“พาณิชย์” เผยธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพ.ค.จำนวน 1,102 ราย มูลค่า 3,760 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารแชมป์ รองลงมาเป็นอสังหาริมทรัพย์-ภัตตาคาร
นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม จำนวน 1,102 ราย มูลค่า 3,760.77 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 141 ราย คิดเป็น 13% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 52 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 36 ราย คิดเป็น 3%
ทั้งนี้หากแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด
-ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 819 ราย คิดเป็น 74.32%
-ช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 233 ราย คิดเป็น 21.14%
-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 42 ราย คิดเป็น 3.81%
-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 8 ราย คิดเป็น 0.73%
สำหรับการจดทะเบียนธุรกิจใหม่พ.ค.มีจำนวน จำนวน 5,917 ราย มูลค่า 14,357.13 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก
-ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 543 ราย คิดเป็น 9%
-ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 382 ราย คิดเป็น 6%
-ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 225 ราย
หากแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด
-ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,111 ราย คิดเป็น 69.48%
-ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,726 ราย คิดเป็น 29.17%
-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 69 ราย คิดเป็น 1.17%
-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.18%
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤษภาคม 2565 ทั่วประเทศ จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน
-ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 496,968 ราย คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.15%
-ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 249,016 ราย คิดเป็น 29.72% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.19%
-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,998 ราย คิดเป็น 8.95% รวมมูลค่าทุน 2.06 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.28%
-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,858 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 16.70 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.38%
ส่วนการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนพ.ค.นั้น มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 41 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 22 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 18,695 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 237 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 55,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 14,440 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,653 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 458 ล้านบาท