สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคดีใหญ่ที่ “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” สั่งรวบ “นวพร ภาเกียรติสกุล” สาวใหญ่ชาวจีนที่ได้สัญชาติไทย ใช้เอกสารแจ้งเท็จ-ออกบัตรชมพู พบประวัติ เคยหลอกคนจีนเสียหายกว่า 700 ล้านบาท และเกี่ยวพันค้ามนุษย์มากว่า10 ปี เชื่อมโยง “ทุนจีนสีเทา” และน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ขบวนการอุ้มบุญ”
เรื่องราวนี้กลายเป็น “ไวรัล” ขึ้นมา เนื่องจากมีคลิปขณะทำการสอบสวน “ผู้ต้องหารายนี้” ได้ลงไปนอนชักดิ้นชักงอ ทุบหัวตัวเอง เพื่อยืนยันว่า เธอเองไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายประเทศไทย
คดีนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ขยายผลกรณีชายชาวจีนสวมบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และเข้าตรวจค้นอาคาร 5 ชั้นย่านถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก พบบุคคลต่างด้าว 7 ราย และตรวจพบว่า สภาพภายในมีการแบ่งซอยเป็นห้องพัก และมีอุปกรณ์ไว้ สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2022/10/S__25526303.jpg)
ต่อมา “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน ขยายผลให้ทราบถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมบัตรชมพู และกรณีการอุ้มบุญดังกล่าว จากการสืบสวนทราบว่า ชื่อเจ้าของสถานที่ ดังกล่าวคือ “น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล” ทำหน้าที่ในการนำรายชื่อบุคคลต่างด้าว เข้ามาอยู่ภายในบ้านเลขที่ดังกล่าว
โดยพฤติกรรมผู้ต้องหา ใช้วิธีการแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นญาติของตน และสำแดงเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ย้ายชื่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาในทะเบียนบ้าน และใช้วิธีทุจริต ในการออกบัตรต่างด้าวสีชมพูให้ จนเกิดปัญหาขึ้น
อย่างกรณีล่าสุด คือคดีอุ้มรีดค่าไถ่ชาวจีนในพื้นที่ชลบุรี พบความเชื่อมโยงกับ “น.ส.นวพร” ที่ออกเอกสารรับรองให้ผู้เสียหายชาวจีน ว่าเป็นพนักงานบริษัทในเครือของเธอ ก่อนที่ผู้เสียหาย จะถูกแก๊งคนร้ายเพื่อนร่วมชาติ ก่อเหตุอุ้มภรรยาและพี่ภรรยา ไปเรียกค่าไถ่
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวม พยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับ “น.ส.นวพร” ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการ ปลอม, ร่วมกันแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และร่วมกันปลอมและใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตรา การเดินทางระหว่างประเทศ
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/04/Untitled-3.png)
เมื่อสืบสาวราวลึกลงไป พบพฤติกรรมของ “น.ส.นวพร” นั้น เป็นบุคคลสัญชาติจีนที่ได้รับสัญชาติไทยจากการแต่งงานกับคนไทย จากนั้นได้หย่าร้าง และมีสามีใหม่เป็นคนสัญชาติจีน ก่อนจะมีลูกด้วยกัน 3 คน โดยบุตรทุกคนได้รับสัญชาติไทยตามมารดาทั้งหมด ทำให้ได้รับสิทธิเช่นเดียวกับคนไทยในการประกอบธุรกิจต่างๆ ได้ตามปกติ
เมื่อตรวจสอบประวัติ พบว่า “น.ส.นวพร” เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงคนจีนมาลงทุนทำธุรกิจ ความเสียหายมากกว่า 700 ล้านบาท ถูกดำเนินคดีที่สน.ประเวศ
นอกจากนี้ จากการประสานข้อมูลกับทางการจีนพบว่า “น.ส.นวพร” มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับ “การค้ามนุษย์” ทั้งในจีน ไทย และกัมพูชา เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี
ทีมข่าวได้ตรวจสอบพบว่า “ผู้ต้องหา” มีทรัพย์สินในครอบครองเป็นบริษัทหลายแห่ง ซึ่งมีชื่อของญาติและบุตรของ “น.ส.นวพร” เป็นกรรมการบริหาร รวมทั้งที่ดินและรถหรูอีกจำนวนมาก ทั้งยังทำหน้าที่เป็นคนประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทาอีกด้วย
ตรวจพบโยงใยมีชื่อถือหุ้นใหญ่ใน “บมจ.ประกันภัยแห่งหนึ่ง”
เมื่อลองตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของเธอ พบชื่อปรากฎเป็นกรรมการบริษัท 8 บริษัท ยังเปิดกิจการอยู่ 4 บริษัท ได้แก่
-บริษัท ซิตี้ คอนสตรัคชั่น เรียล เอสเตท จำกัด
-บริษัท ปักกิ่งเออร์บัน จำกัด
-บริษัท เจ.เอส.พี. สาทร จำกัด
-บริษัท เฟดเดอรัล เรียลเอสเตท กรุ๊ป จำกัด
จากการตรวจสอบลึกลงไป ยังพบว่า “น.ส.นวพร” และบริษัทที่เธอเป็นกรรมการ ยังมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทประกันภัยรายใหญ่ จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน
จากรายงานประจำปี 2564 ซึ่งมีไว้ในเว็บไซต์บริษัท พบว่า บริษัท เฟดเดอรัล เรียลเอสเตท กรุ๊ป จำกัด ที่เธอเป็นกรรมการอยู่ ถือหุ้นสัดส่วน ร้อยละ 77.79 ส่วนน.ส.นวพร ถือหุ้นไว้ร้อยละ 7.56
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/04/1681290929664.jpg)
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นแต่ละคน พบว่า มีชาวจีน อย่างน้อย 7 ราย ร่วมถือหุ้นในบริษัทแห่งนี้ แน่นอนว่าทั้งหมดอยู่ในฐานะนักลงทุน จนกว่าตำรวจจะพบความเชื่อมโยงเพิ่มเติม กับน.ส.นวพรในทางใดทางหนึ่ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เครือข่ายทุนจีนเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกัน โดยมีเครือข่ายของน.ส.นวพรในการอำนวยความสะดวกช่วยเหลือคนจีนเหล่านี้ในการสวมบัตรและอุ้มบุญ เพื่อให้ทุนจีนสีเทาเหล่านี้ สามารถประกอบธุรกิจหรือทำธุรกรรมต่างๆ เสมือนเป็นคนไทยคนหนึ่ง
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ขยายผลติดตามเส้นทางการเงินและความเกี่ยวข้องกับเครือข่าย น.ส.นวพรทั้งหมด หากพบผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น คนจีน คนไทย หรือเจ้าหน้าที่รัฐ จะนำตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด
นอกจากนี้หากพบการกระทำผิดของน.ส.นวพร ที่เข้าข่ายความผิดมูลฐาน ก็จะประสานงานกับ ปปง.ในการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม
หารือ “ปลัดมท.” ถอนสัญชาติตัวแม่แก๊งอุ้มบุญ
ส่วนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรัก ที่ได้ทุจริตออกบัตรสีชมพูให้คนต่างด้าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอศาลออก “หมายจับ” แล้ว หลังจากนี้ จะได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบเรื่องสัญชาติของ “น.ส.นวพร” ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
หากพบว่ามีจุดใดเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะได้ดำเนินการเพิกถอนสัญชาติเธอ และดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อไป
………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม