‘’เพื่อไทย’’ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่กาญจนบุรีแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น ตั้งเป้ากวาด 5 เก้าอี้มั่นในคนเมืองกาญจน์ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงเวทีปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้ (29 มกราคม) ที่จังหวัดกาญจนบุรี ว่า เวลา 15.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะเดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองกาญจนบุรีก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งจุดนี้เป็นธรรมเนียมของทุกพรรคการเมืองที่เวลามาเมืองกาญจนบุรีจะต้องมาสักการะที่นี่ก่อน เพราะเชื่อว่าจะได้รับชัยชนะ
จากนั้นเวลา 15.45 น. น.ส.แพทองธาร จะนำคณะพรรคเพื่อไทย พบปะและแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี โดยพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว การมาพบปะผู้ประกอบการครั้งนี้จะนำไปสู่การจัดทำเป็นนโยบายในอนาคต ต่อมาเวลา 17.30 น. น.ส.แพทองธารจะนำคณะพรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัยใหญ่
เมื่อถามว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนสาขาพรรคประจำภาคกลางจากเดิมที่อยู่จังหวัดนนทบุรี มาเป็นกาญจนบุรีแทน เพราะหวังกวาดเก้าอี้ ส.ส.กาญจนบุรีทั้ง 5 เขต นายอัครนันท์ กล่าวว่า เมื่อครั้งเป็นพรรคไทยรักไทยกาญจนบุรีเคยกวาด ส.ส.ได้ทั้งห้าที่นั่ง เรามีทั้งฐานของคนเสื้อแดง และฐานของคนที่รักพรรคเพื่อไทย จึงไม่แปลกที่การเลือกตั้งรอบนี้เราจะหวังแลนด์สไลด์ในจังหวัดกาญจนบุรี เพราะการเลือกตั้งเราไม่ได้ ส.ส.จากเหตุการณ์ทางการเมืองหลายอย่าง
นายอัครนันท์ กล่าวอีกว่า ความสำคัญของการปราศรัยครั้งนี้ที่จังหวัดกาญจนบุรี คือ จะเป็นการปราศรัยครั้งแรกของภาคกลาง ในนามพรรคเพื่อไทย ดังนั้นจะเห็นว่าพรรคมุ่งมั่นกับจังหวัดกาญจนบุรีมาก นี่คือการจุดพลุแลนด์สไลด์ภาคกลางด้วย ซึ่งประชาชนก็ให้การตอบรับที่จะมาเข้าร่วมฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน เชื่อว่าจะเป็นการปราศรัยที่คนมาฟังเยอะที่สุดในรอบหลายสิบปีของจังหวัดกาญจนบุรี นี่คือปรากฎการณ์ที่เราไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว
‘’หากไม่มีการใช้อำนาจรัฐของคู่แข่ง เรามั่นใจว่าเราจะชนะการเลือกตั้งได้ เพราะทุกวันนี้ประชาชนตื่นตัวในการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมาก เพราะประชาชนทนอยู่แบบนี้มากว่า 8 ปีแล้ว ตนเชื่อว่าประชาชนมีคำตอบในใจแล้ว วันนี้ คนไม่ได้อยากเพียงเปลี่ยน ส.ส.ในเมืองกาญฯเท่านั้น แต่คนอยากเปลี่ยนรัฐบาล และตนมั่นใจว่า ประชาชนจะร่วม เปลี่ยนคน เปลี่ยนเมืองกาญฯ แล้วเปลี่ยนรัฐบาลไปด้วยกัน’’นายอัครนันท์ กล่าว