วันพุธ, พฤษภาคม 1, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSอย่าให้“ชาติ”ต้องเผชิญกับ“วิกฤติการเมือง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

อย่าให้“ชาติ”ต้องเผชิญกับ“วิกฤติการเมือง”

ฝ่ายความมั่นคงจับตามองสถานการณ์การเลือกประธานสภาฯ เตรียมพร้อมรองรับหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด ด้านเหล่าทัพยังคงทำหน้าที่ต่อไป

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 1 ก.ค.66  แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน แต่สถานการณ์การเมืองดูจะร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ และอีกไม่กี่วันก็จะได้รู้แล้วว่า ใครจะได้เป็นประธานรัฐสภา ระหว่าง พรรคก้าวไกล หรือ พรรคเพื่อไทย สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย

@@@…… แม้ว่า การเลือกตั้งจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางพรรคการเมืองลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมหาเสียงอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน โดยอ้างว่าเพื่อขอบคุณต่อผู้ลงคะแนนให้พวกเขา แต่ในข้อเท็จจริง ดูเสมือนการปลุกระดมสร้างความชอบธรรมลงถนน ซึ่งอาจสร้างความเกลียดชัง และความขัดแย้งในสังคมขึ้นได้ หากการจัดตั้งรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายการเมืองบางกลุ่มต้องการ ประกอบกับมีข่าวสารมากมายในสื่อสังคมออนไลน์ที่ตอบสนองความต้องการของฝ่ายการเมืองนั้น มีแนวโน้มสร้างความความแตกแยกในบ้านเมือง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านอำนาจจากรัฐบาลหนึ่งสู่อีกรัฐบาลอีกหนึ่ง ควรเป็นไปโดยราบรื่น และรวดเร็ว ไม่ควรให้ประเทศชาติต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจซ้ำเติมอีกจากวิกฤติการเมือง ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงหวังอย่างยิ่งว่า ฝ่ายการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจะต้องช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน 

FB / วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

@@@…… กรณีตําแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังคงเป็นประเด็นเปราะบาง เห็นได้ชัดว่า กลุ่มการเมืองบางกลุ่มต้องการใช้มวลชนกดดันพรรคการเมืองคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองตอบโต้กันหลังจากนี้ ทั้งยังอาจเป็นเงื่อนไขให้การเจรจาที่จะมีขึ้นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการโหวตเลือกประธานสภาฯล้มเหลวลงได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลมาบริหารประเทศต่อไปได้ด้วยเช่นกัน หากสถานการณ์ความขัดแย้งบานปลายควบคุมไม่ได้ หรือมีการปะทะกันของกลุ่มการชุมนุมลงถนนผิดกฎหมายใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมือง ขณะที่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถจัดการได้ ก็จะกลายเป็นความชอบธรรมที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ด้วยกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น .. ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงจากนี้ไปอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนให้พร้อมไว้อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศชาติจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ในที่สุด

@@@…… ยังคงทำงานต่อไป…..พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จว.สระแก้ว ประชุมเตรียมความพร้อม รับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน-สตึงบท)  ณ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ  โดยรับฟังภาพรวมสรุป ความก้าวหน้าการเตรียมความพร้อมรับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน-สตึงบท)  ณ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ มีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 40 อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน ส.ค.2568  ปัจจุบันมีการนำเข้า-ส่งออก การค้าผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราวดังกล่าว เฉลี่ยเดือนละ 7,800 ล้านบาท รถสินค้าผ่านแดนกว่า 700 คัน ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการจราจรบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก ที่เคยคับแคบมีความคล่องตัวมากขึ้น 

@@@……พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายไทย และกัมพูชา ที่ร่วมขับเคลื่อนการบริหารงานและการก่อสร้างจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ สะพานมิตรภาพ บริเวณบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ร่วมกัน โดยย้ำว่า จุดผ่านแดนถาวรดังกล่าว มีความสำคัญต่อการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ จว.สระแก้ว  รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศในภาพรวม โดยกำชับ ขอให้ทุกส่วนราชการ ให้ความสำคัญเร่งรัดทำงานร่วมกันและประสานการปฏิบัติกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ในการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งระบบอำนวยความสะดวกคนเข้าเมือง และการผ่านสินค้าให้สามารถเปิดทำการได้อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อยกระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศไปพร้อมกัน

@@@……ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก…..พล.อ.ชัยชาญ  ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในฐานะอุปนายกสภาทหารผ่านศึก เป็นผู้แทน รมว.กลาโหม เป็นประธานในการประชุมสภาทหารผ่านศึก ครั้งที่ 2/2566 โดยที่ประชุมรับทราบและพิจารณาเรื่องที่สำคัญ อาทิ โครงการจัดซื้อรถกายอุปกรณ์เคลื่อนที่ พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกกายอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน เพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือทหารผ่านศึกในพื้นที่ห่างไกลเพิ่มขึ้น ประมาณ 700 รายต่อปี ทำให้ทหารผ่านศึกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข รวมทั้งเป็นการดูแลรักษาพยาบาลทหารผ่านศึกที่เจ็บป่วยได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าจะส่งมอบรถกายอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังกล่าว ได้ภายในเดือน ส.ค. 2567 นอกจากนี้ดำเนินการจัดทำโครงการ “ขอรับการสนับสนุนวัสดุเหลือใช้มาปรับปรุงซ่อมแซมให้เกิดประโยชน์” โดยขอรับการสนับสนุนวัสดุเหลือใช้จากหน่วยงานต่าง ๆ นำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำไปบริจาคให้แก่ทหารผ่านศึกที่ยากไร้ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการฝึกความชำนาญในการปรับปรุงซ่อมแซมให้แก่ทหารผ่านศึกที่เข้ารับการฝึกอาชีพ และนำไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ทหารผ่านศึกและครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง 

@@@……ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ. เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพล กองร้อยทหารช่าง เฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 4 ซึ่งการส่งกำลังพลฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังระหว่าง กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 3 จำนวน 273 นาย ซึ่งเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่เดือนเม.ย.2565 จนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน กับ กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 4 จำนวน 273 นาย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีที่มีต่อสหประชาชาติ ทั้งนี้ ได้ออกเดินทางโดยอากาศยานเช่าเหมาลำของสหประชาชาติ ในวันอังคารที่ 27 มิ.ย.2566 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานเมืองจูบา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน และปฏิบัติตามกรรมวิธีการเข้าเมือง เพื่อเข้าในพื้นที่ของสหประชาชาติ พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจต่อไป

@@@……ทั้งนี้ในห้วงเวลาที่ผ่านมา กองกำลัง กองร้อยทหารช่างของไทย ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและองค์การต่าง ๆ ในความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากชาติใดๆ ได้แก่ การปฏิบัติงานทางการช่างที่มีประสิทธิภาพ ที่ได้รับการมอบหมายจากฝ่ายวิศวกรรมประจำภารกิจ ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาพัฒนาเพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้แก่ประชาชนชาวสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ควบคู่ไปกับการปฏิบัติภารกิจทางยุทธวิธี ดังนั้น กองกำลังของไทย จึงได้รับการพิจารณาจากสหประชาชาติ ตามพันธกรณีให้เข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นบทบาท เกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจของประเทศไทยในเวทีโลก รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยในการปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังชาติต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปสู่ความเป็นเลิศตามมาตรฐานสากล

@@@……ที่กองทัพบก…พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานในพิธีประกาศความร่วมมือระหว่างกองทัพบกกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. เปิดบริการการใช้งานหลักฐานแสดงตนทางดิจิทัลของข้าราชการกองทัพบกบนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”โดยมี ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลให้เกียรติร่วมในการแถลงข่าว ด้วยผู้บัญชาการทหารบกได้อนุมัติให้ดำเนินการจัดทำหลักฐานแสดงตนทางดิจิทัลของข้าราชการกองทัพบก เพื่อใช้ประโยชน์ในการแสดงตนหรือยืนยันตัวบุคคล ซึ่งเป็นการพัฒนางานบริการบนแอปพลิเคชัน“ทางรัฐ”โดยความร่วมมือระหว่าง กองทัพบกกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ภายใต้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยจากระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของ กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย เข้ากับระบบฐานข้อมูลกำลังพล อิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ PDX) 

@@@……โดยวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานการแสดงตน/ยืนยันตัวตนของข้าราชการกองทัพบกในรูปแบบดิจิทัลที่แสดงผลด้วยมาตรฐานเดียวกับรูปแบบการแสดงตนของบัตรประชาชนดิจิทัล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้กำลังพลสามารถเข้าถึงหรือเรียกดูและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลประวัติส่วนตัว และสามารถแจ้งขอแก้ไขข้อมูลของตนเองในระบบPDX ได้สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งสามารถใช้ประโยชน์ในการแสดงตนเพื่ิอขอรับสิทธิ์สวัสดิการหรือบริการต่าง ๆจากหน่วยให้บริการภายในกองทัพบก ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลของฐานข้อมูลกลางของระบบ PDX ในกรณีต้องการตรวจสอบความถูกต้องของผู้รับสิทธิ์ให้มีความรวดเร็วและถูกต้อง ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การปฏิบัติงานในรูปแบบกองทัพบกดิจิทัล ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

@@@……ขั้นตอนการปฏิบัติแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ให้สามารถยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นข้าราชการกองทัพบกที่รับรองจากฐานข้อมูลกำลังพลในระบบ PDX ไปแสดงผลบนแอปพลิเคชันทางรัฐ ด้วยรูปแบบหลักฐานแสดงตนกำลังพลทหารบกแบบเสมือนบัตรจริง (Virtual Card) ระยะที่ 2 เพิ่มขีดความสามารถเข้าถึงรายละเอียดข้อมูลประวัติกำลังพลเชิงลึกบางส่วนบนแอปพลิเคชัน ทางรัฐ และระยะที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถในการแจ้งขอแก้ไข ปรับปรุงข้อมูล เมื่อพบว่าไม่ถูกต้อง รวมทั้งยังมีการแสดง QR Code สำหรับแสดงต่อหน่วยให้บริการสิทธิหรือสวัสดิการต่างๆของกองทัพบก ทั้งนี้การจัดทำหลักฐานแสดงตนฯ ได้ผ่านการทดสอบการใช้งาน และปัจจุบันมีความพร้อมเปิดใช้งานเพื่อให้บริการแก่กำลังพลกองทัพบกเรียบร้อยแล้ว โดยหลักฐานแสดงตนฯสามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบ PDX กับแอปพลิเคชันทางรัฐ จึงสามารถยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นกำลังพลกองทัพบกด้วยรูปแบบเสมือนจริงบนแอปพลิเคชันทางรัฐได้แล้ว นับเป็นการพัฒนาอีกก้าวของกองทัพบกรองรับการเข้าสู่การปฏิบัติงานในรูปแบบกองทัพบกดิจิทัล

@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานจัดงานเทิดพระเกียรติ จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เนื่องใน “วันบริพัตร” ประจำปี 2566 ณ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ กองทัพเรือได้จัดกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติจอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เนื่องในวันบริพัตร ประกอบด้วยพิธีบวงสรวง พิธีบำเพ็ญกุศล พิธีถวายพานพุ่มดอกไม้ พิธียิงสลุต รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการพระประวัติ และพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงมีพระมหากรุณาคุณแก่กองทัพเรืออย่างอเนกอนันต์

@@@……จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประสูติเมื่อวันพุธที่ 29 มิถุนายน 2424 ในพระบรมมหาราชวัง ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 33 ใน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ที่ 2 ใน สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ทรงเข้ารับราชการในกองทัพเรือตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ 2446 ถึง 18 มิถุนายน 2463 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ และ เสนาบดีกระทรวงทหารเรือเป็นเวลาประมาณ 17 ปี ซึ่งนับว่ายาวนานที่สุด

@@@……จอมพลเรือ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงบุกเบิกและวางรากฐานความเจริญด้านต่าง ๆ ให้แก่กองทัพเรือเป็นอันมาก คุณูปการที่ทรงมีต่อกองทัพเรือที่สำคัญ ๆ เช่น ทรงจัดระเบียบราชการในกองทัพเรือให้รัดกุม ทรงจัดทำข้อบังคับทหารเรือว่าด้วยหน้าที่ราชการในเรือหลวง ทรงวางรากฐาน การจัดระเบียบการเรียนการสอนในโรงเรียนนายเรือใหม่ ทรงขยายและปรับปรุงอู่เรือหลวง ทรงวางรากฐานกองดุริยางค์ทหารเรือ ทรงจัดทำโครงสร้างกำลังทางเรือ ทรงเสริมสร้างแสนยานุภาพของกองทัพเรือ โดยทรงสั่งซื้อเรือรบจากต่างประเทศเข้าประจำในกองทัพเรือเป็นจำนวนมาก

 ………………………………….

 คอลัมน์  : “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img