วันศุกร์, พฤษภาคม 24, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSส่องแผน“กลุ่มผู้สมัครสว.สีส้ม” หวังฝ่าด่านเข้าคุม“สภาสูง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ส่องแผน“กลุ่มผู้สมัครสว.สีส้ม” หวังฝ่าด่านเข้าคุม“สภาสูง”

นับถอยหลังเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับ สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน ที่จะสิ้นสุดการทำหน้าที่ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ แต่จะต้องอยู่ “รักษาการ” ไปจนกว่า จะมี “สว.ชุดใหม่” เข้าปฏิบัติหน้าที่

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ที่แว่วออกมาเรื่อยๆ ทำนองว่า ที่ก่อนหน้านี้ว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งไทม์ไลน์การได้มาซึ่งสว.ชุดใหม่ ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อของบประมาณในการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง สว. ชุดใหม่ 200 คน ซึ่งที่ประชุมครม.เมื่อ 23 เม.ย. อนุมัติงบไป 227 ล้านบาท โดยทางสำนักงาน กกต.แจ้งรายละเอียดต่อ ครม.ว่า กกต.จะสามารถประกาศผลการเลือกสว.ได้ภายในวันที่ 2 ก.ค.

ไทม์ไลน์ดังกล่าว จับกระแสได้ว่า ถึงตอนนี้แวดวงการเมือง รวมถึงสว.ชุดปัจจุบัน ก็ยังไม่มั่นใจว่า กกต.จะรับรองผลการคัดเลือกสว.ได้ทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ทันวันที่ 2 ก.ค.จริงหรือไม่

เพราะประเมินกันว่า หลังการคัดเลือก สว.ในระดับประเทศ 26 มิ.ย.เสร็จสิ้นลง ที่จะรู้ผลรายชื่อ “ว่าที่ สว.” 200 คน ในคืนวันดังกล่าวทันที

สุดท้ายแล้ว อาจจะมีการร้องเรียนต่อ กกต.ตามมามากมาย จากกลุ่มผู้สมัครที่ชื่อหลุดในรอบสุดท้ายในการเลือกระดับประเทศ ไม่แน่ “บางราย” อาจใช้วิธี ไปร้องต่อศาลปกครองก็ได้

จนเริ่มมีการมองกันว่า ไม่แน่ กระบวนการประกาศรับรองผลของ กกต.อาจดีเลย์ ออกไป

ถึงขั้น มีข่าวลือทำนอง “สว.ชุดปัจจุบัน” เริ่มคุยกันว่า ยังไงเสีย ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบเก็บของออกจากห้องทำงานที่ตึกวุฒิสภา เพราะอาจต้องอยู่รักษาการไปอีกสักระยะก็ได้

เนื่องจากตามขั้นตอนตามกฎหมายแล้ว หลังมีการเลือก สว.ระดับประเทศเสร็จสิ้นลง ในวันที่ 26 มิ.ย. ผู้อำนวยการเลือกสว.ระดับประเทศ จะต้องส่งรายงานการเลือก สว. ต่อกกต. จากนั้นให้ กกต.รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน และเมื่อพ้น 5 วันไปแล้ว ถ้า กกต.เห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลในราชกิจจานุเบกษา

ถ้าดูตามขั้นตอน จึงหมายความว่า หาก กกต.เห็นว่า การเลือก สว.ยังมีปัญหา มีการร้องเรียนจำนวนมาก สังคมยังมองว่ากระบวนการเลือก สว.ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม ทาง กกต.ก็อาจยังไม่ประกาศผลในวันที่ 2 ก.ค.ก็ได้ กฎหมายก็เปิดช่องไว้อยู่ ตรงนี้ก็ต้องรอติดตามกันให้ดี

ขณะที่ความเคลื่อนไหว ในภาพใหญ่สำหรับการเลือก สว.รอบนี้ กลุ่มที่ถูกจับตามองมากสุด คงหนีไม่พ้น….กลุ่มผู้สมัคร สว.ที่อยู่ในเครือข่าย senate 67

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ที่มีเครือข่ายภาคประชาสังคมหลายกลุ่มเข้ามาเป็นแนวร่วม แต่ที่สำคัญก็คือ ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับ “คณะก้าวหน้า” ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ซึ่งผูกพันทางการเมืองกับ “พรรคก้าวไกล” แบบแนบสนิท หลัง “ธนาธร” ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ให้คนไปสมัคร สว.มาร่วม 3 เดือนแล้ว จนทำให้กลุ่มผู้สมัคร สว. ที่มาทางเครือข่ายข้างต้น เริ่มถูกเรียกขานในทางการเมืองว่า “กลุ่มผู้สมัคร สว.สีส้ม

อย่างไรก็ตาม พลันที่ สำนักงาน กกต. ออกประกาศเตือนเรื่องการรณรงค์ให้ไปสมัคร สว.อาจสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายได้ ก็ทำให้ กลุ่มรณรงค์ตามแคมเปญ  senate 67 ตั้งหลักไม่ถูกเหมือนกัน จนเว็บไซด์ของเครือข่ายคือ senate67.com ต้องนำข้อมูลผู้จะลงสมัคร สว.ออกจากระบบออนไลน์ และยุติการเคลื่อนไหวในเชิงรณรงค์ทันที

อีกทั้งส่ง “พนัส ทัศนียานนท์” อดีตสมาชิกสภาร่างรธน.ปี 2540 และอดีตสว.ปี 2543 ไปยื่นคำร้องต่อ “ศาลปกครองกลาง” เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ กกต.เพิกถอนระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ซึ่งก็พบว่าจนถึงช่วงวันที่ 5 พ.ค. ก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมาจากศาลปกครองกลางแต่อย่างใด

แต่มันก็ทำให้เห็นได้ว่า กลุ่มผู้จะลงสมัครสว.ดังกล่าว คือกลุ่มที่มีการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย-กลุ่มก้อนการเมือง ที่เปิดตัวชัดเจนในการลงสมัครสว.โดยพบว่า ไม่มีกลุ่มอื่นๆ เปิดตัวและเคลื่อนไหวเหมือนกลุ่มเครือข่าย senate 67 แต่อย่างใด

มองดูแล้ว หากผู้สมัครในเครือข่าย senate 67 สามารถฝ่าด่าน ทั้งการเลือกระดับอำเภอ-จังหวัด และระดับประเทศ จนเข้าไปเป็นสว.ได้จำนวนหนึ่ง ก็จะทำให้กลายเป็นกลุ่มสว.ที่อาจจะมีบทบาทสำคัญในสภาสูงเลยก็ได้

โดยเรื่องนี้ “พนัส ทัศนียานนท์” อดีต สสร.ปี 2540 และอดีตสว.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงปี 2543 บอกกับทีมข่าว thekey.news ว่า เท่าที่ประเมิน หากมีผู้สมัคร สว.ทั่วประเทศ เกินหนึ่งแสนคนขึ้นไป ก็คิดว่า น่าจะพอมีความหวังสำหรับฝ่ายนี้ ซึ่งหนึ่งแสนคนที่จะมาสมัคร แม้จะมีความหวัง แต่ก็คงไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะถึงเวลาก็อาจถูกเขาบล็อกได้อยู่เป็นบางส่วน มันก็อาจก้ำกึ่งด้วยซ้ำไป

“ถ้ายอดผู้สมัครขึ้นไปถึงหนึ่งแสนคน ฝ่ายประชาธิปไตยอาจจะได้อย่างเก่ง ก็อาจครึ่งหนึ่ง (100 คน) แต่อาจไม่ถึงด้วยซ้ำไป แต่ถ้าขึ้นไปถึงสองแสนคน สามแสนคน ก็เรียกว่า ครั้งนี้มีสิทธิลุ้นสำหรับฝ่ายประชาธิปไตย” พนัส ระบุชัด

และนี่ก็คือ เป้าหมายของกลุ่มผู้สมัครสว.กลุ่มเครือข่าย senate 67 จึงไม่แปลกที่กลุ่มดังกล่าว ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ให้มีคนไปสมัครสว.ทั่วประเทศกันให้มากๆ เพราะกลุ่มนี้เชื่อว่า ถ้ามีคนออกมาสมัครมากเท่าไหร่ อย่างเช่นที่ “พนัส” บอกคือ ควรเกินสองแสนคนขึ้นไป ก็จะทำให้กลุ่มของฝ่ายตัวเองมีสิทธิ์จะเข้าไปเป็นสว.ได้มากขึ้นเท่านั้น

เพราะฉะนั้น ก็อย่าแปลกใจ ทำไมกลุ่มดังกล่าว รวมถึง “คณะก้าวหน้า” ของ “ธนาธร” ถึงออกตัว-ออกโรง เปิดหน้าให้คนไปลงสมัครสว.กันเยอะๆ เพราะกลุ่มนี้เชื่อว่า ยิ่งมีคนไปสมัครมากเท่าไหร่ “ฝ่ายตัวเอง” ก็จะยิ่งมีสว.ในสภาสูงมากขึ้นเท่านั้น

จึงไม่แปลก ที่เริ่มมีการพูดกันว่า หรือไม่แน่ ผลการเลือกสว.รอบนี้ สุดท้าย “สว.สีส้ม” จะยึดสภาสูง!!!!

…………………………………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img