วันเสาร์, กันยายน 28, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight16 ปีขึ้นไป-รายได้ไม่ถึง 7 หมื่น-มีเงินฝากไม่ถึง 5 แสนได้เงินดิจิทัล วอลเล็ต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

16 ปีขึ้นไป-รายได้ไม่ถึง 7 หมื่น-มีเงินฝากไม่ถึง 5 แสนได้เงินดิจิทัล วอลเล็ต

นายกฯแถลงเงื่อนไขโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เช็กเลยใครได้บ้าง

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงความชัดเจนนโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ว่า สำหรับเงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่าย ให้กับ ประชาชนผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่ถึง 70,000 บาท ต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท หมายถึง ถ้ารายได้เกิน 70,000 บาท แต่มีเงินฝากน้อยกว่า 5 แสนก็จะไม่ได้รับสิทธิ หรือรายได้น้อยกว่า 7 หมื่น แต่เงินฝากมากกว่า ก็จะไม่ได้รับสิทธิ โดยให้สิทธิครั้งแรก 6 เดือน หลังจากโครงการเริ่ม ขยายพื้นที่ครอบคลุม ระดับอำเภอ ตามที่ได้ฟังความเห็นมา

นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้จ่ายภายในอำเภอต้องจ่ายแบบ Face to Face ใช้ได้ถึง เม.ย.70 เงินดิจิทัลใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น ห้ามใช้จ่ายค่าบริการ,ซื้อสินค้าออนไลน์,กัญชา,บัตรกำนัล,อัญมณี,ค่าเทอม,ค่าน้ำค่าไฟ ไม่มีการนำเงินดิจิทัลไปเทรดบนตลาดหลักทรัพย์และตลาดคริปโทฯ


ส่วนการที่มีการปรับหลักเกณฑ์ของผู้ได้รับสิทธิเป็นประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป และมีเงินเดือนต่ำกว่า 70,000 บาท หรือมีเงินในบัญชีรวมกันน้อยกว่า 500,000 บาท คิดเป็นจำนวนประชากรผู้ได้รับจำนวน 50,000,000 คน ตามคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ เนื่องจากข้อมูลของหลายโครงการในอดีตแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มรายได้ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ และผมขอย้ำว่า โครงการจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อตามที่หลายฝ่ายกังวล เพราะสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบันของไทย อยู่ในสภาวะที่ต่ำอยู่แล้ว


อย่างไรก็ตามในเรื่องแหล่งเงินทุน รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบ คือการออกพ.ร.บ.วงเงิน 500,000 ล้านบาท ต้องผ่านการตีความของกฤษฎีกา เพื่อให้การออก พ.ร.บ.เงินกู้ดังกล่าว เป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม และไม่ขัดต่อหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การออก พ.ร.บ.จะมีความโปร่งใส ภายใต้การตรวจสอบในระบอบรัฐสภา และมั่นใจว่าจะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา


นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องนี้สามารถใช้ได้เมื่อใดนั้น จะผ่านการตีความโดยกฤษฎีกา ในช่วงปลายปีนี้ นำเข้าสู่สภาช่วงต้นปีหน้า จัดเตรียมงบประมาณและเปิดใช้ประชาชนใช้พ.ค.ปีหน้า ช่วงก่อนหน้านั้นจะมีอีรีฟันส์ ตั้งแต่เดือนม.ค. และโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถ เริ่มได้เดือนมิ.ย.67 ทั้งนี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ทำงานรัดกุม ก่อนเข้าครม. เพื่อได้รับการอนุมัติต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img