ศบค. เคาะลดวันกักตัวชาวต่างชาติ เหลือ 7 วัน ฉีดวัคซีนไม่ครบกักตัว 10 วัน หวังกระตุ้นท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ
วันที่ 27 ก.ย.64 เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบการปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยการปรับลดระยะเวลาการกักตัวสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ได้รับการกักกันในสถานที่กักกันทุกรูปแบบ ทุกประเภทรวมทั้งผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวหรืออื่นๆตามนโยบายของรัฐโดยเริ่มวันที่ 1 ต.ค.64 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ 1.มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) ครบตามเกณฑ์อย่างน้อย 14 วัน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยทุกช่องทาง กรณีเดินทางทางน้ำต้องมีการรับรองการฉีดวัคซีนทุกคน โดยลดเวลากักตัวหรือเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างน้อย 7 วัน และจะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (6-7) 2.ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ (Vaccine Certificate) หรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ แบ่งเป็นเดินทางมาทางอากาศ ให้กักตัวอย่างน้อย 10 วันเดินทางทางน้ำ (กรณีมีคนใดคนหนึ่งบนเรือไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน) จะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (8-9 ) และเดินทางทางบก เนื่องจากไม่มีการตรวจหาเชื้อมาก่อนและมีอัตราการติดเชื้อมากกว่าทางอากาศ ให้กักตัวคงเดิม 14 วัน จะต้องมีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้งโดยครั้งแรกวันแรกที่มาถึง (0-1)และครั้งที่สอง (12-13)
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การปรับมาตรการสำหรับการทำกิจกรรมในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด โดยสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ)มีการปรับให้มีการออกกำลังกายกลางแจ้ง การว่ายน้ำการปั่นจักรยาน (กรณีมีสถานที่ที่มีลักษณะปิดและควบคุมได้) การสั่งซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอก รวมถึงการประชุมสำหรับสำหรับนักธุรกิจเข้ามาในระยะสั้น ขณะที่สถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ)สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศและสถานกักกันโรคของหน่วยงาน (OQ)สำหรับกับการบุคลากรของหน่วยงานที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ปรับมาตรการให้สามารถออกกำลังกายกลางแจ้ง และสั่งซื้ออาหารจากภายนอกและสั่งซื้อสินค้าได้