ทำเนียบฯคึกคักเจ้าหน้าที่ จัดเตรียมสถานที่ประชุมครม.นัดพิเศษ 6 ก.ย. ขณะที่รองนายกฯจองห้องทำงานบนตึกบัญชาการฯ 1 กันแล้ว
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากทำเนียบรัฐบาลถึงการจัดเตรียมห้องทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ว่า โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาล ขึ้นไปทำความสะอาดและดูความเรียบร้อย ภายในห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่ามีส่วนไหนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่ โดยยังไม่มีการสั่งให้เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ใดๆ
นอกจากนี้ในส่วนของตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของรองนายกรัฐบาล และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีรายงานข่าวว่า บรรดารองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งคนมาดูห้องทำงาน ซึ่งมีรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.ต่างประเทศ
ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานของนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.พลังงาน
ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี จะใช้ห้องทำงานชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.พาณิชย์ ด้านนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ของนายอนุชา นาคาศัย อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะใช้ห้องทำงานห้องเดิมที่ชั้น 3 และห้องของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตรซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ จะมีขึ้นในวันที่ 6 ก.ย. โดยจะใช้ห้องประชุมครม.ห้อง 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 และในการประชุมครม. ครั้งต่อไปก็จะใช้ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ในการประชุมตลอดไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทยอยขนอุปกรณ์เครื่องเสียงและคอมพิวเตอร์ต่างๆขึ้นไปยังชั้น 5 ตึกบัญชาการ ซึ่งจะใช้เป็นห้องประชุมครม.แล้ว