วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS2 องค์กรอิสระรอลับดาบ “เศรษฐา-พท.” ลุย“กับระเบิด”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

2 องค์กรอิสระรอลับดาบ “เศรษฐา-พท.” ลุย“กับระเบิด”

ออกมาประสานเสียงหนักแน่นเหมือนกันหมด ว่ายังไง ก็ต้องเดินหน้านโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” สำหรับแกนนำรัฐบาลและแกนนำพรรคเพื่อไทย

ไล่ตั้งแต่หัวแถว “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯและรมว.คลัง-“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง-“นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี-“ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-“สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกฯ รวมถึง “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ที่จะเลือกกันปลายเดือนนี้

เหตุที่ “เศรษฐา-เพื่อไทย” ถอยไม่ได้ ก็อย่างที่รู้กัน “ดิจิทัล วอลเล็ต” คือนโยบาย “เรือธง” ของเพื่อไทย ที่หมายมั่นว่า จะซื้อใจประชาชนทั้งประเทศได้ หากมีเงินในกระเป๋า เข้ามาเต็มๆ ล็อตเดียว 10,000 บาท เพื่อไทยเชื่อว่า ของแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องชอบและต้องกดไลค์รัวๆ ให้กับเศรษฐาและเพื่อไทย

โดยเฉพาะหากออกมาช่วงต้นเดือนก.พ.2567 คือ 1 ก.พ. มันก็คือ ก่อนวัน “เทศกาลตรุษจีน” เพราะปีหน้า 2567 วันตรุษจีนคือ 10 ก.พ.2567 ซึ่งปกติ เงินสะพัดอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเงินดิจิทัล วอลเล็ตเข้ามาอีก หนึ่งหมื่นบาทต่อคน และได้กันทั้งประเทศ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจช่วงตรุษจีนยิ่งคึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีก

อีกทั้งนโยบายดังกล่าว มีกรอบเวลาหกเดือน นั่นหมายถึง ถ้าไม่ได้รีบใช้กันจนหมด เก็บไว้ถึงช่วงสงกรานต์ เม.ย.มีวันหยุดยาว ที่คนไทยจำนวนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็สามารถใช้จ่ายเงินหนึ่งหมื่นบาทนี้ในภูมิลำเนาตัวเองได้ เรียกได้ว่า กลับบ้านไปแบบมีเงินอยู่ในกระเป๋าดิจิทัล เอากลับไปซื้อของฝากกลับบ้านได้ แบบแฮปปี้กันทั้งครอบครัว

มันจึงทำให้ “เศรษฐา-เพื่อไทย” มั่นใจว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” คือ “ไม้ตาย-หมัดเด็ด-อาวุธลับ” ที่จะซื้อใจประชาชน แบบกระชากใจกันทั้งประเทศ จนแฟนคลับเพื่อไทย-กองเชียร์เพื่อไทย ที่อาจเคยผิดหวังที่ไปจับมือกับ รวมไทยสร้างชาติ-ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาลด้วยกัน อาจลืมไปหมดแล้ว ก็เหมือนกับตอนนี้ที่รัฐบาลเศรษฐาทำงานมาได้เดือนเศษ กระแสไม่พอใจเพื่อไทยดังกล่าว ก็ค่อยๆ หายไปแล้ว ดังนั้นถ้าถึงช่วงต้นปีหน้า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ออกมา ก็คงทำให้ความรู้สึกของแฟนคลับเพื่อไทยคงดีขึ้นมา นี้คือความเชื่อของแกนนำเพื่อไทย มันจึงไม่แปลกที่เพื่อไทยจะประกาศเดินหน้าเต็มสูบดัน “ดิจิทัล วอลเล็ต”

อย่างไรก็ตาม เสียงเตือน-แรงต้านที่ส่งเสียงออกมา ก็ทำให้ “เพื่อไทย” จะทำท่าทีไม่รับฟังเลยย่อมไม่ได้ โดยเฉพาะเสียงเตือนดังๆ ในเรื่อง ให้ระวัง จะโดนเอาผิดคดีอาญา ซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว อย่างที่ “เมธี ครองแก้ว” อดีตกรรมการป.ป.ช.-อดีตอนุกรรมการไต่สวนคดีจำนำข้าวป.ป.ช. ออกมาระบุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา…

“ต้องรอให้มีการทำโครงการก่อน เพราะตอนนี้้ยังไม่ได้มีการดำเนินการ มีแต่ความคิด ความผิดจึงยังไม่เกิด แต่เมื่อมีการใช้เงินแล้ว ตอนนั้น หากเกิดอะไรขึ้น ก็คือความผิดสำเร็จแล้ว ดูแล้วมีขวากหนามเต็มไปหมด ผมก็ยังมองไม่ออกว่าเขาจะลุยไฟไปทำไม มีสิทธิ์ติดคุกกันเยอะเลยโครงการนี้ จริงๆ ผมไม่ได้พูดเล่นๆ ผมใช้คำว่า “ลุยไฟ” เลย คือหากอยากจะทำ..ก็ทำ แต่รับรองเลยว่า มีผลแน่นอน แล้วก็ไปเสี่ยงดวงเอาแล้วกัน ว่าจะติดคุกหรือไม่อย่างไร นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายที่ไม่ถูกต้อง หากต้องการช่วยคนยากจนจริง มีวิธีการอื่นอีกมากมาย ไม่ใช่มาปูพรม เหวี่ยงแหแบบนี้”

เสียงเตือนดังๆ ดังกล่าว เชื่อได้ว่า คนในเพื่อไทย ย่อมมีอาการหวั่นไหวแน่นอน

แม้จะมั่นใจว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” มันแตกต่างจาก “จำนำข้าว” เพราะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีประชาชนโดยตรงในลักษณะ E-Wallet ที่ก็เหมือนกับ โครงการก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เช่น “คนละครึ่ง” เพียงแต่ระบบที่ใช้แตกต่างกัน อีกทั้งไม่ได้มีการทำการค้า ไม่มีนายหน้าคนกลาง ไม่มีการทำสัญญาซื้อขาย อะไรแบบจำนำข้าว จึงยากจะเอาผิดข้อหาทุจริตได้ เว้นแต่จะใช้ประเด็นอื่นมาสกัดหรือเอาผิด เช่นเรื่องเกี่ยวกับวินัยการคลังฯ เพราะหากทำแล้วมีช่องโหว่เกิดขึ้น เช่นมีการทุจริตหรือเล่นตุกติกกันระหว่างคนได้สิทธิ์กับร้านค้า ก็เป็นเรื่องของคนที่ทำผิดเองที่ต้องโดนดำเนินคดี ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ก็เหมือนกับคนละครึ่ง-เที่ยวเดียวกัน ก็มีการทุจริตเกิดขึ้นฯให้เห็นหลายต่อหลายราย แต่ตำรวจ-กระทรวงการคลัง ก็ไปตรวจสอบแล้วเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ไปเอาผิดกับรัฐบาลประยุทธ์ มันจึงทำให้เพื่อไทย มั่นใจมากว่า รอบนี้ยาก จะมาเอาผิดเช็คบิลกัน

แม้จะพบว่า “องค์กรอิสระ” อย่างน้อย 2 แห่ง จ้องรอเข้าตรวจสอบแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น “สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน” ที่ “สมศักดิ์  สุวรรณสุจิต” ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน บอกว่า ตอนนี้มีคนมายื่นร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว คือกลุ่มของ “วิรังรอง ทัพพะรังสี” ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ แต่ยังอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติ เมื่อมีความชัดเจนแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะนำมาพิจารณาให้ความเห็น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็น ข้อมูลแล้วนำมาเทียบกับหลักกฎหมาย หากเข้าเงื่อนไขที่สามารถส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง ก็จะดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้ต้องขอดูข้อเท็จจริงความชัดเจนก่อน เพื่อพิจารณาว่าขัดหรือไม่ขัดต่อกฎหมาย

อีกองค์กรก็คือ “สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) ที่ตอนนี้ มีการตั้ง คณะกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อเตรียมศึกษาการดำเนินการนโยบายดิจิทัล วอลเล็ตของรัฐบาลนำร่องไปก่อนแล้วเช่นกัน

ข่าวว่าสำนักงานป.ป.ช.จะเชิญนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ด้านเศรษฐศาสตร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อศึกษารายละเอียดโครงการดังกล่าวตั้งแต่เริ่มดำเนินการไปจนถึงสิ้นสุดโครงการ

นอกจากนี้ก็มีข่าวว่า หลังจากนี้จะเริ่มมีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวไปทำหนังสือยื่นที่ “สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” (สตง.) ที่เป็นองค์กรอิสระเช่นกัน ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เช่นกัน ผ่าน “คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน” (คตง.) ที่เป็นบอร์ดใหญ่ของ สตง. โดยใช้ช่องทางของ รัฐธรรมมนูญมาตรา 245 ที่บัญญัติว่า…

“เพื่อประโยชน์ในการระงับหรือยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเสนอผลการตรวจสอบการกระทําที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างร้ายแรง ต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อพิจารณา

ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเห็นพ้องด้วยกับผลการตรวจสอบดังกล่าว ให้ปรึกษาหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้งและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หากที่ประชุมร่วมเห็นพ้องกับผลการตรวจสอบนั้น ให้ร่วมกันมีหนังสือแจ้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบโดยไม่ชักช้า และให้เปิดเผยผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อประชาชนเพื่อทราบด้วย”

เท่ากับตอนนี้ 2 องค์กรอิสระ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน-สำนักงานป.ป.ช.” ขยับนำร่องในการจะเข้าจับตาตรวจสอบ ดิจิทัล วอลเล็ต ส่วน “สตง.-คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน” ก็อาจเป็นรายถัดไป ถ้ามีคนชงเรื่องไปให้ดำเนินการ

แม้ “เศรษฐา-เพื่อไทย” จะมั่นอกมั่นใจ “ดิจิทัล วอลเล็ต” ปังแน่ ไม่มีช่องให้เอาผิดได้ แต่หลายคนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จะเป็นเรื่องทำให้รัฐบาลเศรษฐา พังก่อนเวลาอันสมควรหรือไม่ เพราะเหมือนมี “กับระเบิด” รออยู่ข้างหน้า ถ้าเหยียบพลาดก็ได้เสียวกันหมดทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย

…………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง  

โดย….“พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img