วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘ฝ่ายอำนาจ’ขยับบีบถึงเวลาครบดีลพิเศษ ‘ตู่’เผยสัญญาณเล่นงาน‘พท.’ต้องไม่เบี้ยว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ฝ่ายอำนาจ’ขยับบีบถึงเวลาครบดีลพิเศษ ‘ตู่’เผยสัญญาณเล่นงาน‘พท.’ต้องไม่เบี้ยว

“จตุพร” ประเมินฝ่ายอำนาจรุมขยับบีบถึงเวลาครบดีลพิเศษ ต้องไม่เบี้ยวข้อตกลง สัญญาณเล่นงานยุบเพื่อไทย ซ้ำร้าย ปปช.จ่อยื่นอุทธรณ์คดี ยิ่งลักษณ์ หาเสียงดิจิทัลจะเอาอย่างไร เชื่อปลายมีนาเห็นร่องรอยล้อมกรอบ “เศรษฐา” ให้พ้นนายกฯ เพื่อ “ทักษิณ”ไม่ซวยไปด้วย

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ช่วงเวลาครบดีลกำลังขยับมาบีบกดดันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ อย่างหนัก หากเบี้ยวดีลกันแล้ว คนที่ไปดีลจะเกิดหายนะตามไปด้วย สถานการณ์ขณะนี้ หลายกรณีเริ่มขยับรุมขย่มถี่ขึ้น ในประเด็นแก้ไข ม.112 พรรคก้าวไกลถูกศาล รธน.วินิจฉัยว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองแล้ว ส่วนพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้งล่าสุดชูประเด็นแก้ไข ม.112 เช่นกัน จึงไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างกับพรรคก้าวไกล และแสดงถึงการเริ่มต้นเตือนไม่ให้เบี้ยวดีล

นอกจากนี้ คดีโรดโชว์ 240 ล้านบาทที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินยกฟ้องยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้วนั้น โอกาสที่จะถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยื่นอุทธรณ์ยังเป็นไปได้สูงเช่นกัน

“อะไรก็เกิดขึ้นได้และการอุทธรณ์ก็เป็นไปได้สูง ซึ่งที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาคงประชุมคัดเลือกองค์คณะผู้พิพากษาขึ้นมาใหม่ จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะผู้พิพากษาในชุดนั้นๆ ดังนั้น แม้ยิ่งลักษณ์ ชนะยกนี้ แต่ไม่รู้ว่ายกสองจะมีผลเป็นอย่างไร”

นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้เลยคือ ยิ่งลักษณ์ ถูกตัดสินคดีจำนำข้าวมีโทษติดคุก 5 ปี ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้เหนื่อยแล้วที่จะรอดจากการติดคุก แม้ไม่มีการติดคุกจริงก็ตาม ด้วยเหตุจึงอยากบอกว่า อะไรที่ดูจะราบรื่นไปด้วยดี ต้องมีการเผื่อเหลือเผื่อขาดกันไว้บ้างก็ดี

ส่วนการเดินทางไปเชียงใหม่ของทักษิณในวันที่ 14-16 มี.ค.นี้ นายจตุพร กล่าวว่า ถึงทักษิณแสดงความสบายใจตัวเองออกมาก็ตาม แต่อีกฝ่ายอาจเข้าใจว่าไปยั่วยุจนจะเกิดความไม่สบายใจขึ้นจากการเป็นอภิสิทธิ์ชนสองมาตรฐาน อาจจะได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามจากความมุ่งหวังจะรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ในความนิยมกลับมาอีก

อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา มีโปรแกรมหลังกลับจากต่างประเทศจะเดินไปเชียงใหม่วันที่ 15 มี.ค. แม้ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนว่า จะได้พบทักษิณหรือไม่ แต่ช่วงเวลาไปเชียงใหม่เช่นนี้คงสะท้อนถึงระยะเวลาต้องปฏิบัติตามดีลได้งวดเข้ามาทุกขณะ อีกอย่างดิจิทัลวอลเล็ตจะครบกำหนดศึกษา 30 วันในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ดังนั้น เวลากระชันชิดนี้จะต้องไปหารือกันถึงการแจกเงินหมื่นบาทยังจะยืนกรานตามเดิมหรือไม่

“คนดีลไม่ใช่เศรษฐา แต่ถ้าเศรษฐาไม่ปฏิบัติตามดีลแล้ว คนที่ไปดีลย่อมเกิดหายนะเหมือนกัน ยิ่งขณะนี้เวลางวดเข้ามาเต็มทีกับการดีลกันไว้ ผมต้องการให้เบี้ยวดีลกันเลย เพื่อประชาชนจะได้เห็นความจริงต่างๆ” นายจตุพร กล่าว พร้อมระบุว่า หากดีลถูกเบี้ยวแล้ว ยิ่งลักษณ์ จะกลับไทยยากขึ้น เพราะขั้นตอนต่างๆจะไม่ง่ายอีกต่อไป

ส่วน สว.จะอภิปรายทั่วไปในวันที่ 25 มี.ค.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ถ้านายเศรษฐา ไม่ต้องการบาดเจ็บต้องพ้นจากนายกฯ ก่อน 25 มี.ค. แต่วันที่ 3 เม.ย. พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติเช่นกันก็จะกระแทกแผลเป็นนายเศรษฐาซ้ำเข้าไปอีก ดังนั้น ในทางการเมืองเมื่อรู้จะพ้นจากนายกฯ อยู่แล้ว นายเศรษฐา จึงไม่มีความจำเป็นต้องบอบช้ำอีก

อีกทั้งเชื่อว่า กำหนดการทางการเมืองในปลาย มี.ค.นี้จึงไม่ใช่เหตุบังเอิญที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ต้องไปให้ปากคำอัยการสูงสุดกรณียื่นยุบพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงแก้ไข ม. 112 รวมทั้ง ปปช.ต้องรอคำพิพากษาฉบับเต็มจากศาลฎีกาก่อนขยับอุทธรณ์คดีโรดโชว์ของยิ่งลักษณ์หรือไม่ สิ่งเหล่านี้จ่อเล่นงานพรรคเพื่อไทยได้ทุกขณะ

“ขณะนี้ยังไม่ได้มีเสียงดีลกันไว้ว่า จะให้นายเศรษฐาอยู่ต่อ เพราะมีปัจจัยแปรบ่งชี้ถึงการไม่ได้ใช้งบประมาณ 2567 แล้วโครงการดิจิทัลยังขยับแจกเงินไม่ได้ ซึ่งจะเป็นโครงการที่นำไปกลบเรื่องราวต่างๆ ของเพื่อไทยได้ระดับหนึ่ง แต่ติดปัญหา ปปช.ขวางอยู่ ดังนั้น อุปสรรคเช่นนี้สะท้อนได้ชัดเจนนายกฯ ไม่ได้อยู่ต่อ”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img