“พิธา” ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 ขีดเส้นภายใน 100 วันทำประชามติแก้รธน.ทันทีปลุกปิดสวิตช์ 3 ป.ล้างมรดกคสช.ให้สูญพันธุ์
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ม.ค.ที่อาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ช่วงการปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ของแกนนำพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ภายในงานประชุมใหญ่ สามัญประจำปีพรรคก้าวไกล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวตอนหนึ่ง ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ปิดสวิตช์ 3 ป. ล้างมรดกคสช.ให้สูญพันธุ์ไปจากการเมืองไทยให้ได้ ซึ่งถ้าเห็นด้วยกับการทำแบบนี้จะต้องทำ 2 อย่างคือ 1. การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเอาทหารจำแลง พรรคคสช. พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติออกจากการเมืองไทยให้ได้
2.เอารัฐธรรมนูญฉบับคสช.ออกไปจากสังคมไทยให้หมดตนเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ 100 วันแรก จะให้มีประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน เพราะถ้าเราไม่สามารถปิดสวิตช์ 3 ป. ได้ เราก็มีอนาคตอย่างที่เราฝันไม่ได้ เราไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ ไม่สามารถคืนความปกติสู่การเมืองไทย เศรษฐกิจไทยและอนาคตของไทยได้
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนอยากชวนทุกคนคิดในมุมกลับว่า สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม แต่คือประเทศไทยที่เหมือนเดิมต่างหาก ระบบการเมืองเดิมๆ ที่ต้องคอยมาสัมภาษณ์ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าจะทำรัฐประหารหรือไม่ หรือต้องคอยลุ้นว่าทุกๆ 4 ปีจะได้เลือกตั้งหรือไม่ สิ่งที่น่ากลัวคือกระบวนการยุติธรรมเดิมๆ ที่เอาคนเห็นต่างมาขังคุกเป็นสิบๆ
การที่ปล่อยให้คนที่รวยที่สุดไม่กี่เปอร์เซ็นต์ครอบครองทรัพย์สินและที่ดินเกินครึ่งหนึ่งของประเทศ ระบบสวัสดิการและเด็กต้องมาคอยรับบริจาคหรือแข่งกันร้องเพลงเพื่อให้ได้เรียนต่อ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการกำหนดอนาคตประเทศไทย อยากจะชวนทุกคนเดินทางไปข้างหน้ากับเรา
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก.ก. กล่าวตอนหนึ่งว่า การเมืองแบบเดิมหมายถึง คนกลุ่มหนึ่งทำรัฐประหารยึดอำนาจไปจากพวกประชาชน และใช้อำนาจนั้นการสร้างรัฐธรรมนูญที่ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของประชาชน วางเครือข่ายพรรคพวกเพื่อปกป้องระบบของตัวเอง กดทับอำนาจที่มาจากประชาชน สืบทอดอำนาจ ใช้ชาติเพื่อร่วมกลุ่มทุนสีเทาปกป้องให้กลุ่มทุนเหล่านี้หากินอย่างทุจริต และนำเงินเหล่านี้กลับมาที่ผู้มีอำนาจ
ดังนั้นการเมืองดีของพรรค ก.ก. คือการไม่มีรัฐประหาร และการปฏิรูปกองทัพ พอกับการเอาที่ดินสร้างสนามกอล์ฟนายพล พอกับการเกณฑ์ทหาร นอกจากนี้ จะทำให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชน และทำให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยึดโยงกับประชาชน และทำหน้าที่ตรวจสอบผู้มีอำนาจไม่ว่าผู้มีอำนาจในวันนั้นจะมาจากพรรคการเมืองไหนก็ตาม เราจะนำเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาแก้ปัญหาการทุจริตในระบบราชการ…
