วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS“เศรษฐา”ยังเหลืออีก“สองศึก”หนัก ๆ ต้อง“โชว์ฝีมือ”-ลุ้น“ทักษิณ”ต่อวีซ่าให้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เศรษฐา”ยังเหลืออีก“สองศึก”หนัก ๆ ต้อง“โชว์ฝีมือ”-ลุ้น“ทักษิณ”ต่อวีซ่าให้

ผ่านไปได้แบบไม่ยากเย็นอะไร สำหรับ “ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567” ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ วาระสามไปเรียบร้อย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยมติเห็นชอบ 298 เสียง-ไม่เห็นชอบ 166 เสียง

แม้ก่อนหน้าการลงมติ จะมีการปล่อยข่าว อาจจะมีการจับมือกันของ “พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค” กับ “ฝ่ายค้าน” คว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯในวาระสาม เพื่อเป็นการบีบให้ “เปลี่ยนตัวนายกฯ” เอา “เศรษฐา” ออก-แล้วเอา “คนอื่น” ขึ้นแทน

ซึ่งเป็น กระแสข่าวที่ออกมาแบบไม่มีน้ำหนัก และผิดจังหวะการเมืองอย่างมาก เพราะเอาแค่ที่ว่า หากมีการคว่ำร่างพ.ร.บ.งบฯกลางสภาฯ โดยหลัก เมื่อร่างพ.ร.บ.งบฯเป็นร่างกฎหมายสำคัญของฝ่ายบริหาร ที่อาจเรียกได้ว่า “สำคัญที่สุด” เลยก็ว่าได้ หากไม่ผ่านสภาฯ นั่นหมายถึง “ฝ่ายบริหาร” กับ “ฝ่ายนิติบัญญัติ” ทำงานด้วยกันไม่ได้ ตามหลักก็คือ…

“นายกฯต้องยุบสภา”

ไม่ใช่ลาออก…หรือ…เปลี่ยนตัวนายกฯ แม้ต่อให้เป็นการพิจารณาวาระสาม ไม่ใช่วาระรับหลักการก็ตาม

ซึ่งเรื่องแบบนี้ สส.ในสภาฯทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก็รู้ดี ดังนั้นก็ไม่มีใครอยากเสี่ยง ที่จะไปหักหลัง “เพื่อไทย-เศรษฐา” เพราะหากทำแบบนั้น “เพื่อไทย-เศรษฐา” ก็คงไม่ยอม “เพื่อไทย” คงต้องให้ “เศรษฐา” แก้เกม ด้วยการยุบสภาฯ เพื่อแลกกันไปเลย

เพราะถ้า “เพื่อไทย” จะเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นคนอื่น เช่น “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ก็ต้องเปลี่ยนเพราะเป็น “การเดินหมากของเพื่อไทย” เอง ที่ต้องการเปลี่ยนม้ากลางศึก ไม่ใช่มาเปลี่ยนตัวนายกฯเพราะโดนพรรคร่วมรัฐบาลหักหลัง     

อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเป็นนายกฯของเศรษฐา ว่าสุดท้ายจะไปตลอดรอดฝั่งครบสี่ปี หรือจะต้องมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เอา “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นมาแทนช่วงก่อนเลือกตั้งใหญ่…หรือไม่? ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป

เพราะถึงตอนนี้ ว่ากันตามสภาพ หลายคนก็มองไปในทางเดียวกันว่า มีโอกาสไม่น้อยที่แม้พรรคเพื่อไทย อาจอยู่ใกล้ครบเทอมสี่ปี แต่ “เศรษฐา” อาจอยู่ไม่ถึงสี่ปี ต่อให้ไม่สะดุดขาตัวเองจากปมต่างๆ เช่น โดนมีดดาบขององค์กรอิสระต่างๆ จนทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งก่อนเวลาอันควร

แต่อาจจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ด้วยเหตุ “เจ้าของบ้านพรรคเพื่อไทย” คือ “ทักษิณ ชินวัตร” อาจต้องการให้ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเป็นนายกฯ ในรัฐบาลเพื่อไทยเวลานี้ เพื่อให้เป็นนายกฯ คนที่สี่ของตระกูล “ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์” ตามหลัง “ทักษิณ ชินวัตร-สมชาย วงศ์สวัสดิ์-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก่อนเลือกตั้ง เพื่อความชัวร์ เพราะหากหวังหลังเลือกตั้ง ก็อาจไม่ได้เป็น เพราะมีโอกาสไม่น้อยที่พรรคก้าวไกลจะชนะเลือกตั้ง มีส.ส.มากกว่าเพื่อไทย

เพียงแต่ระหว่างนี้ “เศรษฐา” ก็ต้องรักษาเก้าอี้ของตัวเองไว้ให้เหนียวแน่น ประคองไม่ให้ตัวเองบอบช้ำทางการเมือง ก่อนเวลาอันควร

ซึ่งบททดสอบสำคัญทางการเมืองของ “เศรษฐา” ที่รออยู่ในช่วงสองสัปดาห์ต่อจากนี้ ก่อนปิดสมัยประชุมรัฐสภา 10 เม.ย.67 จะมีด้วยกันสองศึกใหญ่คือ…

หนึ่ง การประชุมวุฒิสภา วันจันทร์ที่ 25 มี.ค. ที่เป็นการประชุมในญัตติขออภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153

สอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันที่ 3-4 เม.ย.

ศึกสองแมทช์นี้ ดูผิวเผิน อาจคิดว่าไม่มีอะไร เพราะอย่างการอภิปรายของฝ่ายค้าน ก็ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นแค่การอภิปรายแบบไม่ลงมติ

แต่ของแบบนี้ ต้องดูที่หน้างานทางการเมืองในห้องประชุมสภาฯด้วย

เพราะด้วยมาตรฐาน-ลีลาการอภิปรายของพรรคก้าวไกล ที่เป็นแกนนำฝ่ายค้าน มักทำการบ้านมาพอสมควร ก็ขนาดการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบฯ2567 วาระสองที่จบไป การอภิปรายงบบางกระทรวงของสส.ก้าวไกล เช่น งบกลาง-งบกระทรวงมหาดไทย-งบกระทรวงกลาโหม-งบกอ.รมน. ก็เข้มข้นพอสมควร

ผนวกกับที่ผ่านมา “ก้าวไกล” ถูกปรามาสมาตลอดว่า “ไม่เอาจริง” กับการตรวจสอบรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะการไม่แตะ “ทักษิณ ชินวัตร”

ดังนั้น เวทีอภิปรายรอบนี้ “ก้าวไกล” ต้องโชว์ของ “ให้สมราคา” ขืนหากอภิปรายแบบ “ขอไปที” เสียยี่ห้อ “ก้าวไกล” แน่ ทำให้คาดว่า “เศรษฐา” คงโดน “ก้าวไกล” อภิปรายหนักพอสมควร

เช่นเดียวกับ เวทีอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 25 มี.ค. แม้จะไม่ได้มีผลทางการเมืองใดๆ แต่หากสว.ทำการบ้านมาดี ซัดได้ตรงเป้า อภิปรายเชื่อมโยง “เศรษฐา” กับปมร้อนต่างๆ ได้เช่น กรณีเป็นนายกฯที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบ “รพ.ตำรวจ” แต่สิ่งที่เกิดกับ “ทักษิณ” ที่ได้นอนพักที่รพ.ตำรวจ 6 เดือน จนไม่ต้องเข้าคุก หากสว.อภิปรายเข้าเป้า รวมถึงอีกหลายเรื่อง ก็อาจทำเอา “เศรษฐา” จุกกลางห้องประชุมฯได้ ถ้าชี้แจงไม่เคลียร์

มองได้ว่า หาก “เศรษฐา” ผ่านสองศึกใหญ่นี้ไปได้ ในสภาพที่อาจมีบอบช้ำ-คางเหลือง-ร่างกายพกช้ำบ้าง เพราะโดนทั้ง “สว.-ฝ่ายค้าน” ไล่ทุบติดๆ กัน 2 สัปดาห์ แต่ถ้ายังพอประคองตัวไปได้ ไม่บุบสลายมากนัก มันก็จะทำให้ “เศรษฐา” แกร่งทางการเมืองมากยิ่งขึ้น

ยิ่งหาก “เศรษฐา” โชว์ให้ “ทักษิณ” เห็นว่า สามารถยืนซดกับ “สว.-ฝ่ายค้าน” ในเรื่องเคส “ทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว” ได้แบบตอบโต้ได้ทุกกระบวนท่า แบบนี้มันก็ยิ่งซื้อใจ “ทักษิณ” มากขึ้นไปอีก

รับรองได้ ถ้า “เศรษฐา” ทำแต้ม จากสองแมทช์นี้จนเข้าตา “ทักษิณ” งานนี้ “นายใหญ่” ยังไงก็ต้อง “ต่อวีซ่าเก้าอี้นายกฯ” ให้ “เศรษฐา” ต่อไปให้นานที่สุดแน่นอน

แต่ถ้า “สองศึก” นี้ “เศรษฐา” รับมือฝ่ายค้าน-สว.กลางสภาฯไม่ไหว ชี้แจงไม่ขึ้นในหลายๆ เรื่อง อีกทั้งถ้า “เล่นบทตีชิ่ง” ไม่ช่วยแจงแทน “ทักษิณ” ปล่อยให้ “สว.-ฝ่ายค้าน” อภิปรายด่าทักษิณไปเรื่อยๆ ไม่ตอบโต้ชี้แจง ถ้าหากออกมาแบบนี้ แบ็คอัพทางการเมือง “เศรษฐา” ที่อยู่เบื้องหลังมาตลอด ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นใคร ก็อาจช่วยประคองไม่ไหว อาจถึงขั้นต้อง “ตัวใครตัวมัน”

ทำให้จากที่ “เศรษฐา” อาจอยู่ยาว ก็อาจอยู่สั้นกว่าที่คิด ถ้า “ทักษิณ” เกิดไม่แฮปปี้ขึ้นมา!

……………………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img