วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSมาตรการรปภ.เข้มงวด-เด็ดขาด-รวดเร็ว เป็น“ความจำเป็น”เพื่อปกป้อง“สถาบัน”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

มาตรการรปภ.เข้มงวด-เด็ดขาด-รวดเร็ว เป็น“ความจำเป็น”เพื่อปกป้อง“สถาบัน”

“ผบ.ทหารสูงสุด” ห่วงกำลังพลป่วย “ซึมเศร้า” เปิดคลินิกสุขภาพใจ มุ่งเน้นการเสริมสร้างและฟื้นฟูสุขภาพจิตของกำลังพลให้เข้มแข็ง เกิดความรู้สึกปลอดภัย เป็นมิตร และผ่อนคลาย 

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 17 ก.พ.67 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีกรณีร้อนแรงที่เกี่ยวข้องกับการทบทวน และยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญจากทั้งในประเด็นการป่วนขบวนเสด็จฯ และการพ่นสีวัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง รวมทั้งมีการถกแถลงของฝ่ายการเมืองในรัฐสภาฯ เพื่อผลักดันบทลงโทษโดยตรงไว้ในกฎหมายไปพร้อมด้วย 

FB / วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

@@@……ปัจจุบัน ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานรักษาความปลอดภัย นอกจากจะต้องยึดถือระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552 เป็นหลักแล้ว ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ประกอบด้วย ทั้งนี้ เพื่อที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติงานของพนักงานหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552 คือ ระเบียบปฏิบัติในมาตรการ รปภ.ของภาครัฐ จึงไม่มีบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืน หรือละเมิดการรักษาความปลอดภัยไว้ในระเบียบนี้ และยังไม่มีกฎหมายใดที่ระบุลักษณะการกระทำความผิด และโทษของการละเมิดการรักษาความปลอดภัยไว้โดยตรง ดังนั้น อำนาจในการสืบสวน สอบสวน และศาล รวมถึงการลงโทษ จึงอ้างอิงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา เป็นหลักนั่นเอง 

@@@……นอกจากนั้น พระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับปัจจุบันที่ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และผู้แทนพระองค์ รวมถึงพระราชอาคันตุกะ นั้น ก็มิได้ระบุบทลงโทษโดยตรงไว้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ฝ่ายความมั่นคง มองว่า การใช้ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ลักษณะ 1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร  มาตรา 116 ที่กำหนดไว้ว่า “ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย และเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี” นั้น ถือได้ว่าเหมาะสมแล้วในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มานานแล้ว และมีหลักฐานเชื่อได้ว่า พฤติกรรมเป็นขบวนการโดยเจตนาเข้มข้นของพวกเขาในการด้อยค่า ล้มล้างสถาบัน ด้วยความท้าทาย ก้าวร้าวรุนแรง และไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายของบ้านเมือง คือ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด 

@@@……ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า ความพยายามในการแก้ไขเสนอเพิ่มโทษ พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 ฉบับแก้ไขในรัฐสภาฯ ไม่น่าจะสามารถยกร่างให้สำเร็จโดยเร็วได้ รวมทั้งเนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยทั่วไปเป็นมาตรการเชิงรับ ดังนั้น การกระชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวด เด็ดขาด และรวดเร็วทันที จึงมีความสำคัญยิ่ง ซึ่งรวมถึงการเพิ่มมาตรการเชิงรุกให้มากขึ้นจากนี้ไป เช่น การรวบรวมข่าวสาร การข่าวกรอง และการสร้างความเข้าใจ หรือการแสวงความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปเพื่อให้เป็นหูเป็นตาแก่พนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ถือเป็นความจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดไม่ได้มาพร้อมด้วย ทั้งนี้เพื่อให้มาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามได้ในที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้ความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติได้รับการประกัน 

@@@……การประชุมสภากลาโหม ซึ่งเป็นการประชุมสัญจรนอกสถานที่ เป็นครั้งที่ 2/2567 โดยจัดที่กองบัญชาการกองทัพบก มี นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธาน พร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้พูดเรื่อง การเตรียมรับมือภัยแล้ง ปี 2567 ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ ดำรงความต่อเนื่องการติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ข้อมูลปริมาณน้ำฝน และข้อมูลปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่าง ๆ โดยจัดเตรียมกำลังพล และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมสำหรับการรับมือกับภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานฝ่ายพลเรือนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำสำหรับให้บริการน้ำจืดกับประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง กรณีได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ ตลอดจนจัดเตรียมแหล่งน้ำ สำรองเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในระยะยาวต่อไป

@@@……นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง การเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ เฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางทะเล อาทิ การลักลอบค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม และสิ่งผิดกฎหมาย การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองและการค้ามนุษย์ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย โดยบูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวตลอดจนบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้จ้างวาน ผู้กระทำผิด และผู้ร่วมขบวนการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง อันจะช่วยให้การบริหารจัดการชายแดนเกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

@@@……กองบัญชาการกองทัพไทย…..พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดคลินิกสุขภาพใจ (Mood and Mind Clinic) ณ สำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่แจ้งวัฒนะ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความห่วงใยสุขภาพจิตของกำลังพลผู้ปฏิบัติงาน จึงมอบนโยบายให้ สำนักงานแพทย์ทหาร ไปสำรวจและประเมินแนวโน้มด้านสุขภาพจิตของกำลังพล พร้อมทั้งจัดตั้งคลินิกสุขภาพใจ (Mood and Mind Clinic) ขึ้น เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพจิต และโรคซึมเศร้าให้แก่กำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยคลินิกสุขภาพใจ มีการให้บริการบำบัดรักษาผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต และสร้างความตระหนักรู้ให้กับกำลังพล เพื่อให้มีความสามารถในการรับมือกับการจัดการอารมณ์ และสุขภาพจิตของตนเอง ตลอดจนคนรอบข้าง

@@@……รวมทั้งเพื่อให้กำลังพลมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสังเกตอาการ หรือสัญญาณเตือนด้านต่าง ๆ ของร่างกาย และให้เข้าใจว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัยของชีวิต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยกล้าเปิดใจยอมรับ และเข้ารับการรักษา สำหรับคลินิก สุขภาพใจ (Mood and Mind Clinic) จะมุ่งเน้นการเสริมสร้างและฟื้นฟูสุขภาพจิตของกำลังพลให้เข้มแข็ง เกิดความรู้สึกปลอดภัย เป็นมิตร และผ่อนคลาย พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเต็มกำลัง และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเปี่ยมสุขต่อไป ทั้งนี้ คลินิกได้เปิดให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูแลสุขภาพใจแก่กำลังพลผู้สนใจ ในทุกวันศุกร์ ระหว่างเวลา 0830-1530 น. ณ สำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร พื้นที่แจ้งวัฒนะ หรือ โทร.02-575-6409 ในเวลาราชการ

@@@……กองทัพบก…พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก และโฆษกกองทัพบก ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพบก เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ PM 2.5 โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ที่ล่าสุดพบรายงานค่าจุดความร้อนจากไฟป่าเพิ่มขึ้น หลายจุดในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสลักพระ กองทัพบกได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ได้แก่ กองพลทหารราบที่ 9, มณฑลทหารบกที่ 17 และกองกำลังสุรสีห์ บูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกของศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน (War room) จ.กาญจนบุรี วิเคราะห์ข้อมูลรายวันและกำหนดแผนปฏิบัติการในการแก้ปัญหาร่วมกัน 

@@@……สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ กองทัพบกโดยศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 ยังคงดำรงการปฏิบัติในทุกมิติ ทั้งการจัดกำลังพลร่วมทำแนวกันไฟ, การรณรงค์ลดการเผารวมทั้งการสนับสนุนยานพาหนะทางทหารขนย้ายวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์และทดแทนการเผา ซึ่งตั้งแต่ ม.ค.67 สามารถช่วยเหลือเกษตรกร ทำการขนย้ายรวม 38,745 กิโลกรัม และวันนี้พบปริมาณจุดความร้อนใน 17 จังหวัดภาคเหนือ รวม 460 จุด ค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์สีเหลือง เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากผลของการบูรณาการร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่พร้อมสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ร่วมกับทุกภาคส่วนในการคลี่คลายสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 โดยทันทีที่ได้รับการติดต่อประสานงาน เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่ารวมทั้งสร้างสภาพอากาศที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่นยืนต่อไป 

@@@……กองทัพเรือ….พล.ร.อ. วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ เดินทางไปตรวจสอบการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศให้กับประชาชน ณ บริเวณราชนาวีสโมสร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กองทัพเรือได้ตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จึงได้ร่วมมือกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล ในการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 จำนวน 14 เครื่อง ตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันประกอบด้วย พื้นที่พระนคร และพื้นที่ฝั่งธนบุรี โดยได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้ว 3 เครื่อง ได้แก่ บริเวณนันทอุทยานสโมสร บริเวณราชนาวีสโมสร และบริเวณท่าน้ำท่าเตียน ทั้งนี้ เครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 ที่ติดตั้งในครั้งนี้ มีประสิทธิภาพในการช่วยบำบัดอากาศให้ปราศจากฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ และมีสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้น สำหรับการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 เป็นหนึ่งในนโยบายของ พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งได้มีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยในอนาคตอาจมีการเพิ่มจำนวนการติดตั้งเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนต่อไป กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

 ………………………………….

 คอลัมน์ :  “Military Key”

 โดย ..“รหัสมอร์ส”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img