“ราเมศ” ซัดนายกฯพูดตลบตะแลง ปมแก้ตัวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผกก. เหน็บอย่าให้ใครตำหนิได้ว่าตัวใหญ่ใจเล็ก
เมื่อวันที่ 23 พ.ย.66 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ ได้พูดถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) ว่า แม้นายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์แก้ตัวเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผกก.แล้ว แต่ทั้งภาพและเสียงที่นายเศรษฐาพูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยเป็นคำตอบชัดเจนทั้งหมดแล้วว่าใครตำแหน่งไหนเป็นคนฝาก ประชาชนจึงดูออกว่านายกรัฐมนตรีมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการแก้ตัวแบบมั่วๆ น้ำขุ่นๆ ตลบตะแลง ทั้งนี้ ตัวของนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่อีกตำแหน่งหนึ่ง คือการเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จึงทำให้นายเศรษฐามีอำนาจที่สามารถแสดงความคิดเห็นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีแนวนโยบายเกี่ยวกับข้าราชการตำรวจได้อยู่แล้ว ดังนั้น การที่นายกฯบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ยิ่งทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามอย่างผู้รู้
นายราเมศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การที่นายกฯบอกด้วยว่าพูดเรื่องความ ไม่ใช่เรื่องคนนั้น ที่จริงแล้ว คนพูดเรื่องความ คนพูดคือนายกรัฐมนตรีที่มีหน้าที่ต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ส่วนความคือมีคนฝากโยกย้ายแต่งตั้งตำรวจระดับผู้กำกับ คนที่อยู่ในที่ประชุมมี สส. และความตามรัฐธรรมนูญ ห้าม สส. ก้าวก่าย แทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 (3) ทั้งประมวลจริยธรรมของ สส.ที่ระบุให้ สส.ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด” เมื่อความนี้นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แล้ว ก็ต้องถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถือเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่จะต้องไม่กระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญ อีกทั้งมีประมวลจริยธรรมควบคุมอย่างเคร่งครัดด้วยเพื่อให้การแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรม และต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ย่อมมีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีควรตัดสินใจด้วยการรับผิดชอบในคำพูด และแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง อย่าตลบตะแลงด้วยการชี้แจงกลับไปกลับมา อย่าให้ใครมาตำหนินายกรัฐมนตรีได้ว่าตัวใหญ่แต่ใจเล็ก
