วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTS‘บิ๊กโจ๊ก’ต้องสู้กี่ด่านถ้ายังฝันถึง‘ผบ.ตร.’ จับตาเปลี่ยนไลน์สู่การเมืองลุ้นนั่ง‘รมต.’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘บิ๊กโจ๊ก’ต้องสู้กี่ด่านถ้ายังฝันถึง‘ผบ.ตร.’ จับตาเปลี่ยนไลน์สู่การเมืองลุ้นนั่ง‘รมต.’

เส้นทางชะตาชีวิตของ “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผบ.ตร. ที่อยู่ระหว่างการถูกให้ “ออกจากราชการ” พร้อมกับที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการวินัยอย่างร้ายแรง “บิ๊กโจ๊กกับลูกน้อง” รวม 5 นาย ที่ถูกให้ออกจากราชการพร้อมกัน เช่น พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ

จากผลพวงถูกดำเนินคดี ข้อหาฟอกเงินในคดีเว็บพนันออนไลน์ ดูแล้วอาจไม่ใช่แค่การที่ “บิ๊กโจ๊ก” ที่เดิมคือ รองผบ.ตร.อาวุโสอันดับหนึ่ง จะต้อง “วืดจากเก้าอี้ผบ.ตร.” ในการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ที่จะมาแทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ในการแต่งตั้งช่วงกันยายนนี้เท่านั้น

แต่อาจถึงขั้น “วืดตลอดไป” จนถึงปี 2574 ที่เป็นปีซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” จะเกษียณอายุราชการ…ก็เป็นไปได้!

เพราะตราบใด หาก “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ตกเป็นผู้ต้องหาหรือตกเป็นจำเลยในชั้นศาล ที่ก็ทำให้ ยังไม่สามารถกลับเข้ามาในไลน์ “รองผบ.ตร.” ได้ ก็จะเป็นเหตุให้ถูกออกจากราชการไว้ก่อนไปเรื่อยๆ ที่มันก็ทำให้ยากที่จะมีการผลักดันให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เห็นชอบให้เป็น “ผบ.ตร.”

เว้นเสียแต่จะเกิดบางกรณี เช่น คดีเว็บพนันออนไลน์ ตำรวจสั่งฟ้อง “บิ๊กโจ๊กกับพวก” แล้วสำนวนส่งไปที่ “สำนักงานอัยการสูงสุด” ต่อมาเกิดปรากฏว่า พนักงานอัยการมีความเห็น “สั่งไม่ฟ้อง” ขึ้นมา ถ้าแบบนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ก็อาจได้เฮเล็กๆ แต่ตามขั้นตอน อัยการก็ต้องส่งสำนวนกลับไปที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหากว่า “บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ที่จะเกษียณในปี 2569 เกิดได้เป็นผบ.ตร.ในการแต่งตั้งผบ.ตร.ปีนี้ ยังไง “บิ๊กต่าย” ก็ต้องมีความเห็นยืนยันให้สั่งฟ้อง “บิ๊กโจ๊ก”

ทำให้แบบนี้ก็ต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นคนชี้ขาด ซึ่งถ้าอัยการสูงสุดในช่วงที่คดีไปถึงตัวเอง เกิดเอาด้วยกับพนักงานอัยการที่ทำคดีนี้แต่แรก โดยมีความเห็นยืนยัน “สั่งไม่ฟ้อง” บิ๊กโจ๊กกับพวกในคดีฟอกเงิน แบบนี้คดีก็จบเลย เพราะความเห็นอัยการสูงสุดถือเป็นที่สิ้นสุด

เท่ากับ “คดีเว็บพนันออนไลน์” ที่ “บิ๊กโจ๊ก” ตกเป็นผู้ต้องหา “คดีก็จบ-ไปไม่ถึงศาล” เมื่อคดีไปไม่ถึงศาลเพราะอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ก็เท่ากับ “บิ๊กโจ๊ก” ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ในคดี แบบนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องให้ “บิ๊กโจ๊ก” กลับเข้ารับราชการต่อ คืนเก้าอี้ “รองผบ.ตร.” ให้ แล้ว “บิ๊กโจ๊ก” ก็ไปรอลุ้นชิงผบ.ตร.ในปีที่กลับเข้ามาต่อไป นี้คือขั้นตอนที่เร็วที่สุด หาก “บิ๊กโจ๊ก” จะกลับมาเข้าไลน์ชิง “ผบ.ตร.”

แต่หากตำรวจส่งสำนวนไปให้อัยการ แล้วอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตั้งแต่แรกทันที แบบนี้ก็ยาวเลย “บิ๊กโจ๊ก” ก็ตกเป็นจำเลยในชั้นศาล ต้องสู้คดีกันต่อไป ทั้ง “ศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์-ศาลฎีกา” ที่กินเวลาหลายปี จนกว่าคดีจะสิ้นสุด เรื่องจะได้เป็น “ผบ.ตร.” หรือไม่ อาจไม่ใช่เรื่องหลักที่ “บิ๊กโจ๊ก” จะมาลุ้นแล้ว

เพราะเรื่องสำคัญกว่า คือลุ้นให้ชนะคดี ศาลยกฟ้อง เพราะหากศาลตัดสินว่ามีความผิดตามฟ้อง ทำผิดกฎหมายฟอกเงิน ก็เสี่ยงคุก แถมจะโดนยึดทรัพย์ด้วย!

แต่หากคดีไปถึงศาล แล้วศาลตัดสินยกฟ้อง “บิ๊กโจ๊ก” ตั้งแต่ศาลชั้นต้น โดยตัดสินคดีเร็ว และยิ่งหากเนื้อหาคำพิพากษาทางคดี ดูแล้วพลิกคดียาก อัยการก็อาจไม่อุทธรณ์ ถ้าไม่อุทธรณ์ คดีก็จบเลย แต่เชื่อว่า เนื่องจากคดีนี้ สังคมจับตามอง หากอัยการไม่อุทธรณ์ ก็อาจตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ว่ามีอะไรหรือไม่ อัยการก็อาจอุทธรณ์ไปก่อนตามเนื้อผ้า

และถ้าไปถึงขั้นอุทธรณ์ หาก “บิ๊กโจ๊ก” ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์อีก แบบนี้ก็น่าจะจบแล้ว เพราะถ้าอัยการแพ้คดีทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีฎีกากันแล้ว

ก็ทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” คือผู้บริสุทธิ์ทางคดี ก็สามารถขอทำเรื่องกลับเข้ามาได้ทันที เพื่อกลับมาเป็น “รองผบ.ตร.” อีกครั้ง ซึ่งถ้าคดีจบในชั้นศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์เร็ว ก่อนปี 2574 “บิ๊กโจ๊ก” ก็ยังมีโอกาส จะได้ลุ้นชิง “ผบ.ตร.” ได้อยู่ ให้สมกับฉายา “โจ๊ก-แมวเก้าชีวิต”

ทว่าในความเป็นจริง มันก็ยากแล้ว เพราะยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บิ๊กตำรวจคนอื่นๆ ที่จะขึ้นมาแทน ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ และยิ่งหากคนที่ขึ้นมาเป็น “ผบ.ตร.” เกษียณหลังปี 2574 เช่น เกษียณปี 2575, 2576, 2577 มันก็ปิดทางไม่ให้ “บิ๊กโจ๊ก” ได้กลับมาลุ้นชิง “ผบ.ตร.” ไปโดยปริยาย

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา

เช่น หากช่วงที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” จะกลับเข้ามาอีกครั้ง เกิดตอนนั้น “ผบ.ตร.” ชื่อ “พล.ต.ท.สำราญ นวลมา” (ยศปัจจุบัน) ที่ตอนนี้คือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเกษียณปี 2576 หลัง “บิ๊กโจ๊ก” 2 ปี มันก็ทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” ที่เกษียณปี 2574 ไม่สามารถกลับมาเป็น “ผบ.ตร.” ได้อยู่ดี

จึงไม่แปลกที่เริ่มจะมีการมองกันว่า สุดท้าย “บิ๊กโจ๊ก” ก็อาจต้องเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ด้วยการเข้าสู่ถนนการเมือง เปลี่ยนจากไลน์ลุ้นเป็น “ผบ.ตร.” ไปลุ้นเป็น “รัฐมนตรี” ไปเลย อย่างที่เริ่มมีกระแสข่าว

………………………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img