“ภูมิธรรม”เผยทุกหน่วยงานเร่งคลี่คลายอุทกภัยภาคเหนือ “เชียงราย” สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ไม่น่าห่วง ขณะที่ เชียงใหม่ ระดับน้ำเริ่มสูง ขณะนี้มีการเฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งมีการนำเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง นำไปประจำทุกจุด และมีการเคลื่อนย้ายรถต่าง ๆ ไปในพื้นที่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 4 ต.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวก่อนการประชุมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นัดแรก ถึงกรณีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสาย จ.เชียงราย ยกระดับสูงขึ้น จนพื้นที่ชุมชนเกาะทราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมนั้น ได้มีข้อสั่งการหรือได้รับรายงานเพิ่มเติมหรือไม่ว่า ขณะนี้หน่วยงานทหารช่าง ทำงานกันตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงหกโมงเช้า ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย และน้ำนิ่งพอสมควร ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ที่ จ.เชียงราย ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.กระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นหน่วยส่วนหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ในพื้นที่เพื่อดูสถานการณ์
ส่วนส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำสูงขึ้นพอสมควร น้ำล้นจากตลิ่งขึ้นมาเกือบ 1 เมตร ขณะนี้มีการเฝ้าระวังอยู่อยู่ในพื้นที่ รวมทั้งมีการนำเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง นำไปประจำทุกจุด และมีการเคลื่อนย้ายรถต่าง ๆ ไปในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งได้มีการสั่งระงับการเรียนการสอน และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยนำเครื่องมือดูดสิ่งกีดขวางที่อยู่ในแม่น้ำลำคลอง คาดว่าจะดูดออกเพื่อให้น้ำระบายได้เร็วที่สุด อีกทั้งในส่วนที่ศูนย์บริบาลช้าง บ้านกู๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีช้างอยู่จำนวน 126 เชือก ขณะนี้ช่วยขึ้นมาแล้ว 117 เชือก ส่วนอีก 9 เชือก กำลังติดตามดำเนินการอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนสัตว์เลี้ยงทั้งหมดนำขึ้นไปอยู่ที่สูงทั้งหมดและคาดว่าจะปลอดภัย ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเหนือตอนล่าง ได้กระทบไปหลายจุด ทั้ง จ.พิจิตร , จ.สุโขทัย รวมทั้งภาคอีสาน จ.เลย ก็ได้รับผลกระทบในหลายอำเภอเช่นเดียวกัน โดยที่ขณะนี้กำลังเร่งคลี่คลาย ส่วนภาคกลาง พื้นที่นอกเขื่อน ในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีผลกระทบในบางจุด แต่โดยรวมเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ส่วนการเยียวยาน้ำท่วมภาคเหนือ ปัจจุบันจ่ายไปเพียงรอบเดียว ส่วนสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้ต้องดูว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร เนื่องจากมีข้อเสนอหลายเรื่อง และบางเขตพื้นที่มองว่าไม่ควรเป็นที่อยู่อาศัยต่อ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ แล้วจะต้องดำเนินการอีกหลายส่วน ซหตุการณ์อุทกภัยส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า และครั้งนี้เป็นบทเรียนที่เห็นได้ชัดว่า เมื่อมีฝนตกจะทำให้เกิดเหตุการณ์หนักขึ้น และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ คือ ไร่ข้าวโพด และรีสอร์ท ซึ่งต้องหาทางแก้ไขต่อไป ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีดินโคลนจำนวนมากและแพร่ขยายไปหลายจุดในภาคเหนือ
