วันพฤหัสบดี, กันยายน 19, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightใช้ยาแรงพยุงเศรษฐกิจ!เฟดมีมติ11ต่อ1 หั่นดอกเบี้ยนโยบายลง0.50%ในรอบ4ปี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ใช้ยาแรงพยุงเศรษฐกิจ!เฟดมีมติ11ต่อ1 หั่นดอกเบี้ยนโยบายลง0.50%ในรอบ4ปี

เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.5% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ตามตลาดคาดหลัง หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว หนุนตลาดหุ้นสหรัฐบวกแรงเขียวยกแผงก่อนปิดลบ เนื่องจากตลาดรับสัญญาณบวกไปก่อนหน้าแล้ว

รายงานข่าวจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติไม่เอกฉันท์ 11 ต่อ 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% นำอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 5.25 ถึง 5.50% สู่อัตรา 4.75 ถึง 5.00% โดยมี 1 เสียงเห็นควรให้ลดเพียง 0.25%

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า ตัวชี้วัดล่าสุดบ่งชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง การจ้างงานเพิ่มขึ้นในอัตราช้าลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อัตราเงินเฟ้อมีพัฒนาการที่มุ่งหน้าไปสู่อัตราเป้าหมาย 2% ของคณะกรรมการ แต่ยังคงสูงเล็กน้อย

คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน และพิจารณาเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สมดุล ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน และคณะกรรมการให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate) 

เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อและความสมดุลของความเสี่ยง คณะกรรมการจึงตัดสินใจลดช่วงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางลง 0.50% เป็น 4.75% ถึง 5.00% 

ทั้งนี้ เฟดลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดคือในปี 2563 (2020) ซึ่งลดไป 0.50% เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และอีก 1.00% ในวันที่ 15 มี.ค. โดยถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0-0.25% ยาวต่อเนื่องจนเข้าสู่วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565-2566 ซึ่งการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

นอกจากการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว เฟดได้ “ปรับลด” คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2567 ลงเหลือ 2% โดยประมาณการว่าจีดีพีสหรัฐจะโตได้ระดับ 2.0% ในทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2567- 2570 หลังจากก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่า จะมีการขยายตัว 2.1%, 2.0% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ 

พร้อมปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในช่วง 4 ปีนี้ ตั้งแต่ปี 2567 – 2570 อยู่ที่ระดับ 4.4%, 4.4% และ 4.3% และ 4.2% ตามลำดับ หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.0%, 4.2% และ 4.1% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ ส่วนอัตราว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.2%

ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2567- 2570 อยู่ที่ระดับ 2.6%, 2.2%, 2.0% และ 2.0% ตามลำดับ “ลดลง” หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.8%, 2.3% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปรบตัวเขียวยกแผง โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวบวกขึ้นไปถึง 300 จุดในช่วงสั้นๆ หลังการประกาศผลประชุม ก่อนจะปรับลดลงมา ณ เวลาประมาณ 01.20 น. ตามเวลาในไทย Dow Jone บวกไปกว่า 174 จุด หรือราว 0.4% แตะสถิติสูงสุดใหม่ระหว่างการซื้อขาย ส่วน S&P500 บวกราว 0.51% และ Nasdaq บวกได้ราว 0.74% ก่อนที่ทั้งสามดัชนีจะ “ปิดตลาดลบลงไปเล็กน้อย”

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดลดลง 103.08 จุด หรือ -0.25% ปิดที่ 41,503.10 จุด
  • ดัชนี S&P500 ปิดลบ 16.32 จุด หรือ -0.29% ปิดที่ 5,618.26 จุด
  • ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 54.76 จุด หรือ -0.31% ปิดที่ 17,573.30 จุด 
     


 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img