“ทนายอนันต์ชัย”ลั่น เป็นทนายให้ใคร ไม่ต้องมีหนังสือแต่งตั้ง ชี้ถ้าไม่ใช่ทนายของ “บิ๊กโจ๊ก” เขาจะมาร่วมแถลงข่าวทำไม ลั่นวันนี้ฮ่องเต้เปลี่ยนตัวแล้ว คือ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์”
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.66 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายยอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษคณะกรรมการ ก.ตร. ได้แก่ 1.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.2.พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. 3.พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. 4.พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก อดีตรอง ผบ.ตร. 5.พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร. 6.พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ 7.ศ.ศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ 8.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาไทย 9.นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน 10.น.ส.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ รวม 10 คน ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบวินิจฉัยและชี้มูลความผิด นายกฯ-ก.ตร. 9 คน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 และข้อหาอื่นใดที่เกี่ยวข้อง กรณีแต่งตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่
โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้เสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เพื่อให้คณะกรรมการ ก.ตร. พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ซึ่งปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คนข้างต้น ได้มีมติเห็นชอบให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 258 ง.(4) ซี่งมีหลักว่า การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เป็นการผิดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 78 (1)
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กล่าวว่า หากการคัดเลือก ผบ.ตร.ครั้งนี้ เป็นไปตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 78 (1) ผู้ที่จะได้รับคัดเลือก คือลำดับที่ 1 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ซึ่งมีอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสอบสวน สืบสวน หรืองานป้องกันและปราบปราม ซึ่งมีอายุราชการ 24 ปี ลำดับที่ 2 คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล มีอายุราชการ 18 ปี ลำดับที่ 3 คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ มีอายุราชการ 22 ปี ลำดับที่ 4 คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีอายุราชการเพียง 10 ปี
จากนั้นนายอนันต์ชัย แถลงข่าว “Super Big Surprise” วงการสีกากี ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ โดยระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากผู้ใหญ่ให้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ ป.ป.ช. แม้ก่อนหน้าการแถลงข่าวครั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะออกมาเปิดเผยว่า ยังไม่เคยแต่งตั้งนายอนันต์ชัย เป็นทนายความจากคดีค้นบ้านพัก ก็ตาม
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ในการแถลงว่า วันนี้เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนถูกทั้งคนที่เสนอแนะ สื่อ และเกรียนคีย์บอร์ด วิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ ณ วันนี้ เวลานี้ เปลี่ยนฮ่องเต้จากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้ว โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้โทรศัพท์มาหาตนให้ช่วยเหลือคดีค้นบ้าน และคดีลูกน้องโยงเว็บพนันออนไลน์ มีการนัดคุยกัน รวมถึงนัดผู้สื่อข่าวไปที่สโมสรตำรวจ โดยทุกคน รวมทั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ให้ตนเองเป็นผู้จัดการทางคดี จัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีตน มี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกน้องทั้ง 8 คน ยืนยันว่าการเป็นทนายความไม่จำเป็นต้องมีหนังสือแต่งตั้ง เพราะกระบวนการนั้นอยู่ในขั้นตอนเมื่อถึงชั้นศาล ถ้าตนไม่ได้เป็นทนายของบิ๊กโจ๊ก ไม่ได้เป็นทนายของน้องๆ ตำรวจทั้ง 8 นาย ทุกคนจะมาแถลงข่าวหรือ
นายอนันต์ชัย บอกอีกว่า ที่มีคำกล่าวอ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จ้างเป็นทนาย 10 ล้านบาท และได้มา 5 ล้าน ขอสาบานว่ายังไม่เงินสักบาทเดียว เขาหนีร้อนมาพึ่งเย็น ยังไม่ได้ตกลงค่าทำคดีกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกน้อง ถือว่าทำให้เกิดความเสียหาย หาว่ารีดไถ และยังไม่ได้เงิน ส่วนกรณีที่มีคนถามว่า ใครเป็นคนห้ามไม่ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงต่อสื่อมวลชน ตนเองรู้ว่าเป็นใคร เป็นคนในรัฐบาล ใหญ่โตมาก ยืนยันว่าไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
ทนายอนันต์ชัย ประกาศว่า ไม่ว่าใครก็ห้ามตนไม่ได้ ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา แต่เป็นองค์กรอิสระ และวิชาชีพทนายความเป็นองค์กรเดียวที่คานอำนาจตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ราชทัณฑ์ และทนายความเป็นองค์กรเดียวที่ฉีกออกมา ตนภูมิใจในวิชาชีพทนายความ จะเด็ดดอกไม้ให้สะเทือนดวงดาว หมายถึงดาวบนบ่าตำรวจ และวันนี้ Double Big Surprise ก็คือทนายกระดูกเหล็ก และอีกคนเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังจะมาปรากฏตัว ส่วนเรื่อง บิ๊กเซอร์ไพรส์ ขอให้รอผู้ใหญ่ที่เป็นฮ่องเต้คนใหม่มาเป็นคนเปิดเผยด้วยตัวเอง ขณะนี้ทราบว่าอยู่ระหว่างเดินทางมาจากทางโรงพยาบาลศิริราช
ทนายอนันต์ชัยยังฝากถึงสังคมให้คิดว่าในคดีนี้จะเชื่อในคำพูดของใครมากกว่ากัน จะเชื่อตนเองที่เป็นทนายความมากว่า 38 ปี มีผลงานมากมายจนสภาทนายความตั้งฉายาทนายกระดูกเหล็ก หรือจะเชื่อพวก “ทแนะ” เชื่อว่าคนไทยไม่ได้โง่สามารถคิดและวิเคราะห์เองได้
ทนายอนันต์ชัย ยังฝากย้ำถึงบุคคลที่โทรมาเจรจาไม่ให้บิ๊กโจ๊กและตนเองออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในวันนั้นว่า การกระทำดังกล่าวและการโทรมาห้ามในวันนั้นเป็นสาเหตุให้เกิดการเดินหน้าการเอาผิดจากฮ่องเต้คนใหม่คนนี้ ซึ่งขอให้รอรับผล
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า บุคคลคนดังกล่าวคือบุคคลที่มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่หรือไม่ ทนาย อนันต์ชัย ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ใช่ แต่รายละเอียดขอให้รอฮ่องเต้คนใหม่เป็นผู้ชี้แจงอีกครั้ง
