หน้าแรกCOLUMNISTSคนไทย‘แบกหนี้’รายรับไม่พอรายจ่าย!!! เงินเดือนเกินแสนใช้แบบ‘เดือนชนเดือน’

คนไทย‘แบกหนี้’รายรับไม่พอรายจ่าย!!! เงินเดือนเกินแสนใช้แบบ‘เดือนชนเดือน’

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของ รัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” หรือ “Quick Big Win” ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นจาก “ภาวะติดหล่ม”

ทั้งหมดจะผ่าน 5 เสาหลัก สำคัญ ได้แก่ การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว-การลดภาระหนี้ประชาชน-การเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี-การเพิ่มการออมภาคประชาชน และเสาที่ 5 คือ การลงทุนเพื่ออนาคต

ในเรื่องของ การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รัฐบาลได้ดำเนินการแล้ว ผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อลดรายภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และโครงการ “เที่ยวดีมีคืน” ที่กระตุ้นให้คนออกมาเดินทาง ใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว

ส่วนเรื่อง การลดภาระหนี้ประชาชน โดยใช้กลไกของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ “เอเอ็มซี” เพื่อเข้าไปบริหารจัดการและช่วยลดภาระของลูกหนี้ ให้ออกจากกับดักหนี้ให้ได้

เรื่องนี้ได้ผ่านความเห็นชอบของครม.เศรษฐกิจ ไปแล้ว และเตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า หรือภายในวันที่ 11 พ.ย.68 นี้

อย่างที่รู้กันว่า…คนไทยเป็นหนี้เกือบครึ่งค่อนประเทศ โดยเฉพาะ “หนี้ส่วนบุคคล” ที่แม้เป็นวัยเกษียณก็ยังมีหนี้ติดตัว ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงบรรดามนุษย์เงินเดือน ที่แน่นอนเป็นหนี้กันท่วมท้น

ปัญหาใหญ่!! อย่างที่รู้กัน มีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ด้วยเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว บางคนต้องใช้เงินแบบเดือนชนเดือน บางคนที่มือเติบ ก็ต้องไปกู้มาใช้จ่าย

ล่าสุด…ข้อมูลจากปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ระบุว่า ในปี 2568 นี้ ไทยมีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึง 22% โดยเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 4 ปี

ทั้งนี้ไทยมีหนี้ครัวเรือนเฉลี่ย 740,000 บาท ต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีหนี้ครัวเรือนประมาณ 6 แสนบาท และไทยก็มีปัญหาหนี้ครัวเรือนมานานถึง 10 ปี แล้ว โดยมีสัดส่วนกว่า 80% ของจีดีพี

ขณะเดียวกันยังพบว่า ในปีนี้ สัดส่วนหนี้นอกระบบ มีมากถึง 35% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วน 30.1% ขณะที่มีอัตราผ่อนชำระเดือนละประมาณ 20,290.37 บาท เพิ่มขึ้นราว 8%

ด้านข้อมูลของ “ทีเอ็มบีธนชาต” ระบุว่า จากการทำโปรแกรมตรวจสุขภาพทางการเงินออนไลน์ของมนุษย์เงินเดือนในไทยกว่า 96,000คน ระหว่างเดือนส.ค. 2566-ก.พ. 2568 พบว่า มนุษย์เงินเดือนมากถึง 82% มีภาระหนี้

ส่วนใหญ่เป็น “หนี้ส่วนบุคคล” และ “หนี้บัตรเครดิต” คิดเป็นสัดส่วนถึง 53% รองลงมาคือ “หนี้รถ” 17% และ “หนี้บ้าน” 15% ที่สำคัญยังพบว่า 49% ของมนุษย์เงินเดือนเหล่านี้ ยังมี “หนี้สะสม” จากพฤติกรรมจ่ายขั้นต่ำ หรือการผิดนัดชำระ

ขณะที่ 65% ของคนที่ยังจ่ายไหวเป็นการชำระเงินขั้นต่ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงสะสมจากดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและอยู่ในวงจรหนี้ไม่สิ้นสุด

ที่สำคัญข้อมูลของ “มนุษย์เงินเดือน” ได้สะท้อนให้เห็น “พฤติกรรมทางการเงิน” ของมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่ยัง “ขาดภูมิคุ้มกันทางการเงิน” ที่เพียงพอ

จากการสำรวจพบว่า 29% ของมนุษย์เงินเดือน มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และ 51% ใช้เงินเดือนแบบเดือนชนเดือน ส่งผลให้ 77% มีเงินออมน้อยกว่า 10% ของรายได้ และ 70% ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอ จากที่ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 6 เดือนของรายได้

ยิ่งไปกว่านั้น…ยังพบว่า มากถึง 80% ไม่มีความคุ้มครองที่เพียงพอหากเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายไม่คาดฝัน ส่งผลให้ 54% ของผู้สำรวจระบุว่า หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจะกระทบต่อฐานะการเงินโดยรวมทันที

“นริศ สถาผลเดชา” ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต บอกว่า…ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ปานกลางหรือต่ำเท่านั้น

เพราะจากข้อมูลพบว่า 32% ของผู้ที่มีรายได้เกิน 100,000 บาทต่อเดือน ยังคงใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน และอีก 16% มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ สะท้อนว่า ความไม่มั่นคงทางการเงินเกิดขึ้นกับทุกระดับรายได้

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า 57% ของคนที่อยู่ในเจนเอ็กซ์ และกลุ่มเบบี้ บลูมเมอร์ ยังไม่มีการวางแผนเพื่อการเกษียณ ที่เพียงพอและพอดี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง

จากข้อมูลการเป็นหนี้ในเวลานี้ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ หากรัฐบาลไม่สามารถเข้ามาจัดการ หรือบริหารในเรื่องนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เชื่อเถอะ…ทุ่มเงินไปเท่าใดก็ไม่พ้นจากการ “ติดหล่ม”

………………

คอลัมน์ : EC Focus by Virgo


- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img