วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘นายก’ปัดไม่ขอพูดเรื่องอำนาจเชิงซ้อน มองบวก‘ทักษิณ’พูดเรื่องความขัดแย้ง!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘นายก’ปัดไม่ขอพูดเรื่องอำนาจเชิงซ้อน มองบวก‘ทักษิณ’พูดเรื่องความขัดแย้ง!

นายกฯมองบวกปม “ทักษิณ” พูดเรื่องความขัดแย้ง ชี้เหตุเป็นห่วงบ้านเมือง ปัดพูดเรื่องอำนาจเชิงซ้อน ยอมรับต่างชาติมีตั้งคำถาม แต่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตัวเอง รับยังยิ้มได้แต่บางครั้งก็กัดฟัน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.67 ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.ปาน จ.ลำปาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มักออกไปพูดในหลายประเด็น ทำให้นักวิชาการบางคนมองว่าเป็นเรื่องของการปลุกปั่นว่า ส่วนตัวไม่ได้มองเป็นลักษณะของการปลุกปั่น แต่เชื่อว่า แต่ละคนมีหลักความคิดและวิธีคิดแตกต่างกันไป เชื่อว่านายทักษิณ อดีตนายกฯ หรือหลายๆ ท่านที่ออกมาให้ข่าวในช่วงหลังนี้ เชื่อว่าทุกคนเป็นห่วงบ้านเมือง แต่วิธีการพูด วิธีการตักเตือน ก็มีหลายๆวิธีที่แตกต่างกัน ก็เป็นหน้าที่ที่เราจะต้องรับไปพิจารณา และรับไปปฏิบัติ

เมื่อถามว่า ดูเหมือนจะกระทบชิ่งไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล จะกระทบต่อเสถียรภาพ ต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คนอยู่ด้วยกัน ก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ก็มีหน้าที่ใช้คำว่า ประสานใจ หากมีเรื่องข้องใจก็มานั่งพูดคุยกัน ซึ่งตนก็พยายามที่จะให้มีการพูดคุยกันกับทุกพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ มีการมองสองมุม บางคนมองว่า ช่วยดึงมวลชน แต่บางมุมมองว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ได้มีการพูดคุยหรือพิจารณาหรือไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า โดยส่วนตัวของตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้พยายามทำตัวให้เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ข้อแนะนำต่างๆบางทีสื่อมวลชนก็แนะนำแรงบ้าง บางคนพูดจาไพเราะแต่เราอย่าไปดูวิธีการนำเสนอมานี้มันรุนแรงเสียดทาน ก้าวร้าว เรามองถึงเจตนารมณ์ดีกว่า เชื่อว่าทุกท่านไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน ทุกคนอยากให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ แต่ทุกคนมีวิธีการทำงานที่จะไปถึงจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป ตนก็พยายามมองให้เป็นบวกดีกว่า อย่างที่บอกว่าท้าทายไหมก็ท้าทาย

ส่วนบางฝ่ายในพรรคร่วมรัฐบาลแคลงใจอาจไม่อยากให้เกิดการขุ่นใจ เพราะนายทักษิณได้พูดทำนองถึงคนในบ้านป่ารอยต่อ ทำให้เกิดความวุ่นวาย นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่มีการพูดคุยหรือสนทนากัน โดยเฉพาะเรื่องที่พูดไปแล้ว อยากให้มีทางออกสำหรับทุกฝ่ายมากกว่า นั่นคือปัญหาของพี่น้องประชาชน ตนขอเน้นย้ำตรงนั้นดีกว่า

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการพูดคุยกันตลอด วันที่ 10 มิ.ย.จะมีการประชุมคณะกรรมการที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ก็จะมีโอกาสได้เจอหลายท่านในพรรคร่วมรัฐบาล และยืนยันว่า ทำงานมา 9 เดือน การเมืองไม่ได้มากระทบทำให้เกิดการบั่นทอน เวลาเดินเข้าสู่ถนนการเมืองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เราไม่อยากใช้คำว่าคาดหวัง แต่เมื่อเกิดขึ้นมาเราก็ต้องพร้อมที่จะรับมือตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวในลักษณะอำนาจเชิงซ้อน ระหว่างนายทักษิณกับนายกรัฐมนตรี มีผลต่อสายตานักลงทุนต่างชาติหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่พูดว่า อำนาจเชิงซ้อน มีหรือไม่มีก็แล้วกัน อันนี้ก็แล้วแต่จะไปคิดกันเอง แต่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตน และตนเป็นคนเซ็นทุกอย่างที่ลงนาม ผิดหรือถูก ตนเป็นคนรับทำ แต่แน่นอนตนบอกมาโดยตลอด เจออดีตนายกฯท่านไหน ก็จะเข้าไปหา ถ้ามีอะไรที่จะแนะนำ ก็น้อมรับ ไม่ใช่อดีตนายกฯอย่างเดียว อดีตนักการเมือง เพื่อนนักธุรกิจ หรือประชาชนที่ตนได้ลงพื้นที่มาตลอด 3 วัน ตนก็มารับฟังตลอด เพราะฉะนั้นตรงนี้เชื่อว่าอย่าใช้คำว่าอำนาจซ้อนจะดีกว่า เราใช้คำว่ารัฐบาลนี้รับฟังความคิดเห็นจากทุกๆฝ่ายดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าต่างชาติมีการตั้งคำถามในแง่นี้ ซึ่งก็เป็นธรรมดา แต่บทพิสูจน์ในการที่ตนเข้ามาประมาณ 9-10 เดือนนี้ มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าจริงๆแล้วการทำงานมีอิสรภาพส่วนหนึ่ง และการที่เรารับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน มันไม่ใช่แค่อดีตนายกฯหรือพรรคของเรา หรือพรรคร่วม หรือพรรคฝ่ายค้าน หรือสื่อมวลชน หรือพรรคพวกที่ไม่เห็นด้วยก็ตามที ตนเชื่อว่าเราเอาทุกประเด็นเข้ามาวิเคราะห์กัน อะไรที่เป็นประโยชน์อะไรที่เห็นว่าเป็นคำติชม หรือเป็นคำเสนอแนะที่เหมาะสม ตนก็พร้อมที่จะปฏิบัติ  

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯยังยิ้มได้อยู่ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ครับ ยังยิ้มได้อยู่ครับ แต่บางทีก็กัดฟันเหมือนกัน”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img