หน้าแรกHighlight“ธรรมนัส”ชี้แจงสถานการณ์น้ำภาพรวม ปัดตอบการเมือง-เอาเรื่องการบ้านก่อน

“ธรรมนัส”ชี้แจงสถานการณ์น้ำภาพรวม ปัดตอบการเมือง-เอาเรื่องการบ้านก่อน

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ธรรมนัส’ บอก เอาเรื่องการบ้านก่อน ปัดตอบการเมือง แจงสถานการณ์น้ำ เผย เขื่อนเจ้าพระยา คงอัตราระบาย 2,900 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดลำน้ำกลับสู่ปกติภายในเดือน ‘มกราคม’ ปีหน้า

วันที่ 11 พ.ย.68 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์น้ำว่า เมื่อสักครู่ตนได้ไปประชุมที่กรมชลประทานมา ซึ่งภาพรวมสถานการณ์ขณะนี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ ร่องมรสุมและปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานจะลดน้อยลง และจะเข้าสู่ฤดูหนาว

ส่วนปริมาณฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงจังหวัดนราธิวาส ซึ่งตนเองเพิ่งเดินทางไปในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ พร้อมสั่งการให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ

ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลเริ่มปริ่ม แต่มีการควบคุมการระบายน้ำให้เหลือประมาณ 45–48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง มีปริมาณน้ำ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทั้งสองเขื่อนนี้จะไหลลงสู่ลำน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา ประมาณ 54 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ดังนั้นหน้าเขื่อนทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตก จะมีการระบายน้ำสู่ลำน้ำสาขาทางด้านซ้ายและขวา ซึ่งได้มีคำสั่งให้ระบายน้ำมาหลายวันแล้ว ทำให้ขณะนี้ต้องระบายน้ำออกทาเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์

หลังจากเข้าสู่สัปดาห์ที่สองและสามของเดือนธันวาคม จะเข้าสู่ภาวะใกล้ปกติ จากนั้นจะระบายน้ำประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในเดือนมกราคมจะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะระบายน้ำในปริมาณ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้

ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อน โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา , อ่างทอง และจังหวัดใกล้เคียง ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ และจะลดการระบายน้ำ รวมถึงปริมาณน้ำหนุนจากทะเล ถือเป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 14.00 น. ปริมาณน้ำทะเลจะลดลงในช่วงวันที่ 10–20 พฤศจิกายน ซึ่งขณะนี้ฝั่งตะวันออกมีการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำสาขาที่ไหลออกสู่อ่าวไทย โดยได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำและเครื่องกั้นน้ำไว้แล้ว เช่นเดียวกับแม่น้ำท่าจีนที่ได้เตรียมอุปกรณ์ไว้เช่นกัน ดังนั้นรอบเขื่อนเจ้าพระยาจึงมีการระบายน้ำตามระบบ

ส่วนในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าสามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ แต่อาจมีผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชนบ้าง แต่จะไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าหากมีพายุเข้ามาในประเทศไทยจะมีการบริหารจัดการน้ำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำได้มีการเตรียมความพร้อมตามแผนไว้ล่วงหน้านานแล้ว แต่เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ บางครั้งการพยากรณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถทำได้อย่างแม่นยำ เมื่อเกิดพายุอย่างกะทันหัน หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้นไทยจึงต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ

ส่วนการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ตนพูดอยู่เสมอว่าประชาชนที่จมอยู่ในน้ำในบางพื้นที่นานหลายเดือน บางพื้นที่อยู่นานถึงหกเดือน ตนเชื่อว่ารัฐจะมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นทางการเมือง แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่ตอบเรื่องการเมือง เอาเรื่องการบ้านก่อน” จากนั้นได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisement -spot_imgspot_img

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img