วันอาทิตย์, ตุลาคม 6, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“จตุพร”แนะ“พิธา”พลิกเกมถอยโหวต หนุน “เศรษฐา”-ล็อก“พท.”ไม่ข้ามขั้ว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จตุพร”แนะ“พิธา”พลิกเกมถอยโหวต หนุน “เศรษฐา”-ล็อก“พท.”ไม่ข้ามขั้ว

“จตุพร” เสนอ “พิธา” พลิกเกมถอยโหวตนายกฯ แนะประกาศถอนตัวกลางสภา พร้อมหนุน “เศรษฐา” เป็นตัวแทน 312 เสียงชิงนายกฯ เชื่อล็อกขา พท.ไม่ให้ย้ายข้ามขั้ว ขณะที่ฝ่าย 188 เสียงไม่กล้าตั้ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย สิ่งสำคัญสกัดม็อบลงถนนเผชิญหน้ารุนแรง หยุดสงครามกลางเมือง ไม่มีเลือดนองท้องช้าง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “พลิก?” โดยเสนอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ พลิกเกมด้วยการประกาศถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ กลางสภาในวันที่ 19 ก.ค.นี้ พร้อมเสนอให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของฝ่าย 312 เสียงแทน ซึ่งมั่นใจว่า เป็นการพลิกชิงมัดขาพรรคเพื่อไทยไม่ให้ย้ายข้ามขั้ว

นายจตุพร เสนอว่า วันที่ 19 ก.ค. นี้ เป็นการโหวตนายกฯรอบสอง นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังถูกพรรค 312 เสียงเสนอให้เป็นนายกฯตามเดิม แต่โอกาสจะผ่านเสียง 376 ของสองสภาร่วมกัน ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเช้าวันเดียวกันนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมพิจารณาคำร้องกันตามปกติ โดยมีวาระพิจารณา รับหรือไม่รับคำร้องที่กล่าวหานายพิธา ในกรณีถือหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งขัดคุณสมบัติต้องห้ามสมัคร ส.ส. ดังนั้น ถ้าศาลรับคำร้อง พร้อมสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ส.ส.แล้ว นายพิธาย่อมถูกเชิญให้ออกจากห้องประชุมสภา โดยคาดว่า จะมีการโหวตนายกฯ ในช่วงบ่าย

“โอกาสเดียวที่นายพิธา ต้องทำให้วันที่ 19 ก.ค. คือลุกขึ้นประกาศกลางสภาขอถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ พร้อมเสนอนายเศรษฐา ชิงโหวตนายกฯแทน ซึ่งจะทำให้เกมพลิกทันที เพราะพวกรอข้ามขั้วไปหาฝ่าย 188 เสียง จะหัวทิ่ม เนื่องจากผิดแผนกันเป็นทิวแถว”นายจตุพร กล่าวพร้อมเสนอว่า การประกาศลงนาม MOU ของ 8 พรรค 312 เสียงนั้น โดยสาระสำคัญอยู่ที่คำมั่นสัญญาของพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล ที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขณะที่ พรรคฝ่าย 188 เสียงยังประกาศคำมั่นเช่นกัน จะไม่จับมือกับพรรคแก้ ม.112 ดังนั้น หากยึดตามสัญญาของทั้งสองฝ่ายที่ให้กับประชาชนแล้ว ย่อมไม่เกิดการข้ามขั้วอย่างชัดเจน แต่พรรคการเมืองไทย ล้วนมีความกะล่อน กลับกลอก ทอดทิ้งและลืมคำสัญญากับประชาชนได้เสมอ ด้วยการนำความจำเป็นของประเทศชาติ มาอ้างให้เกิดประโยชน์สมคบคิดกัน

นายจตุพร กล่าวย้ำว่า อีกอย่าง นายพิธาประกาศว่า ถ้าโหวตไม่ผ่านเสียง 376 แล้วจะหลีกทางให้เพื่อไทย เสนอแคนดิเดตเข้าโหวตนายกฯ ประกอบกับแนวโน้มการโหวตนายพิธาให้ผ่าน 376 แทบไม่มีแล้ว และไม่แตกต่างกันนายเศรษฐา ย่อมไม่ได้เสียง ส.ว.เพียงพอผ่าน 376 เช่นกัน ดังนั้นวันที่ 19 ก.ค.จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะในการพลิกเกมเสนอตัวแทนพรรคเพื่อไทย โดยทางการเมืองสิ่งที่จะได้รับคือ การผูกมัด ล็อกขาพรรคเพื่อไทย ไม่ให้ข้ามขั้วไปหาพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเดือดดาลรุนแรง และออกมาชุมนุมบนถนนมากมาย หนาตา

“ขณะนี้ หน้าที่ของพรรคก้าวไกล คือเฝ้าพรรคเพื่อไทยไม่ให้ไปไหน ต้องจับมือกันให้แน่น จะไปไหนก็ไปตาม เพราะตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว แต่มีไม้ตายเดียวที่ตั้งรัฐบาลสำเร็จคือ การข้่ามขั้วเท่านั้น เมื่อนายพิธาเห็นอนาคตอยู่แล้วว่า ไม่ผ่านเสียง 376 จึงควรประกาศหลีกทางให้เพื่อไทยในวันที่ 19 ก.ค.เลย” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพร ยังเชื่อว่า หากนายพิธาประกาศหลีกทางให้พรรคเพื่อไทยแล้ว ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี จึงควรล็อกขากันไว้เพื่อให้นักการเมืองหยุดกะล่อน เน้นยึดมั่นตามคำพูดกันสักครั้ง ยิ่งฝ่ายด้อมส้มจุดม็อบไม่ติด กลายเป็นพวกไม้ขีดเปียก สิ่งสำคัญ ถ้าพรรคเพื่อไทยข้ามขั้ว ม็อบจะลามทันที ดังนั้นการประกาศถอยของนายพิธา จึงพลิกสถานการณ์การข้ามขั้วและได้สกัดการเกิดม็อบลงถนนด้วย

“พรรคเพื่อไทยต้องรักษาสัจจะวาจาว่า ไม่ข้ามขั้ว สิ่งสำคัญต้องตอบให้กระจ่างด้วยว่า ถ้าดันนายพิธาจนสุดความสามารถแล้ว จะข้ามขั้วหรือไม่ คำถามนี้ต้องยึดมั่นไว้ให้เป็นจริง ตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชน และเพื่อไทยต้องยึดมั่นให้มีความหมายตามที่พูด โดยเมื่อดันนายพิธาจนสุดความสามารถก็ไปไม่ได้ ดังนั้น เพื่อไทยต่้องอยู่ร่วมกันตามสัญญา”นายจตุพร ระบุ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ นายจตุพร เห็นว่า เป็นโอกาสดีของประชาชน เพราะประเทศจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ โดยพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลต้องอยู่กันอย่างแน่นหนา จะแยกกันไปไหนไม่ได้ เมื่อบ้านเมืองไม่มีทางออก เหลืออยู่ทางเดียวคือ ประชาชนต้องแข็งใจหาทางสลายเดดล็อกนี้จึงเป็นหนทางราบรื่น

“เมื่อการเมืองถึงทางตัน ถ้าพรรคเพื่อไทยอ้างความจำเป็น อ้างชาติมาย้ายข้ามขั้วไปตั้งรัฐบาลกับฝ่าย 188 เสียง ดังนั้น ประชาชนต้องจับตา เฝ้าสกัดความกะล่อนของพรรคจ้องลืมคำสัญญากับประชาชน แล้วร่วมกันลงโทษ อย่าให้พรรคเห็นแก่ตัว เนื่องจากการย้ายข้ามขั้วจะมีการชุมนุมถึงขั้นสงครามกลางเมืองขึ้น แล้วเลือดจะนองท้องช้าง”นายจตุพร กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img