นายกฯตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานสนามบินหัวหิน รองรับ International flights ย้ำเร่งปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 68 รองรับ นักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น พร้อมกับเยี่ยมชมการสาธิตการแข่งขันกีฬาวัวลาน – วัวเทียมไถ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 พ.ค. ณ ท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ ตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานสนามบิน เพื่อรองรับ International flights โดยนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวรายงานความคืบหน้าของการพัฒนามาตรฐานสนามบิน เพื่อรองรับ International flights พร้อมรายงานถึงปัญหาอุปสรรค ดังนี้ ด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบิน การขยายพื้นที่รันเวย์ที่จะต้องมีความยาวจากพื้นที่ปลอดภัย ความยาว 240 เมตร ต่อขยายจากพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งทั้ง 2 ด้านของหัวทางวิ่ง หรือไม่น้อยกว่า 90 เมตร การติดตั้งระบบช่วยชะลอความเร็ว และหยุดเครื่องบินที่วิ่งเลยออกนอกทางวิ่ง ในปัจจุบันท่าอากาศยานหัวหินยังไม่ได้มีการจัดพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง ด้านการบริหารจัดการพื้นที่รองรับผู้โดยสารภายในเตรียมการอาคารพักผู้โดยสาร ปัจจุบันมีการปรับปรุงและประเมินระบบการตรวจกำหนดการเที่ยวบิน เพื่อให้ความสะดวกรวดเร็วแก่นักท่องเที่ยว
ส่วนด้านการตรวจเอกสารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ระบบ IT ที่ต้องลิงก์ระบบเชื่อมโยงกันให้ได้ทั้งหมด การคัดกรองให้เกิดความรวดเร็วในการตรวจสอบ ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการศึกษาด้านการบิน (Aeronautical Study) เสร็จและนำส่งรายงานการศึกษาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 14 กันยายน 2566 โดยในปัจจุบันแผนการแก้ไขข้อบกพร่องและผลการศึกษาด้านการบิน (Aeronautical Study) ยังไม่ได้รับผลการพิจารณาแจ้งกลับมายังการท่าอากาศยานเพื่อจะดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องต่อไป
โอกาสนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้ดำเนินการเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น เพื่อให้ทันรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกันนี้ นายกฯ ขอให้มีการบริหารจัดการเรื่องสายการบินจากเชียงใหม่มาหัวหิน ทั้งนี้ ในอนาคตคาดว่าจะมีสายการบินบินตรงจากหาดใหญ่มาหัวหิน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวได้สะดวกขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น จะเพิ่มการใช้จ่ายสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น
นายกฯ ย้ำรัฐบาลตระหนักดีถึงศักยภาพของสนามบินหัวหิน แต่ยังไม่ได้ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในแผนงานการขยาย Runway ให้กว้างขึ้น เพื่อรองรับเครื่องบินที่มาจากต่างประเทศด้วย โดยจะมีการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานการบิน นายกฯ ระบุจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีองค์ประกอบครบเป็นเมืองท่องเที่ยว มีประเพณีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหาร สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอนาคตจะมีแนวคิดเปลี่ยนชื่อสนามบินเป็นสนามบินเพชรหัวหิน
“สำหรับการตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานท่าอากาศยานหัวหิน เพื่อรองรับ International flights รัฐบาลมีแผนจะขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารจากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา (ททท.) จำนวนนักท่องเที่ยว ในปี 2565 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนักท่องเที่ยว 9.75 ล้านคน ในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 11.14 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4 ล้านคน สะท้อนให้เห็นถึงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ การพัฒนามาตรฐานท่าอากาศยาน เป็นส่วนสำคัญของรัฐบาล ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศวิสัยทัศน์ ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub)” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ต่อมาเวลา 16.35 น. นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงที่ว่าการอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนบ้านลาด โดยเมื่อเดินทางถึงนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านลาด ระยะที่ 1 อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง รายงานว่าดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 95% และจะแล้วเสร็จ โดยในระยะที่ 2 ก่อสร้าง 3.7 กิโลเมตร ประชาชนจะได้รับประโยชน์1,488 ครัวเรือน โดยได้มีการเริ่มก่อสร้างไปแล้วและจะเสร็จในปี 2569 ซึ่งได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้ว
โดยนายกฯ สอบถามว่า 95% เสร็จเรียบร้อยใช่หรือไม่ เพราะยังไม่เห็น ซึ่งรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้พานายกฯไปยืนดูบนสะพาน เพื่อมองลงไปดูจุดการก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วม
จากนั้นรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พา นายกฯ เดินข้ามฝั่งสะพานมาดูจุดการก่อสร้างโครงการในระยะที่ 2 พร้อมกล่าวว่าในปี 2549 น้ำท่วมหนัก จึงจะต้องสร้างเฟสที่ 2 เพื่อแก้ปัญหา น้ำท่วมให้ประชาชน
ต่อมานายกฯ เดินทักทายประชาชน โดยมีประชาชนนำกุหลาบมามอบให้ พร้อมร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทั้งนี้ ประชาชนถือป้ายข้อความต้อนรับ โดยมีข้อความระบุว่า “ชาวอำเภอบ้านลาด ขอขอบพระคุณ ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐาทวีสิน ที่ไม่ทิ้งประชาชน” และข้อความ “ชาวอำเภอบ้านลาดยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรี ติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านลาด ตำบลบ้านลาด อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ด้วยความยินดียิ่ง”
กระทั่งเมื่อเวลา 17.00 น. นายกฯ เดินทางถึงบ้านท่าศาลา ตำบลท่าเสน อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เพื่อชมการแสดงการสาธิตการแข่งขันกีฬาวัวลาน – วัวเทียมไถ ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านของจังหวัดเพชรบุรี ที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ของสมาคมอนุรักษ์วัวลานพื้นบ้าน กลุ่มจังหวัดภาคกลาง (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี) โดยนายกฯและรัฐมนตรี สวมเสื้อลายตาลโตนดและวัวลาน– วัวเทียมไถ อาทิ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. สาธารณสุข นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ทั้งนี้มีสส. จากพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อาทิ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส. เพชรบุรีเขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 ทั้งรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และน.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เขต 1 ร่วมต้อนรับด้วย
ทั้งนี้เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ทักทายประชาชนและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มารอต้อนรับ ก่อนที่นายกฯ จะเดินเข้าไปชมการประกวดวัวเทียมไถสวยงาม พร้อมกล่าวว่า ขอให้อนุรักษ์และรักษาประเพณีนี้ไว้ อย่าให้ขาดหายพร้อมกันนี้ นายกฯ ยังได้ชื่นชม คณะจัดงานว่ายังรักษาประเพณีไว้
นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้ชมสาธิตการนวดข้าวแบบโบราณ โดยนายกฯถามสื่อมวลชนว่า เคยเห็นกันหรือเปล่าแบบนี้ จากนั้นนายกฯ และคณะ เดินมายังลานการแสดงวัวลาน เพื่อชมการแข่งขันกีฬาวัวลานพื้นบ้าน โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตนเดินทางมาตลอด ได้มาเยี่ยมจังหวัดบุรีทั้งหลายเข้าใจว่าไฮไลท์วันนี้ดูแล้วตื่นเต้นที่สุด เพราะจริงๆแล้วไม่เคยทราบว่ามีประเพณีมาก่อน เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม น่าสนับสนุนให้มีการแข่งขันวัวลานต่อไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากดูสีหน้าจากรัฐมนตรีหลายท่านอายุเยอะแล้ว ถามว่าเคยเห็นหรือเปล่ากีฬาประเภทนี้ ก็ไม่เคยเห็นมีแต่นายสมศักดิ์และอดีตปลัดมหาดไทยรู้เรื่อง ซึ่งรัฐบาลนี้ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในหลายมิติ ไม่ใช่แค่การมาช้อปปิ้งซื้อของอย่างเดียว แต่การมาดูวัฒนธรรมประเพณีอันน่าชื่นชมของคนไทย โดยเฉพาะจังหวัดแถบนี้ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดนครปฐมมีวัวลานเป็นประเพณีแข่งขัน ที่น่าชื่นชม และอยากจะสนับสนุนให้มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการกำกับดูแลการแข่งขันวัวลานให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของบ้านเมือง ตลอดจนพิจารณาเสนอขอแก้ไขกฎกระทรวงขยายเวลาการเล่นจากเวลา 18.00 น.เป็นเวลา 06.00 น.ของวันถัดไป โดยระหว่างนี้ทำให้ประชาชนที่อยู่ในลานกีฬา ต่างปรบมือพร้อมกับเฮลั่น
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้สั่งการเฉยๆขอให้กระทรวงมหาดไทย แก้กฎกระทรวง เข้ามาภาย ใน 1 เดือน โดยการละเล่นดังกล่าวไม่ถือเป็นการขัดต่อกฎหมายในการเล่นการพนัน เพราะถือเป็นบัญชีขอของประกาศกระทรวงมหาดไทยที่สามารถอนุญาตให้เล่นการพนันได้ และเพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการดังต่อไปนี้ ภายในบริเวณจัดงานขอให้ผู้จัดการแข่งขันกีฬาวัวลานกำหนดขอบเขตพื้นที่จัดงานให้ชัดเจน มีจุดตรวจเข้าและออกยานพาหนะ เพื่อควบคุมความปลอดภัย จัดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่ตรวจการให้เตรียมพร้อม ตลอดจนมีการตรวจสอบและลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการนำสิ่งผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืนเข้ามาในสถานที่แข่งขันที่ก่อให้เกิดอันตรายได้โดยรอบบริเวณการจัดงาน จะต้องมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยทั้งภายนอกบริเวณจัดงาน เพื่อให้ควบคุมไม่ให้เกิดเหตุร้าย โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านและกำนันที่มีความคุ้นเคยกับลูกบ้านท้องถิ่นจะสามารถคัดกรองบุคคลที่มาร่วมงานได้อย่างดีและ ขอสั่งการรมว.การกีฬาและท่องเที่ยวดูแลสนับสนุนกีฬาประเภทนี้ให้มีความนิยมชมชอบสูงและมีการโฆษณาไปต่างประเทศเชื้อเชิญให้คนมาเที่ยวจังหวัดแถบนี้เยอะขึ้น
