วันพุธ, พฤษภาคม 1, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSแนะ“รัฐบาลใหม่” ต้องรู้ความต้องการของ“ประชาชน”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แนะ“รัฐบาลใหม่” ต้องรู้ความต้องการของ“ประชาชน”

นับถอยหลังใกล้จะได้นายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงจับตามองความเคลื่อนไหวทางการเมือง แนะรัฐบาลใหม่ต้องรู้ความต้องการของประชาชน 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 19 ส.ค.66 สถานการณ์การเมืองยังคงให้รอกันต่อไปว่า “ใคร” จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งวันที่ 22 ส.ค.นี้ก็จะได้รู้กันเสียที…??

@@@…….บทเรียนในประวัติศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่า การสรรหาบุคคลมาบริหารประเทศ เป็นเรื่องสำคัญมากไม่ว่ายุคสมัยใด เพราะคนหรือคณะบุคคลที่ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ และมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินนั้น อาจทำสังคม ประชาชนและประเทศชาติให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หรือมั่งคั่ง มั่นคง เจริญรุ่งเรืองได้ในพริบตาตามแต่สติปัญญาความรู้ความสามารถโดยเฉพาะผู้นำฝ่ายบริหารในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 

FB / วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

@@@…….สำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยนั้น การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ และมีคําสั่งไม่รับคําร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอช่ือหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 ในสมัยประชุมเดียวกันว่า ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลให้เหตุผลว่าผู้ร้องไม่ใช่บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพโดยตรง ดังนั้น การประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.66 นี้ ฝ่ายความมั่นคงคาดว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนําจัดตั้งรัฐบาล จะสามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง จึงมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า รัฐสภาจะได้ชื่อนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ อย่างน้อยภายในต้นเดือนกันยายน หรือหากไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ไม่น่าจะล่าช้าออกไปนานมากนัก 

@@@…….อย่างไรก็ตาม ด้วยหลักรัฐศาสตร์แล้ว ฝ่ายบริหารต้องรู้ความต้องการของประชาชน และผู้ใต้ปกครอง .. ผู้ปกครองคนใด หรือรัฐบาลของชาติใดที่ละเลยข้อนี้ย่อมไม่อาจอยู่ได้นานนั้น คือ สัจธรรมที่เป็นสากล ทั้งนี้ หากถามว่าความต้องการของประชาชนจริงๆ คืออะไร ก็จะพบว่า ประชาชนชิงชังความลำบาก ซึ่งฝ่ายบริหารต้องสร้างความสบายร่มเย็น, ประชาชนเกลียดชังความยากจน ฝ่ายบริหารจึงต้องให้ประชาชนอยู่ดีกินดี,ประชาชนหวาดหวั่นภัยพิบัติ ฝ่ายบริหารจึงต้องสร้างสังคมให้ปลอดภัย และประชาชนไม่ชอบการพลัดพราก ฝ่ายบริหารจึงต้องสร้างประเทศชาติให้เกิดความมั่นคง ดังนั้น หากผู้ปกครองคนใดที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความร่มเย็น ประชาชนก็พร้อมยินดีอดทนต่อความลำบาก, ผู้ปกครองที่ทำให้อยู่ดีกินดี ประชาชนพร้อมยินดีแบบรับความยากจน, ผู้ปกครองที่สร้างสังคมให้ปลอดภัย ประชาชนพร้อมเผชิญภัยพิบัติ และหากฝ่ายบริหารที่สร้างชาติให้เกิดความมั่นคง ประชาชนก็ย่อมพร้อมยินดีพลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการบริหารราชการแผ่นดินของไทย เพื่อการเดินหน้ามุ่งพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่นยืน ก็จะบรรลุความสำเร็จได้อย่างงดงามในที่สุด 

@@@…….สําหรับกลุ่มปฏิกิริยาที่เคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองบนถนน ยังคงดํารงการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยเห็นได้จาก กลุ่มทะลุแก๊ซที่จัดกิจกรรม เพื่อคงกระแสมวลชนให้มีความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และสถาบันการศึกษาหลายแห่ง โดยได้มีการเชิญชวนให้ร่วมลงชื่อร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ และพยายามสร้างเงื่อนไขปลุกระดมมวลชนในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า วันที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจมีการรวมตัวของมวลชนในพื้นที่สําคัญอยู่บ้าง ซึ่งคาดว่าจะมีจํานวนไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดต่อไป และหวังว่า ความปรองดองสมานฉันท์ของฝ่ายการเมืองกำลังพยายามที่จะทำให้เกิดขึ้น จะส่งผลดีต่อประเทศชาติ กับไม่มีความขัดแย้งที่มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมืองจนพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้ รวมทั้งไม่มีเหตุการณ์ใดที่เป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจากนี้ไป

@@@…….สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ อุโมงค์ที่ 1 (อุโมงค์ผาเสด็จ) ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ สถานีรถไฟหินลับ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดย พล.อ.อ.อร่าม สกุลแก้ว ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.ท.วชิรศักดิ์ พูสิทธิ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูง นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และนักเรียนนายเรืออากาศ เข้าร่วมให้การต้อนรับ 

@@@…….ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้สักการะพระรูปหล่อจำลอง จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ ผู้วางรากฐานแนวทางเสริมสร้างกำลังทางอากาศของประเทศไทย พระพุทธมหากรุณานภาพลพิทักษ์ พระพุทธรูปประจำโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช การรับฟังบรรยายสรุปกิจการ รวมถึงเยี่ยมชมทัศนียภาพโดยรอบ และยังได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และร้องเพลงร่วมกับนักเรียนนายเรืออากาศ 

@@@…….สำหรับโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เป็นสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ที่ผลิตนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพอากาศ ได้ย้ายสู่ที่ตั้งใหม่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 24 พ.ค.66 มีพิธีเชิญธงชัยเฉลิมพลและสวนสนามเข้าที่ตั้ง ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศอย่างเป็นทางการว่า ที่ตั้งแห่งนี้คือที่ตั้งหลักของโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราชนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และวันที่ 29 พ.ค.66 เป็นวันเปิดการศึกษาของนักเรียนนายเรืออากาศ อย่างเป็นทางการ เป็นเวลา 70 ปี ที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ได้อยู่ ที่ตั้งดอนเมือง จนย้ายสู่ที่ตั้งใหม่ ณ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อย่างสมเกียรติ สมภาคภูมิ สง่างาม สมกับคำว่า “ตำนานแห่งดอนเมือง สู่ความรุ่งเรือง ณ มวกเหล็ก” 

@@@…….กองทัพเรือ…..พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อรับมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ Meritorious Service Medal (Military) ซึ่งมอบให้เป็นเกียรติกับผู้ที่มีผลงานอันโดดเด่นด้านการทหาร ของสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้ เดินทางไปที่กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ ได้รับการต้อนรับจาก พล.ร.ต.Sean Wat ผู้บัญชาการทหารเรือสิงคโปร์ ในการตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ หลังจากนั้น ได้เข้าสนทนาทวิภาคี กับ ผู้บัญชาการทหารเรือสิงคโปร์ และ รมว.กลาโหมสิงคโปร์ 

@@@…….ในโอกาสเดียวกันนี้ ดร.Ng Eng Hen รมว.กลาโหมสิงคโปร์ ได้เป็นผู้แทนรัฐบาลสิงคโปร์ ในการประดับเหรียญอิสริยาภรณ์ เชิดชูเกียรติด้านการทหาร ให้กับผู้บัญชาการทหารเรือ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพสิงคโปร์ นายชุตินทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูตไทย / สิงคโปร์ และภริยาร่วมเป็นสักขีพยาน ในการนี้รัฐบาลสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้ประกาศเกียรติคุณ ผู้บัญชาการทหารเรือ สรุปได้ว่ากองทัพเรือภายใต้การบริหารงานของ พล.ร.อ.เชิงชาย ได้มีการยกระดับความสัมพันธ์กับ กองทัพเรือสิงคโปร์ ในด้านต่าง ๆ อาทิ การประชุมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการประชุม Navy to Navy Staff Talks และการประชุมแลกเปลี่ยนด้านข่าวสาร Intelligence Exchange Conference (IEC) รวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนเมืองท่า การแลกเปลี่ยนที่นั่งทางการศึกษา และการประสานความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความสัมพันธ์ระหว่างกันได้เป็นอย่างดี 

@@@…….นอกจากนั้นยังได้มีการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านความมั่นคงทางทะเลในช่องแคบมะละกา รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ โดยกองทัพเรือไทยได้ส่งนายทหารติดต่อเข้าปฏิบัติงานในศูนย์บริหารข้อมูลข่าวสารทางทะเล (Information Fusion Center:IFC ) เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารอันจะเป็นประโยชน์ด้านความมั่นคงทางทะเลร่วมกันอีกด้วย ภายใต้การนำของ พล.ร.อ.เชิงชาย ทั้งสองประเทศได้ทำการฝึกร่วมกันภายใต้รหัส SING SIAM รวมถึงการฝึกให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (HADR) และการฝึกปราบเรือดำน้ำ การฝึกร่วมกันดังกล่าวได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับผู้ปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และขยายขีดความร่วมมือระหว่างกันอีกด้วย รัฐบาลสาธารณรัฐสิงคโปร์จึงมีความยินดีในการมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ทางการทหารชั้น Pingat Jasa Gemilang (Tentera) หรือ Meritorious Service Medal (Military) เพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ พลเรือเอกเชิงชาย ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง กองทัพเรือไทยและ กองทัพเรือสิงคโปร์

@@@…….ที่กองบัญชาการกองทัพไทย…..พล.อ.กนกพงษ์ จันทร์นวล รองเสนาธิการทหาร เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคจากมูลนิธิมิตรภาพไทย-จีน โดยมี คุณยินยิน ซัง ประธานมูลนิธิมิตรภาพไทย-จีน และ ดร.ภูวิช ปัญญาสิทธิ์ เป็นผู้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และนําไปสร้างประโยชน์ตามเห็นสมควรในภารกิจ ต่าง ๆ ของกองทัพ ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์ ชั้น 2 กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สำหรับมูลนิธิมิตรภาพไทย-จีน ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกัน ตลอดจนให้การสนับสนุนกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการศึกษา ระหว่างชาวไทยและชาวจีน พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือต่าง ๆ กับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้มิตรภาพระหว่างไทย-จีน ยังคงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนตลอดไป

 ………………………………….

 คอลัมน์ : “Military Key”

 โดย… “รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img