“เทพไท” เปิดที่มาของ “อนุทิน” ออกแถลงการณ์ 8 ข้อถึง “พรรคประชาชน” โดยตอกย้ำเงื่อนไขใน MOA ทุกประการ หวังให้ยื่นซักฟอกแบบไม่ลงมติ โดยพร้อมตอบคำถามทุกเรื่อง
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิเคราะห์การเมือง และอดีต สส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นเรื่อง “เบื้องหลัง อนุทิน ออกแถลงการณ์ 8 ข้อ” มีรายละเอียว่า…“ผมได้อ่านแถลงการณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับประเด็นการชิงยุบสภา หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 8 ข้อนั้น จะเห็นได้ว่าข้อ 1 ถึงข้อ 4 เป็นการกล่าวถึงนโยบาย และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไข MOA ทุกประการ คือ
1.ข้อตกลงกับพรรคประชาชน ว่าจะยุบสภา ภายใน 120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ม.ค.69
2.ข้อตกลงที่ทำกับพรรคประชาชน มีสาระสำคัญคือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดตั้ง สสร. 2.การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3.ยุบสภาผู้แทนราษฎร ภายใน 120 วัน 4.พรรคประชาชน เป็นพรรคฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบ ให้คำแนะนำการทำงานของรัฐบาล
3.จะทำภารกิจสำคัญ 3 ประการคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดทำประชามติ และยุบสภาผู้แทนราษฎร ให้แล้วเสร็จ
4.จะขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชน ของประเทศ 4 เรื่อง คือ 1.ปัญหาเศรษฐกิจ 2.ปัญหาความมั่นคง 3.ปัญหาภัยธรรมชาติ และ 4.ปัญหาภัยสังคม ยาเสพติด ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน
ส่วนแถลงการณ์ตั้งแต่ข้อ 5 ถึงข้อ 8 เป็นการอ้อนวอนพรรคประชาชนโดยตรง หวังให้พรรคประชาชนเห็นใจรัฐบาล เช่น
5.เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐบาลก็แพ้มติแน่นอน มีข้อเสนอว่า เป็นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ จะได้มั้ย หรือพร้อมพูดคุยหารือกัน
6.แม้ว่าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีในข้อตกลงก็ตาม แต่รัฐบาลพร้อมชี้แจง และไม่เคยคิดที่จะจับรัฐธรรมนูญ เป็นตัวประกัน แต่เจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จเร็วที่สุด ตามกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้นจะยุบสภาฯ
7.ให้ความสำคัญกับคุณรังสิมันต์ โรม เป็นพิเศษ ได้พยายามเชิญมาหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสแกมเมอร์ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
8.อ้อนพรรคประชาชน ว่าได้สนับสนุนให้มีรัฐบาลนี้แล้ว ประชาชนกำลังรอการเลือกตั้งใหม่ จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับพรรคประชาชนทุกประการ
การออกแถลงการณ์ 8 ข้อครั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความเห็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “นายอนุทิน ควรวางตัวเป็นแบบอย่างของผู้นำในระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรมองว่า การถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการ โดนด่าฟรี”
จึงทำให้นายอนุทินเปลี่ยนแนวความคิด เป็นต้องการให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งพร้อมที่จะไปตอบคำถามทั้งหมด ดีกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ซึ่งบทสุดท้ายจะต้องยุบสภาก่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน ซึ่งอาจทำให้นายอนุทินเสียภาพความเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตยได้
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นที่มาของการออกแถลงการณ์ 8 ข้อ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ถึงพรรคประชาชนโดยตรง”






































