“ลวรณ”เผยจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2568 พลาดเป้า หลังเศรษฐกิจโตไม่ถึง 2% ขณะที่ยอดจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ 8 เดือนของปี งบประมาณ 2568 อยู่ที่ 1.70 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการณ์ 12,753 ล้านบาท
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2568 ว่า จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้โตต่ำกว่าสมมุติฐาน เดิมคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โตสูงถึง 4.5-5% แต่สถานการณ์จริงอาจโตไม่ถึง 2% ซึ่งกรมสรรพากร หน่วยงานหลักในการจัดเก็บภาษี ได้มีการทำงานอย่างเข้มข้น เพื่อพยายามรักษาระดับการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่สุด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดเก็บภาษีได้เท่าเดิม
ขณะที่รัฐวิสาหกิจไ้ด้เรียกเก็บเงินเพิ่มจากรัฐวิสาหกิจที่มีกำไร โดยมีเกณฑ์ว่าไม่ควรเก็บกำไรไว้ในธุรกิจ และไม่นำไปลงทุน ซึ่งรายได้จากรัฐวิสาหกิจอยู่ประมาณแสนกว่าล้านบาท ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนการจัดเก็บรายได้รัฐบาล เช่น รายได้จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น
ส่วนผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปี งบประมาณ 2568 (ต.ค. 67– พ.ค.68) อยู่ที่ 1,704,184 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการณ์ 12,753 ล้านบาท หรือ 0.7% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 28,834 ล้านบาท หรือ 1.7% โดยภาษีรถยนต์ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการณ์
โดยผลการจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีนิติบุคคลบางส่วนเปลี่ยนไปยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด. 50) ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีกำหนด ระยะเวลาสิ้นสุดการยื่นแบบในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2568 กระทรวงการคลังจะติดตามและบริหารการจัดเก็บรายได้อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างฐานะการคลังให้มีความมั่นคง พร้อมสนับสนุนการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐต่อไป
ด้านฐานะการคลังของรัฐบาล ตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 1,642,494 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 2,593,065 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 777,123 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ระดับ 420,170 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 338,541 ล้านบาท.











