“อภิสิทธิ์-สกลธี” นำทีมกรุงเทพฯฟ้าใหม่” พร้อมก่อน เดินก่อน ลงพื้นที่เขต 1 และเขต 2 พร้อมผู้สมัครสส. กทม. ”พีรวุฒิ พิมพ์สมฤดี เขต 1 เบอร์ 9” และ “เจษฎา เลิศธนสาร เขต 2 เบอร์ 11” เพื่อขอโอกาสคนกรุงเทพฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับมาแก้ไขปัญหาให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม พร้อมเชิญชวนคนกรุงเทพฯกาบัตรสีชมพูเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 27
วันที่ 30 ธ.ค.68 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้นำทีม“กรุงเทพฯฟ้าใหม่” พร้อมก่อน เดินก่อน โดยมีผู้สมัคร สส. กทม. เขต 1 นายพีรวุฒิ พิมพ์สมฤดี (ฟลุ๊ค) ผู้สมัคร สส.กทม. เขต 1 เบอร์ 9 และนายเจษฎา เลิศธนสาร (จั๊ม) ผู้สมัคร สส.กท. เขต 2 เบอร์ 11 ร่วมลงพื้นที่ของตัวเองด้วย
นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้ท่านหัวหน้าพรรค ได้มาร่วมลงพื้นที่หาเสียง เพื่อขอโอกาสพี่น้องประชาชน เขต 1 และเขต 2 ซึ่งถือได้ว่า พื้นที่ทั้ง 2 เขตนี้ ท่านหัวหน้าพรรคมีความผูกพันธ์กับพี่น้องประชาชนมายาวนาน การได้กลับมาบริหารงานพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ท่านจึงอยากมาลงพื้นที่ เพื่อมาพบปะและบอกพี่น้องประชาชนว่าได้ท่านหัวหน้าพรรคกลับมาและพร้อมมาทำงานให้พี่น้องประชาชนแล้ว เพราะท่านอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า ถึงเวลาที่ “ไทยหายจน” และ “ไม่ทนทุนเทา”
นายสกลธี กล่าวว่า สำหรับเขต 1 เป็นเขตที่เป็นเขตฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครั้งนี้เราส่งผู้สมัครหน้าใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ บุคลิกภาพ รวมถึงอุดมการณ์ที่ตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงคาดหวังในเขตนี้ จึงอยากจะให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้ดูในทุกเขตว่ากรรมการบริหารพรรคได้พยายาม คัดสรรบุคคลที่ครบเครื่องที่ดีที่สุด มาเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชน
“พรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ ทีม”กรุงเทพฯฟ้าใหม่“ พร้อมก่อนเดินก่อน ผู้สมัครสส.กทม. ทั้ง 33 เขต พร้อมลงพื้นที่กันแล้ว และพร้อมขออาสามาทำงานให้พี่น้องคนกรุงเทพมหานครทุกเขตเช่นกัน เพื่อทำให้ชีวิตคนกรุงเทพฯไปได้ไกลกว่าเดิม” นายสกลธี กล่าว
นายสกลธี กล่าวอีกว่า ตนอยากขอโอกาสให้ประชาชนไว้วางใจ ผู้สมัคร สส. กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 33 เขต เพราะทุกคนหากพี่น้องประชาชนได้ศึกษาข้อมูลประวัติทุกคน จะพบว่า ทั้งประวัติการศึกษา และการทำงานที่ดี แต่ทุกคนมองเห็นเหมือนกันว่า วันนี้ชีวิตคนกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษ และเศรษฐกิจปากท้องย่ำแย่ เมื่อทุกคนในทีมกรุงเทพฯฟ้าใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ เห็นพ้องตรงกันว่า พวกเขาจะไม่ทนเห็นสิ่งเหล่านี้ ที่มากระทบความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ พวกเขาจึงพร้อมใจกันมาขออาสาทำงานให้ประชาชน และประเทศชาติ ต้องดีขึ้นกว่าเดิมได้อีก
“ถ้าพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ มั่นใจการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของหัวพรรคท่านอภิสิทธิ์ ท่านการดี เลียวไพโรจน์ และท่านกรณ์จาติกวณิช และผม โปรดกาบัตรสีชมพู หมายเลข 27 เพราะพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทำงานด้วยความสุจริต ไม่ทนทุนเทา และ ไทยหายจน“ นายสกลธี กล่าว
ด้านนายพีรวุฒิ พิมพ์สมฤดี (ฟลุ๊ค) ผู้สมัคร สส.กทม. เขต 1 เบอร์ 9 พื้นที่ เขตพระนคร เขตป้อมปราบฯ เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) และเขตบางรักพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โดยในช่วงเช้าวันนี้ ตนได้ลงพื้นที่ โดยวันนี้ (30 ธ.ค.) ตนได้ลงพื้นตั้งแต่เช้า โดยจุดแรกที่ย่านวัดชนะสงคราม จากนั้นเดินต่อไปยังหัวถนนย่านมหรรนพ และศาลเจ้าพ่อเสือ และย่านแพร่งภูธร ย่านแพร่งนรา และจุดสุดท้ายจองวันนี้ คือย่านบางรัก
“ผมดีใจมาก ที่วันนี้ท่านหัวหน้าพรรค และท่านสกลธี ได้มาร่วมลงพื้นที่หาเสียงกับผม ถือเป็นโอกาสดี แม้ว่าผมเอง เป็น ผู้สมัคร สส. หน้าใหม่ และลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรก แต่ผู้ใหญ่ให้โอกาส มาเดินเคียงบ่าเคียงในพื้นที่เพื่อร่วมหาเสียงไปด้วยกัน”
นายพีรวุฒิ ย้ำว่า ถือเป็นการเพิ่มพลังใจให้กับตนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตนมีกำลังใจในการพบปะ กับพี่น้องประชนชนในพื้นที่เขต 1 หากตนได้รับการเลือกตั้ง ตนจะมาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในกานำปัญหาต่างๆ ของพี่น้องเขต 1 ไปนำเสนอในสภา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ไขและปรับปรังเร่งด่วน
ส่วน ดร.เจษฎา เลิศธนสาร (จั๊ม) ผู้สมัคร สส.กท. เขต 2 เบอร์ 11 ซึ่งพื้นที่ครอบคลุมเขตสาทร เขตปทุมวัน และราชเทวี กล่าวว่า วันนี้ท่านหัวหน้าพรรค และท่านสกลธี มาร่วมลงพื้นที่เขตราชเทวี โดยเริ่มต้นที่ปากซอยเพชรบุรี 7
ดร.เจษฎา กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมีความมั่นใจ และได้เดินพบปะประชาชน ในเขตพื้นที่แล้ว พร้อมให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนและพูดถึงผลถึงผลงานที่ผ่านมาของพรรคประชาธิปัตย์
“ผมมีความมั่นใจในการลงพื้นที่เนื่องจากได้ลงพื้นที่พร้อมกับท่านอดีตสส. อรอนงค์ ซึ่งชาวบ้านแต่ละคนก็พูดถึงผลงานที่เคยได้ทำไปก่อนหน้านี้ ผมก็มั่นใจว่า ในอนาคตจะสามารถเรียกความมั่นใจของประชาชนในพื้นที่ได้”ดร.เจษฎา กล่าว
