นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่บุรีรัมย์ส่งชาวบ้านกลับเข้าพื้นที่ชายแดน หลังลงนาม Joint Statement มั่นใจกัมพูชารักษาสัญญาหยุดยิง เผย “จีน” อาสาเป็นกาวใจเชิญ 2 ประเทศถกซ้ำที่คุนหมิงเพื่อตอกย้ำความสงบ ส่วนกระแสข่าวเครื่องบินขนอาวุธเบลารุสลงพนมเปญยันยังเชื่อถือไม่ได้ แต่กองทัพเฝ้าระวังใกล้ชิดตามกฎการปะทะ
เมื่อเวลา 11.18 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา สามารถทยอยกลับบ้านหลังจากมีการลงนามแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) ว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ตนจะเดินทางไปดูพี่น้องที่อพยพในจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะทยอยเดินทางกลับบ้าน
เมื่อถามว่า ประชาชนสามารถกลับบ้านได้ครบ 100% แล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะโอเคแล้ว การปะทะรอบที่แล้วมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีรูปแบบการดำเนินงานอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่าจะเชื่อใจกัมพูชาได้หรือไม่ เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวเรื่องเครื่องบินขนส่งอาวุธจากประเทศเบลารุส บินอ้อมไทยไปลงจอดที่กรุงพนมเปญ นายอนุทิน กล่าวว่า ข่าวแบบนี้ยังเชื่อถือไม่ได้
เมื่อถามอีกว่า จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงและกองทัพมีการข่าวและการตรวจสอบอยู่แล้ว หากพบข้อเท็จจริงหรือมีความเสี่ยง จะมีการรายงานมา
เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลว่าช่วงหยุดยิง กัมพูชาจะมีการเติมอาวุธและกำลัง นายอนุทิน กล่าวว่า มีการกำหนดกฎสำหรับการปะทะอยู่แล้ว และกัมพูชาเป็นฝ่ายเรียกร้องให้มีการเจรจาหยุดยิง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือ โดยประชุมร่วมกัน 3 วัน ในเนื้อหาของ Joint Statement ระบุชัดเจนว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ละเมิดกันและกันอีก ซึ่งหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะรักษาสัญญา
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้เชิญรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของไทยและกัมพูชาไปประชุมที่นครคุนหมิง เพื่อสนับสนุนสันติภาพในพื้นที่ โดยทุกเรื่องมีรายละเอียดชัดเจนอยู่ใน Joint Statement
