อธิบดีดีเอสไอเผยรับคดี ”เหมืองทองอัครา” เป็นคดีพิเศษ เพิ่มอีก 1 สำนวน ชี้ เข้าข่ายผิดกม.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว สั่งเร่งสอบสวน
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีเหมืองทองอัคราว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนเพื่อติดตามความคืบหน้าของกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนหลายชุด โดยล่าสุดมีคำสั่งให้กรณีการถือครองหุ้นแทนบุคคลต่างด้าวของ บริษัทอัคราไมนิ่ง จำกัด หรือ บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 อันเข้าลักษณะของการกระทำความผิดตามประกาศกคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 และมอบหมายให้พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้สรุปความเห็นและส่งสำนวนคดีบริษัทอัคราฯ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิจิตร รวม 2 สำนวนให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่วนประเด็นข้อร้องเรียนอื่นๆ ของกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เช่น การทำเหมืองแร่นอกเขตประทานบัตร การปล่อยให้สารพิษรั่วไหลก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเหมืองแร่ รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและการหลบเลี่ยงภาษี มอบหมายให้พ.ต.ท.สุภัทธ์ตรวจสอบว่า คดีพิเศษที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านั้น มีประเด็นซ้ำซ้อนกับเรื่องที่มีดำเนินการไปแล้วหรือไม่ รวมทั้งประสานงานกับพนักงานอัยการ และ ป.ป.ช. ที่ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษจากดีเอสไอว่ามีประเด็นใดที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอีกหรือไม่
