“ตู่-จตุพร” ชี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ‘เปราะบาง’ รบกันใกล้เข้ามาแล้ว คงหลีกเลี่ยงได้ยาก ย้ำยังจำเป็นต้องปลุกกระแสรักชาติบ้านเมืองให้กับคนไทย
เมื่อคำวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเปราะบางมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดการรบกันคงใกล้เข้ามาแล้ว และยากจะหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ขึ้นไปร้องเพลงชาติไทยที่ภูมิมะเขือและประกาศสันติภาพจบลงแล้ว จากนั้นทหารไทยเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตแดนไทยฝ่ายเดียวทั้ง 13 จุดที่ยังเป็นปัญหา สิ่งนี้อาจเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการรบกัน
ส่วนพรรคประชาชน ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ไทยยึดมั่นรักษาปฎิญญามาเลเซียต่อไป แม้ที่ผ่านมา ไทยได้ทำบันทึกข้อตกลงกันสักกี่ครั้งและมีความสุขกับการประท้วงกัมพูชาละเมิดสัญญากันสักกี่หน แต่กัมพูชายิ่งไม่มีความจริงใจกับการแก้ปัญหาชายแดนให้เกิดสันติภาพ สงบศึก
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อกัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ หาเรื่องให้ทหารไทยลาดตระเวนเหยียบจนขาขาดเป็นรายที่ 7 ซึ่งผิดทั้งอนุสัญญาออตตาวาและละเมิดบันทึกข้อตกลงล่าสุด ที่ไทย-กัมพูชาลงนามต่อหน้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” ดังนั้นไทยจะอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ได้
“เมื่อประเทศถูกลูบคม (ซ้ำแล้วซ้ำเล่า) จนไม่เหลือคมให้ลูบอีกแล้ว แม้เราไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามกัน แต่อะไรที่เป็นภัยคุกคามกับประเทศไทย เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ (การเก็บกู้) ทุ่นระเบิดในเขตไทยไม่ต้องขออนุญาต (กัมพูชา) เพราะเรามีสิทธิ์ทำเต็มที่ในพื้นที่แผ่นดินไทย”นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังเปรียบเทียบว่า ประเทศเวียดนามมีเขตแดนติดกับกัมพูชา แต่เขาผ่านสงครามทั้งฝรั่งเศส สหรัฐฯ และจีนมามากมาย และทำตัวเป็นเพื่อนบ้าน ไม่เป็นเพื่อนเล่นกับกัมพูชา ถ้ามีปัญหาเวียดนามก็เอาจริง ส่วนไทยขณะรบชิงเอาปราสาทตาควายคืนกลับมา รัฐบาลยังเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชา ซึ่งเป็นท่วงทำนองดูแปลก ๆ
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า การเดินสายไปพูดในสถานที่ต่าง ๆ ของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษา ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาค 2 ยังมีความจำเป็น เพราะสร้างอารมณ์ ความรู้สึกรักชาติบ้านเมืองให้กับคนไทย






































