วันจันทร์, กันยายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSนายกฯสรุปภาพรวมลงพื้นที่นราธิวาส-มาเลเซีย เผยเป็นการพูดคุยเชิงลึกให้2ฝ่ายทำงานใกล้ชิดกัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯสรุปภาพรวมลงพื้นที่นราธิวาส-มาเลเซีย เผยเป็นการพูดคุยเชิงลึกให้2ฝ่ายทำงานใกล้ชิดกัน

นายกฯสรุปภาพรวมลงพื้นที่นราธิวาส-มาเลเซีย เผยเป็นการพูดคุยเชิงลึกให้2ฝ่ายทำงานใกล้ชิดกัน และมีการหารือถึงเขตอุตสาหกรรมพิเศษที่ทั้งสองประเทศจะมีการพัฒนาร่วมกัน


เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่จ.นราธิวาสและรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ว่าได้เชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยมาด้วย ซึ่งท่านจะมีบทบาทต่อไปในเรื่องการเจรจา และทำงานกับฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซีย โดยการพูดคุยในวันนี้ เป็นการพูดคุยกันเชิงลึก ให้ทั้ง 2 ฝ่ายทำงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอนเหนือของมาเลเซียมีรายได้ต่อหัวต่ำที่สุด ขณะที่ตอนใต้ของไทย ก็มีทรัพยากรที่มีคุณค่าเยอะมาก แต่มีปัญหาความมั่นคงมาฉุดไม่ให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เจริญเติบโต ตนได้เจอกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลายหน มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี เช่นเดียวกับนายอนุทิน ซึ่งรู้จักกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทำให้เปลี่ยนการพูดคุยหารือทวิภาคีแบบกลุ่มใหญ่ เป็นการหารือบนโต๊ะอาหารแทน เนื่องจากเป็นกันเอง และรู้จักกันดีอยู่แล้ว


ขณะที่การหารือแบบ four eyes มีการพูดคุยถึงเรื่องความมั่นคง ยกระดับการเจรจา และการรับฟังแผนการก่อสร้างโครงการสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ซึ่งตน และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เห็นตรงกันว่าสามารถย่นระยะเวลาได้ ทั้งก่อนการก่อสร้าง และระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้การค้าระหว่างสองประเทศดีขึ้น และอีกเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียหยิบยกมาพูดคุยคือการขุดลอกแม่น้ำโก-ลก ที่ตื้นเขิน บริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งการระบายน้ำไม่ดี และเกิดปัญหาน้ำท่วมตามมา โดยเฉพาะมาเลเซียที่มีภูมิประเทศต่ำ ทำให้มีปัญหาอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้นายอนุทินจะรับไปดูแล โดยเราจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกปี เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นทรายที่มีคุณค่า อาจเปิดสัมปทานให้คนมาลงทุนในการทำให้แม่น้ำไหลได้อย่างสบาย


นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงเขตอุตสาหกรรมพิเศษที่ทั้งสองประเทศจะมีการพัฒนาร่วมกัน คือ อาหารฮาลาล และโรงงานผลิตยาง รวมถึงมีการพูดคุยเรื่องความหลังเก่า ๆ และเรื่องครอบครัว ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นคนที่มีประสบการณ์สูงมาก จะเห็นว่าขั้นตอนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา น้อยกว่า 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้เชิญ สส. ของไทยจากทุกพรรคการเมือง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ภูมิใจไทย (ภท.)ประชาชาติ (ปชช.) ผู้นำศาสนาจากยะลา ปัตตานี นราธิวาส ผู้นำชุมชน ประธานรัฐสภา ผู้บัญชาการทหารบก เลขาสภาคสามมั่นคงแก่งชาติ(สมช.) ในช่วงรับประทานอาหารกลางวันทุกคนมาหมด มีการพูดคุยเป็นอย่างดี ประสานระหว่างบนลงล่างเป็นอย่างดี หวังว่าการแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้นอีก


นายกฯ กล่าวด้วยว่า รมว.ต่างประเทศ ทั้งสองประเทศ กำลังจะมีการประชุมทวิภาคีก่อนสิ้นปีนี้ โดยได้มีการเสนอให้มีการจัดประชุมที่ลังกาวี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของมาเลเซีย และมาเลเซีย ก็อยากร่วมกับเราในเรื่องของ “Six Countries, One Destination” ซึ่งฝ่ายไทยช่วยอยู่ในเรื่องของการทำโฆษณา ขณะที่มาเลเซีย มีขีดจำกัดในเรื่องนี้ หากสำเร็จการท่องเที่ยวในภูมิภาคจะดีขึ้นมาก ซึ่งการหารือทั้งหมดจบลงได้ด้วยดี ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 2 ชั่วโมง และการทำงานกึ่งทางการก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งทางมาเลเซีย มีความกังวลเรื่องความมั่นคง แต่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทุกอย่างจะออกมาแล้วดูดีทั้งสองประเทศ


ส่วนได้พบปะพูดคุยกับผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียคนใหม่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีการพูดคุยโดยตลอด และเน้นย้ำว่าต้องคุยกันเชิงลึกให้มากขึ้น โดยในที่ 5 – 6 ส.ค.นี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศจะเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือเรื่องนี้ต่อ ย้ำว่าการพูดคุยมีความคืบหน้า และรัฐบาลไม่ทอดทิ้งในเรื่องของความมั่นคง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอนุทิน ก็ลงพื้นที่มาคุยเรื่องอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)ซึ่งในส่วนนั้นก็มีปัญหา แต่เป็นธรรมดา เพราะเราต้องการดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ให้สังคมเกิดความเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องโรงเรียน และเรื่องหลักสูตร

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img