“ขุนคลังพิชัย” ยื่นข้อเสนอครั้งสุดท้ายให้สหรัฐฯ หวังมะกันเก็บภาษีไทยใกล้เคียงภูมิภาค คาดรู้ผลก่อน 1 ส.ค. ด้าน SCBEIC เปิด 3 กรณีผลกระทบขึ้น “ภาษีทรัมป์”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและไทยเรื่องภาษีนำเข้าว่า สหรัฐฯเห็นข้อเสนอไทยแล้ว 90% โดยสหรัฐฯทำคำอธิบายหรือข้อเสนอตอบกลับมาบ้าง เกี่ยวกับนโยบายที่สหรัฐฯต้องการ ซึ่งไทยจะนำกลับมาพิจารณา ว่าทำได้หรือไม่อย่างไร โดยคาดว่าสหรัฐฯจะลดอัตราภาษีนำเข้าจาก 36% ลงมาอยู่อัตราใกล้เคียงกับภูมิภาค ซึ่งสหรัฐฯจะพิจารณาอัตราภาษีแบบมองเป็นกลุ่มประเทศ เพื่อที่สหรัฐฯจะได้บริหารจัดการภาษีได้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้สหรัฐฯไม่ถึงขั้นยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติม แต่สหรัฐฯมีรายการที่ต้องการเห็นนโยบายของไทย ซึ่งไทยต้องนำมาพิจารณา ว่าทำได้หรือไม่อย่างไร โดยหวังว่าจะได้คำตอบจากสหรัฐฯก่อนวันที่ 1 ส.ค.2568 เพราะส่งข้อมูลไปหมดแล้ว โดยทีมไทยแลนด์ ยื่นข้อเสนอสุดท้ายเรียบร้อยเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา
ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBEIC) ได้คาดการณ์ผลกระทบจากการเจรจาภาษีสหรัฐฯ (U.S.tariff)ของไทยไว้ 3 กรณี คือ
1.กรณีเจรจาลดภาษีไม่ได้เลย สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เท่าเดิม ภาษีของไทยสูงกว่าคู่แข่งหลักจะกระทบกับเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก โดยจีดีพีในปี 2568 จะขยายตัวได้เพียง 1.1% และจีดีพีปี 2569 จะขยายตัวได้เพียง 0.4%
2.กรณีที่เจรจาลดภาษีลงมาได้บ้าง แต่ยังสูงกว่าคู่แข่งหลัก บนสมมุติฐานที่ไทยเสียภาษี 25% จะทำให้จีดีพีในปี 2568 ขยายตัวได้ 1.5% และจีดีพีในปี 2569 ขยายตัวได้ 1.2%
3.กรณีที่ไทยเจรจาลดภาษีลงมาได้ใกล้เคียงกับคู่แข่งหลัก โดยอยู่ที่ไม่เกิน 23% จีดีพีของไทยในปี 2568 จะอยู่ที่ 1.5% และในปี 2569 จะขยายตัวได้ 1.4%











