ซูเปอร์โพล เผยผลวิจัยความสุขของเยาวชนต่ำกว่าความสุขของคนวัยอื่น ๆ และเทียบกับคนวัยทำงานระยะแรกเป็นความสุขของกลุ่มคนที่จุดเจ็บปวด แนะจำเป็นต้องมีมาตรการตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของคนทั้งสองกลุ่ม ชี้คนสองกลุ่มนี้เป็นจุดแข็งของประเทศที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับความมั่นคง มั่นคงและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ได้เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความสุขประเทศไทยวัยที่แตกต่าง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ พบว่า ความสุขของเยาวชนต่ำกว่าความสุขของคนวัยอื่น ๆ ในหลายตัวชี้วัด เช่น ความสุขต่ออนาคต อาชีพการงานความสุขต่อรายได้ของตนเอง ความสุขต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติ และความสุขต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เป็นต้น
เมื่อถามถึง ความสุขในมิติต่าง ๆ ของประชาชนวัยที่แตกต่างกัน เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี มีความสุขที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน แสดงความจงรักภักดี อยู่ที่ 5.71 คะแนน คนอายุ ระหว่าง 25 – 39 ปี มีความสุขที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดี อยู่ที่ 6.20 คะแนน คนอายุระหว่าง 40 – 59 ปี มีความสุขที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดี อยู่ที่ 7.17 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความสุขที่เห็นคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันแสดงความจงรักภักดี อยู่ที่ 7.58 คะแนน
ที่น่าพิจารณาคือ เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี มีความสุขในครอบครัว 6.85 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 –39 ปี หรือคนเข้าสู่การทำงานระยะแรกของชีวิตมีความสุขในครอบครัวต่ำสุด ต่ำกว่าทุกกลุ่มวัยอยู่ที่ 6.19 คน อายุระหว่าง 40 – 49 ปีมีความสุขในครอบครัวอยู่ที่ 7.10 และคนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความสุขในครอบครัวอยู่ที่ 7.51 คะแนน
แต่เมื่อถามถึงความสุขในชุมชน พบว่า เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีมีความสุขในชุมชนต่ำสุดคืออยู่ที่ 5.77 คะแนนจากเต็ม 10 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 – 39 ปีมีความสุขในชุมชนอยู่ที่ 6.12 คะแนน คนอายุระหว่าง 40 – 49 ปี มีความสุขในชุมชนอยู่ที่ 6.68 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีความสุขในชุมชนอยู่ที่ 6.88 คะแนน ที่น่าห่วง คือ ความสุขต่อ อนาคต / อาชีพการงาน พบว่า เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี มีความสุขต่อ อนาคต / อาชีพการงาน ต่ำสุด ต่ำกว่าทุกกลุ่มอายุ อยู่ที่ 5.62 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 – 39 ปี มีความสุขต่ออนาคต อาชีพการงาน อยู่ที่ 6.08 คะแนน คนอายุระหว่าง 40 – 59 ปี มีความสุขต่ออนาคต อาชีพการงาน อยู่ที่ 6.30 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีความสุขต่ออนาคต อาชีพการงานอยู่ที่ 6.68 คะแนน
นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ความสุขต่อนักการเมือง พบว่า กลุ่มคนเกือบทุกช่วงอายุมีความสุขต่อนักการเมืองต่ำกว่าเกณฑ์ กลุ่มเยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี มีความสุขต่อนักการเมืองอยู่ที่ 4.85 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 – 39 ปีมีความสุขต่อนักการเมืองอยู่ที่ 5.76 คะแนน คนอายุระหว่าง 40 – 59 ปี มีความสุขต่อนักการเมืองอยู่ที่ 4.85 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีความสุขต่อนักการเมืองต่ำสุดคืออยู่ที่ 4.12 คะแนน ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปี มีความสุขต่อเศรษฐกิจของประเทศ ต่ำสุด คือ เพียง 3.82 คะแนน ในขณะที่ คนอายุ 25 – 39 ปีมีความสุขต่อเศรษฐกิจของประเทศเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยคือ อยู่ที่ 5.40 คะแนน ที่เหลือคนอายุระหว่าง 40 – 59 ปีมีความสุขต่อเศรษฐกิจของประเทศต่ำกว่าเกณฑ์เช่นกันคืออยู่ที่ 4.74 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไปก็เช่นกันมีความสุขต่อเศรษฐกิจของประเทศต่ำกว่าเกณฑ์ คือมีเพียง 4.04 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ความสุขของประชาชนต่อ ความรักความสามัคคีของคนในชาติ ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต หรือเลวร้ายจนเกินไป ถึงแม้เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีมีความสุขต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติต่ำสุดคืออยู่ที่ 5.21 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 – 39ปีมีความสุขต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติอยู่ที่ 6.02 คะแนน คนอายุระหว่าง 40 – 59 ปีมีความสุขต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติอยู่ที่ 6.01 คะแนนและคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีความสุขต่อความรักความสามัคคีของคนในชาติอยู่ที่ 5.91 คะแนน ที่น่าสนใจคือ คนทุกกลุ่มวัยในวันนี้ยังมีความสุขโดยรวมอยู่ในระดับที่ค่อนข้างมีความสุข คือ เยาวชนอายุไม่เกิน 24 ปีมีความสุขรวมอยู่ที่ 6.28 คะแนน คนอายุระหว่าง 25 – 39 ปีมีความสุขรวมอยู่ที่ 6.21 คะแนน คนอายุ 40 – 59 ปีมีความสุขรวมอยู่ที่ 6.60 คะแนน และคนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีความสุขรวมสูงสุดอยู่ที่ 6.93 คะแนน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลวิจัยความสุขของประชาชนครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสุขของเยาวชนกับความสุขของคนวัยที่ทำงานระยะแรกในชีวิตเป็นความสุขของกลุ่มคนที่จุดเจ็บปวด (Pain Point) จำเป็นต้องมีมาตรการตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของคนทั้งสองกลุ่มวัยนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น คนทั้งสองวัยเหล่านี้ควรจะได้รับการมุ่งเน้นที่ อนาคตที่ดี มีทัศนคติที่ดี มีงานทำ มีรายได้ดี มีจิตอาสาจะเป็นเหตุปัจจัยทำให้สถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้และผ่าน ขอให้ผู้ใหญ่มองคนวัยต้นๆ ส่วนใหญ่เหล่านี้คือ จุดแข็งของประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ได้ ทั้งเยาวชนและคนวัยทำงานระยะแรกควรได้รับการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพวกเขาโดยเร็วและอย่างเหมาะสมที่สุด ก่อนจะลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้