นายกฯ เข้าวัดเทพศิรินทร์ กราบเจ้าอาวาส ก่อนลงตรวจใต้ด่วนเพลินจิต เที่ยงนี้ หวังสร้างพื้นที่สันทนาการ-ปล่อยเช่าให้ ปชช.ค้าขาย – รับ กังวลทุกเรื่อง ตลอดเวลา
วันที่ 14 ส.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยแต่งกายด้วยชุดสูทสีเทา เชิ้ตด้านในสีฟ้า เน็กไทลายดำแดง พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ว่า เมื่อเช้าตนเดินทางไปวัดเทพศิรินทร์มา ซึ่งเป็นวัดที่ทำพิธีศพของคุณแม่ โดยท่านเจ้าคุณ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดได้ช่วยเหลือตน จึงเข้าไปกราบขอบคุณท่าน
เมื่อถามว่าท่านเจ้าคุณได้ให้กำลังใจอะไรบ้าง นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่มี ท่านชวนคุยเรื่องฟุตบอลซะส่วนมาก
ส่วนกังวัลเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีในวันนี้หรืิไม่นั้น นายเศรษฐา เผยว่า ตนกังวลทุกเรื่อง กังวลตลอดเวลา แต่เรื่องนี้ไม่อยู่ในมือตนแล้ว ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ตนก็ทำงานปกติ ตอนเที่ยงก็เดินทางไปตรวจใต้ทางด่วนแถวตลาดใต้สะพานเพลินจิต เนื่องจากมีพื้นที่เหลือเยอะมาก จึงเรียกผู้ว่าฯ การทางพิเศษ และโฆษกคมนาคมมาเพื่อหารือว่าใต้ทางด่วนมีพื้นที่ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่สันทนาการของประชาชนได้ หรือเอามาหารายได้ให้ประชาชนที่อยากมาเปิดร้านค้า ในราคาค่าเช่าที่เหมาะสม เพื่อเป็นการเสริมอาชีพ เสริมรายได้ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ผู้ว่าการทางพิเศษ และผู้ว่า กทม. ก็ชวนตนไปดู มั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนการเข้าพบของนายกฯ จากประเทศลาวในวันพรุ่งนี้ มีการหารือกันเรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดหรือไม่ นายเศรษฐา เผยว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะปกติก็พูดคุยกันธรรมดาในฐานะกระทรวงต่างประเทศ ตนได้กำชับไปที่กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าถึงเวลาที่ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาในฐานะที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันว่าปัญหานี้มีจริงๆ เกิดขึ้นจริงๆ อย่าปฏิเสธ และทั้ง 2 ประเทศต้องหาวิธีปราบปรามเรื่องนี้ให้จริงจังและเด็ดขาด เพราะประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง
สำหรับกรณีที่บางฝ่ายพูดว่าถ้าไปเจอตอตัวใหญ่แล้ว เราจะไม่สามารถดำเนินการได้นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องนี้ตนก็พูดคุยตลอดเวลาว่า เมื่อลงไปตรวจงานหรือประชุมกันนั้น จริงๆ แล้วเราอยากเจอตอใหญ่ ไม่อยากเจอตอเล็ก และหากเจอก็ต้องฟันฝ่ากันไป
