติบโต และการพัฒนาของกลุ่มนี้ พลังงานน้ำขนาดเล็ก Small Hydro Power มีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำประเภทอื่น Low Cost as Compared to Other Types of Hydro Power Plants .. พลังงานน้ำขนาดเล็ก Small Hydropower สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภาคส่วนต่างๆ ได้มากมาย โดยส่วนใหญ่ใช้เพื่อการผลิตกำลังไฟฟ้า ดังนั้น ความต้องการพลังงานน้ำขนาดเล็ก Demand for Small Hydropower จึงเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น ..
สรุปส่งท้าย ..
จนถึงปัจจุบัน กำลังไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศไทย Thailand’s Hydropower คือรูปแบบพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ รวมกว่า 7,000 MW ที่ติดตั้งในเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ 26 แห่งทั่วประเทศ .. เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ เขื่อนภูมิพล Bhumibol Dam ซึ่งมีกังหัน 8 ตัว กำลังการผลิตรวม 749 MW .. เขื่อนแห่งนี้ เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2507 และดำเนินการโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) EGAT ..
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบไฟฟ้าพลังน้ำของไทย ได้ชะลอตัวลงเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ การคัดค้านการก่อสร้างเขื่อน และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ด้วยข้อมูลที่บางส่วนไม่ถูกต้องนักของกลุ่มนักเคลื่อนไหว ทำให้ภาครัฐ หันไปมุ่งไปสู่การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก Small Hydropower Plants แทน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันในแผนงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และแผนงานติดตั้งระบบจัดเก็บไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage : PHS ในอัตราการเพิ่มกำลังผลิตที่เหมาะสมหรือไม่ จึงยังเป็นที่สงสัย ..

ประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรมชั้นนำของโลก การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลาง รวมทั้งอ่างพวงต่างระดับ ด้วยกรอบนโยบายของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และแผนงานชลประทานระบบลุ่มน้ำที่มุ่งดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำให้สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคมในพื้นที่ และสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งรวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางต่างระดับสำหรับระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage : PHS ไปพร้อมด้วยนั้น เป็นแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมที่มั่นคง และยั่งยืนของประเทศ .. การก่อสร้างเขื่อน และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ยังคงมีความจำเป็น .. พวกมันมิได้เป็นตัวการทำลายระบบนิเวศวิทยา หรือก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ มากไปกว่าแหล่งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy รูปแบบอื่นๆ แน่นอนปราศจากข้อสงสัย ..
การดำรงคงอยู่ของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และอ่างพวงต่างระดับในพื้นที่ สามารถทำระบบนิเวศฯ ที่ถูกผู้คนได้ทำลายสิ้นซากไปแล้วนั้น ให้กลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้ด้วยเช่นกัน .. เขื่อน แหล่งน้ำ และอ่างเก็บน้ำ ก็ยังสามารถป้องกันอุทกภัยได้อีกด้วย .. นอกจากศักยภาพในการจัดเก็บพลังงานได้เช่นเดียวกับชุดแบตเตอรี่ของอ่างเก็บน้ำด้านบนแล้ว พวกมันสามารถกักเก็บน้ำในฤดูน้ำหลากในช่วงฝนหนักไว้ มิให้น้ำท่าปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เมือง ชุมชน หรือพื้นที่เกษตรกรรมได้ .. ขณะเดียวกันในฤดูแล้ง ด้วยการบริหารจัดการน้ำของกลุ่มผู้ใช้น้ำในท้องถิ่น และชุมชนเอง ก็จะส่งผลให้ประชาชน เกษตรกร และชุมชนที่ห่างไกลในพื้นที่ มีแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตร และการรักษาระบบนิเวศฯได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ..
สิ่งที่คนไทยได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพลฯ ตั้งแต่ปี 2507 เป็นต้นมา พบว่า ป่า ต้นไม้ พืชพันธุ์หายาก สัตว์ป่าหายาก และความหลากหลายในทางชีววิทยาบริเวณพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำ กลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ .. แหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้ทำให้ สัตว์ป่า และพืชหายากกลับมา ปลาในอ่างเก็บน้ำเพิ่มจำนวนขึ้น ระบบนิเวศวิทยาฟื้นตัวขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ..
นอกจากนั้น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้คนจากการทำประมงพื้นบ้าน เกิดระบบประปาชุมชน ประปาหมู่บ้าน กลุ่มสหกรณ์ผู้ใช้น้ำ วิสาหกิจชุมชนเกษตรกร และระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าพลังน้ำที่ได้มาตรฐาน .. อ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำในพื้นที่เหล่านี้ ได้ส่งผลลัพธ์สำคัญที่ทำให้ระดับน้ำใต้ดินจากเดิมลึกลงไปมากกว่า 20 เมตร กลับกลายเป็นลึกเพียง 4-5 เมตร ซึ่งเกษตรกร สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำใต้ดินได้ด้วยเพียงการขุดบ่อน้ำตื้นง่ายๆ เท่านั้น จึงส่งผลต่อเนื่องให้ผลผลิตการเกษตรในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายตลอดทั้งปี ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครเคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ ..
ดังนั้น หากประเทศไทย ยังต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และยังคงยืนยันมุ่งมั่นที่จะใช้แหล่งพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน และพลังงานหมุนเวียน Renewable Energy มากกว่า 30% ตามแผนงานในการผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศให้ได้ภายในปี 2578 นั้น ระบบไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower และระบบไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage : PHS รวมทั้งระบบกำลังไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก Small Hydropower รูปแบกระจาย กลายเป็นความจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ ซึ่งทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในแหล่งพลังหมุนเวียนที่แสดงบทบาทหลักในกำลังผลิตไฟฟ้าสะอาดของประเทศ .. ดังนั้นโครงการก่อสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ อ่างพวงต่างระดับ และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จึงต้องกลายเป็นความจำเป็นของชาติที่จะไม่เร่งพิจารณาดำเนินการต่อเนื่องต่อไปนั้นไม่ได้ ..
การชี้แจงเหตุผล รวมทั้งประโยชน์ต่างๆ ที่ประชาชนคนไทยจะได้รับ เพื่อให้สาธารณชนได้ทราบ และเข้าใจเกี่ยวกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางขึ้นไป พร้อมระบบไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower รวมทั้งการติดตั้งระบบจัดเก็บพลังงานด้วยพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage : PHS เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก .. ภาครัฐต้องใช้ความพยายามให้มากกว่านี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ไม่เพียงจะเกิดผลดีทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเกษตรกรรม รวมทั้งการพัฒนาที่ยั่งยืนเท่านั้น ความมั่นคงทางพลังงานของชาติ ก็จะได้รับการประกันไปพร้อมด้วยเช่นกัน คาดหมายได้ว่า ระบบกำลังไฟฟ้าพลังน้ำ Hydropower ขนาดต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และระบบจัดเก็บพลังงานด้วยไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ Pumped Hydro Storage : PHS บนโครงข่ายระบบสายส่ง ยังคงเป็นคำตอบของประเทศที่แสดงบทบาทสำคัญอยู่ต่อไป ไม่มีข้อสงสัย .. การผนวกมันไว้ในสมการความมั่นคงทางพลังงานของชาติด้วยนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องการการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่อนาคตของประเทศที่ยั่งยืนให้สำเร็จได้ในที่สุด ..
…………………….
คอลัมน์ : Energy Key
By โลกสีฟ้า ..
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-
What Is the Future of Hydropower and Hydropower Technology? | PCI :-
Power Plants and Dams | EGAT :-
Hydropower Around the World | Hydropower.org :-
The 10 Biggest Hydroelectric Power Plants in the World | Power Technology :-
Hydropower Facts & Information | National Geographic :-
Thailand to Add 3 More Large – Scale Pumped Storage Hydropower Plants | Reccessary :-
Hydropower Generation Market Size and Forecast 2025 to 2034 | Precedence Research :-
Hydropower & Hydroelectricity :-











