“อัจฉริยะ” ท้า “วินัย ทองสอง” ดีเบต จะได้รู้ใครของแท้ ยัน หนุนค่ายมวยด้วยเงินตัวเอง ไม่ได้ปล้นใครมา ย้อน แฉวีรกรรมทรมานสจ.โต้ง บอก หยุดหากินกับคนตาย
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 68 ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ กล่าวหาว่านายอัจฉริยะเป็นนักการพนันและพาดพิงคนตายคือ สจ.โต้ง ปราจีน ว่า ตนเป็นหัวหน้าค่ายมวยและสนับสนุนนักมวยที่เป็นเยาวชน ซึ่งเยาวชนเหล่านี้คือเด็กวัดตนนำมาชุบเลี้ยงสนับสนุนให้มีรายได้ โดยสนับสนุน 3 ค่าย ด้วยเงินส่วนตัวของตนเองไม่ได้ปล้นใครมาหรือไปกรรโชกทรัพย์ใครมา และตนไม่ได้เล่นพนันถึง 12 ล้านบาท ตามที่พล.ต.อ.วินัย ไปออกรายการ
“ ผมขอท้าดีเบตกับคุณวินัย พรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็ได้ เรามาคุยกันเลย อย่าเป็นนักเลงกระโปรง ผมนักเลงจริง ” นายอัจฉริยะกล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ผมจะเล่าให้ฟังว่าพล.ต.อ.วินัย พูดถึงสจ.โต้งปราจีน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อนของพล.ต.อ. วินัย ถูกสจ.โต้ง ปราจีน ยิงเสียชีวิตเป็นคำกล่าวหา และพล.ต.อ. วินัย ขณะนั้นเป็นตำรวจอยู่กองปราบ เพื่อนถูกยิงเสียชีวิตก็ไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะไปจับสจ.โต้งได้ เพราะไม่มีทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐาน และเมื่อพล.ต.อ. วินัย ย้ายไปเป็นผู้บัญชาการภาค 2 ก็ไปจับสจ.โต้งโดยการให้พรรคพวกของตัวเองไปล่อซื้อในการประมูลงาน โดยโอนเงิน 100,000 บาท เข้าบัญชีของพรรคพวกพล.ต.อ. วินัย หลังจากนั้นมาก็เอาสจ.โต้งไปซ้อมทรมาน
“ ก่อนสจ.โต้งจะเสียชีวิต ได้เล่าให้ผมฟังว่าพล.ต.อ. วินัย ให้ลูกน้องเอาน้ำแข็ง ถอดเสื้อผ้าหรือกางเกงในอย่างเดียว วางบนหน้าอกสจ.โต้ง ปราจีน เพื่อบังคับให้ซักทอดว่าคนที่เป็นหัวหน้าประมูลคือโกทร ไม่พอยังใช้เครื่องไฟฟ้าช๊อต และยังใช้อุปกรณ์หนีบนิ้วมือ สจ.โต้งไม่ซัดทอดใคร จนกระทั่งเข้าสู่กระบวนการไปติดคุกติดตาราง และต่อมาเมื่อสจ.โต้ง ออกจากเรือนจำก็ไปพบพล.ต.อ. วินัย ไปดูแลทุกเดือน เรื่องนี้สจ.โต้งบอกผมก่อนตาย ฉะนั้น ที่คุณบอกว่าสจ.โต้ง ปราจีน เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเว็บพนัน คุณได้ถามนายกอบจ.ปราจีนหรือไม่ คุณไปใส่ร้ายคนตายคุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าแน่จริงมาดีเบตกับผมเลย และผมจะบอกด้วยว่าที่มีหลักฐานแชตอะไร คุณช่วยไปเอาตำรวจไซเบอร์ที่ดูแลคุณทุกเดือนมา แล้วผมจะบอกว่ามันคือเรื่องอะไร ให้คนทั้งประเทศได้เห็นระหว่างวินัย ทองสอง กับอัจฉริยะ ผมของแท้แน่นอนตอบได้ทุกคำถาม ไม่เหมือนนักเลงกระโปรงอย่างวินัย ทองสอง” นายอัจฉริยะ กล่าว
