#ยุบพรรคก้าวไกล ปม “ล้มล้างการปกครอง” โดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออก “มติเอกฉันท์” ส่งเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยต่อไป ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92, 93 หลังก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมี “มติเอกฉันท์” วินิจฉัยพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์ใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง โดยเสนอแก้ไข และยกเลิกป.อาญา มาตรา 112
ดูเค้าลางจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และคำชี้ขาดของ กกต. ต่างมี “มติเอกฉันท์” เท่ากับว่า “พรรคก้าวไกล” ปิดประตูพลิกตำราต่อสู้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
ฝ่ายก้าวหน้าไม่เคยกลัวต่อการถูกเผาบ้านไล่ที่อยู่แล้ว จากพรรคอนาคตใหม่ สู่ชายคาพรรคก้าวไกล สส.เติบโตพุ่งพรวด อำนาจประชาชนท้าทายอำนาจรัฐอยู่ตลอดเวลา
บ้านหลังใหม่ชื่ออะไรโปรดติดตาม มีโอกาสสูงเป็นพรรคที่อยู่ในระบบ เซ้งมาเพื่อเปลี่ยนหัวใหม่ เดินหน้าการเมืองต่อไป แม้เป็นการเปลี่ยนชื่อ บ้านเลขที่ใหม่ แต่สส.หน้าใหม่ ยังเป็นลูกเจี๊ยบ ขนยังไม่ขึ้น บินยังไม่แข็ง ส่วนใหญ่ทำตัวไม่ถูก
“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรค “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษา สองแม่ทัพใหญ่ผ่านศึกเหนือใต้มาโชกโชน รีบปลุกปลอบใจลูกพรรค เรียกประชุมสส.ที่รัฐสภาทันทีที่ กกต.มี “มติมรณะ”
“ไม่ต้องกังวล ทำงานให้หนักขึ้น” แม่ทัพใหญ่ปลุกใจลูกพรรคให้ฮึกเหิม อย่างน้อย สส. 148 คน ก็อุ่นใจขึ้น!!
แน่นอนมีพรรคการเมืองมือเติบขุดบ่อล่อปลา รอศาลรัฐธรรมนูญชี้เปรี้ยงเป็นลบ ประเมินบวกลบมี สส.ไม่เกิน 20 คน ที่กล้าย้ายรัง
และที่ต้องลุ้นอีก 3 กระทอก คือ คณะกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม ที่มี “พิธา” เป็นหัวหน้าพรรค ในช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ต้องรับผิดชอบเต็มในกรณีถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองชัวร์
ที่ต้องตามลุ้นกระทอกสอง คือ คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มี “ชัยธวัช” เป็นหัวหน้าพรรค ต้องโดนด้วยหรือไม่ แม้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งสองชุด มีชื่อทับซ้อนกันบ้าง แต่ยังต้องหวาดเสียวสันหลังว่าผลสุดท้ายออกมาหน้าไหน
อีกกระทอก กรณี 44 สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอแก้ไขป.อาญา มาตรา 112 จ่อคอหอยในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดเชิงจริยธรรม
สมมติข้อเท็จจริงผิดตามที่ถูกกล่าวหา ต้องโดนประหารโทษทางจริยธรรมยกโขยงทั้ง 44 สส. แต่ปรากฎว่ามีการปล่อยกระแสหยั่งเชิง พ่วงข้อหาเหตุการณ์ต่อเนื่อง อ่อยเหยื่อต่อรองเป็นรายบุคคล “ทำตามข้อเสนอรอด-บังอาจไม่ทำตามเชือด”
ด่านมรณะเป็นบทพิสูจน์ “นิติสงคราม” บนหลักนิติรัฐ และนิติธรรม ในเมื่อทั้งสองขั้วการเมืองพูดถึง “นิติสงคราม” ต้องต่อสู้บนสมรภูมิด้วยข้อเท็จจริง เจตนารมณ์ และองค์ประกอบของกฎหมาย
อย่าประหารชีวิตนักการเมืองหัวก้าวหน้า โดยถูกสังคมส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า “ทำลายพรรคการเมืองก้าวหน้าจริง” !?
มันเป็นอันตรายเกินกว่าประเทศไทยจะรับมือวิกฤติลูกใหญ่ๆ ได้อีกต่อไป
…………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
