ในที่สุด คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ “เมิน” แรงกดดันจากฟากฝั่งการเมือง โดยยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เหมือนเดิมที่ 2.50% แม้คะแนนที่ออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ก็ตาม!!
เหตุผลสำคัญของ “กนง.” เสียงส่วนใหญ่ทั้ง 5 เสียง…คิดเห็นเหมือนกันว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวชะลอลงในเวลานี้ เป็นเพราะมีแรงส่งจากต่างประเทศที่น้อยลง รวมถึงผลกระทบจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่สะสมปัญหามานาน
ขณะที่ การบริโภคในประเทศ ยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง ส่วน เงินเฟ้อ ที่ต่ำต่อเนื่องในเวลานี้!! ยังไม่ได้บ่งบอกว่าอุปสงค์ในประเทศกำลังอ่อนแอ เพราะราคาสินค้าไม่ได้ปรับลดเป็นวงกว้าง มีเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น
ที่สำคัญ… หากไปคลี่ไส้ในดู ก็จะเห็นได้ว่า หากไม่นับรวมผลของมาตรการรัฐบาลที่เข้าไปช่วยเหลือค่าครองชีพ ทั้งการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน แล้ว เงินเฟ้อทั่วไปยังคงเป็นบวก
ส่วนเรื่องของ เงินฝืด!! ก็ยังไม่มีสัญญาณให้น่าเป็นห่วง เพราะ…อาการของเงินฝืดจริงๆ คือ สินค้าส่วนใหญ่ต้องถูกลง เพราะภาคธุรกิจเห็นว่า คนไม่มีกำลังซื้อ ก็ต้องลดราคา แต่!! ตอนนี้…สินค้าส่วนใหญ่ยังขึ้นราคาอยู่ จึงมองว่าไทยยังห่างจากภาวะเงินฝืดแน่นอน
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2024/02/iio.jpg)
ด้วยเหตุนี้!! จึงมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.50% เป็นระดับที่เหมาะสมที่จะดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจไว้ได้ !!
ส่วนกรรมการเสียงข้างน้อยอีก 2 คน เห็นว่า ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือลง 0.25% เหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลง
การเมินแรงกดดันจากฟากฝั่งการเมือง เช่นนี้!! แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความเป็น “อิสระ” ของ “กนง.” และ “แบงก์ชาติ” มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการแก้ไขพ.ร.บ.แบงก์ชาติ
ไม่ว่า…จะเป็น “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หรือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ออกโรงเปิดหน้ากดดันให้ “กนง.” ลดดอกเบี้ยลง ก่อนหน้าการประชุมเพียง 1 วัน แถมยังสำทับไว้ด้วยว่า หากเกิดอะไรขึ้นมา “ผู้กำกับนโยบายการเงิน” ก็ต้องออกมารับผิดชอบด้วย
หรือจะเป็นแรงกดดันจาก “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ออกตัวแรงมาตั้งแต่แรก เพื่อกดดันให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยลงให้ได้ ทั้งผ่านสื่อ ทั้งผ่านโซเชียล แบบประชดประชันมาโดยตลอด
เหตุผลสำคัญของฝั่งการเมืองนั้นมองว่า เวลานี้เศรษฐกิจยังมีปัญหา ยังวิกฤติ ต้องการแรงกระตุ้น ลำพังเพียงจะใช้แค่นโยบายการคลังแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่พอ!! เพราะเงินงบประมาณรายจ่ายปี 67 ยังไม่มีผลบังคับใช้
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2024/02/IMG_20240206104632000000.jpg)
ดังนั้น…นโยบายการเงิน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเข้ามาช่วยโอบอุ้มช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ยังติดกับดักงบประมาณรายจ่าย
ฝ่ายการเมือง มองว่า เวลานี้คนไทยทั้งประเทศ กำลังมีต้นทุนที่สูงมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยที่แพงมาก ขณะที่บรรดานายแบงก์ต่างฟาดกำไรกันไปถ้วนหน้ารวมๆ กันแล้วก็กว่า 2 แสนล้านบาท
ที่สำคัญ!! ส่วนใหญ่กำไรของแบงก์ในปีที่ผ่านมา ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ก็มาจากรายได้จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ตามทิศทางดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น
การมองต่างมุมเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า…ในเมื่อต้นทุนชีวิตสูงขึ้น แพงขึ้น ขณะที่เงินในกระเป๋าแฟบลงทุกวัน จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หน่วยกำกับดูแลที่ไม่ได้ให้ประโยชน์แบบเห็นได้ชัดเจน จับต้องได้ ก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องธรรมดา!!
ทั้งนี้…หากย้อนกลับไปดูตัั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.65 ที่ผ่านมา “กนง.” ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องมาถึง 8 ครั้ง จากอัตราดอกเบี้ย 0.50% กลายมาเป็น 2.50% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา
จึงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไม? กำไรแบงก์ถึงเพิ่มขึ้น…เพิ่มขึ้น ต่อให้กำไรที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการทำธุรกิจในหลายๆ ส่วน ก็ตาม แต่บรรดาแบงก์เองก็ต้องมองย้อนกลับว่า ที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้มากน้อยเพียงใด?
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/09/1636496194900-1024x541.jpg)
ในเมื่อประชาชน มีแต่แย่ลง มีแต่ความยากลำบาก ขณะที่ภาคธุรกิจที่ต้องหารายได้จากประชาชนคนไทย กลับรวยขึ้น…รวยขึ้น กำไรเอา!! กำไรเอา!! รับรองได้…ไม่มีใครเข้าข้างแน่นอน
ขณะเดียวกัน!! หากผู้กำกับดูแล ไม่สามารถกดดันให้ภาคธุรกิจ ลดการทำธุรกิจ ลดการหาผลกำไร แล้วมาช่วยกันดูแลประชาชน นอกเหนือไปจากนโยบายที่กำกับดูแลในภาพกว้างอยู่แล้ว
เชื่อเถอะ!!จะชี้แจงเหตุผลในเชิงวิชาการ สักเท่าใด? ก็ไม่มีใครฟัง เพราะประชาชนต่างเดือดร้อนกันถ้วนหน้า… จีดีพี คืออะไร? เงินเฟ้อ คืออะไร ? ชาวบ้านชาวช่องไม่รู้หรอก
ณ เวลานี้ รู้แต่เพียงว่า รายจ่ายสูงกว่ารายได้ เงินในกระเป๋าก็แฟบลงทุกวัน สุดท้าย หนีไม่พ้นการเป็นหนี้อยู่ดี ความพยายามในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็อาจไปไม่ถึงเป้าหมายก็เป็นไปได้!!
…………………………..
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
สนับสนุนคอลัมน์ โดย E@ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/07/แอดE@-65.jpeg)