ศาลอาญาออกหมายจับ ‘ตะวัน-แฟรงค์’ ความผิดตามมาตรา 116 – พรบ.คอมพิวเตอร์ คดีป่วนขบวนเสด็จ ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยันไม่ได้ยัดข้อหา มั่นใจในพยานหลักฐาน
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยล่าสุดว่า คดีนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรา 116 ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จนกระทั่งชุดทำคดี มั่นใจในพยานหลักฐานและเพียงพอที่จะขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้ // โดยผู้พิพากษาได้มีกระบวนการไต่สวนเข้มข้นนานถึง 2 ชั่วโมง และล่าสุดเพิ่งจะไต่สวนเสร็จ หลังจากนี้ขอให้รอฟังทางผู้กำกับการ สน.ดินแดง ที่อยู่รอฟังข้อมูลก่อน เนื่องจากตนเองออกมาก่อน เพราะมีภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล
พลตำรวจตรีอัฏธพร ย้ำว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เน้นย้ำให้มีความรอบคอบในการสืบสวนหาข้อมูล ร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจการตำรวจนครบาล 1 ที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง ทั้งทางอิเล็กทรอนิกส์และโซเชียล รวมเอกสารกว่า 100 แผ่น ซึ่งศาลได้ซักถามที่มาที่ไปอย่างละเอียด โดยเฉพาะมาตรา 116 ที่จะต้องนำสืบตามกรอบให้ได้ รวมถึง พรบ.คอมฯ เกี่ยวกับความมั่นคงด้วย
เมื่อถามถึงพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องมาตรา 116 ผู้ต้องหาเข้าข่ายอย่างไรนั้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของศาลในกระบวนการออกหมายจับ และให้รอฟังผลพิจารณา
ส่วนประเด็นพื้นที่ของศาลตำรวจหรือเจ้าพนักงานสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้หรือไม่นั้น // เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ทางเจ้าพนักงาน ที่ได้มอบหมายให้สืบนครบาล 1 ดำเนินการต่อ ซึ่งต้องใช้เวลานิดหนึ่ง แต่ขอให้มั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะคดีนี้ไต่สวนนานถึง 2 ชั่วโมง โดยมีพนักงานสอบสวนนำสืบถึง 6 คน ใช้เวลารวบรวมข้อมูลนานกว่า 7 วันในทุกๆมิติ
ขณะที่มีรายงานว่าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ออกหมายจับนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน“ ใน 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม พรบ.คอมฯ และมาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น
ส่วนนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ “แฟรงค์“ โดน 4 ข้อหา คือ มาตรา 116 / พรบ.คอมฯ / บีบแตร พรบ.จราจร และ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
