พร้อมเลือกตั้ง “สุดารัตน์” ปลุกขวัญผู้สมัคร ภาค กทม.ลงสนามต้องชนะ ย้ำต้องทำงานหนักต่อเนื่อง อุทิศตนรับใช้ประชาชนตามอุดมการณ์พรรค มั่นใจนโยบายตรงความต้องการ ถูกใจพี่น้องชาว กทม.แน่นอน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายสุธา ชันแสง แกนนำภาค กทม.พรรคไทยสร้างไทย จัดประชุมผู้สมัครเลือกตั้งภาค กทม. โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร โดยปลุกใจผู้สมัครทุกคน ว่าเมื่อลงทำหน้าที่ในนามพรรคไทยสร้างไทยแล้วจะต้องให้ได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั้ง เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนให้ได้
ประธานพรรคไทยสร้างไทยเน้นย้ำให้ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเหมือนที่ผ่านมา อุทิศตนรับใช้พี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชนให้มีความสุข โดยประโยชน์ประชาชนต้องมาก่อน ตามเจตนารมณ์และความมุ่งหมายในการก่อตั้งพรรค
พร้อมทำความเข้าใจถึงแง่มุมทางกฎหมายร่วมกับผู้สมัคร เพื่อให้การดำเนินการต่างๆอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกาจัดให้มีการเลือกตั้ง ทั้งในส่วนของการสมัครรับเลือกตั้ง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงเอกสารการประชาสัมพันธ์ต่างๆในการหาเสียง จะต้องอยู่ในกรอบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศหลักเกณฑ์ออกมา
ประธานพรรคไทยสร้างไทย ย้ำกับผู้สมัครว่าการหาเสียงจะต้องสื่อสารนโยบายให้ชัดเจน ประชาชนและผู้สนับสนุนต้องทราบว่า เราจะทำอะไรให้กับพื้นที่ โดยเฉพาะการยึดประโยชน์ของประชาชนและความต้องการของประชาชนมาเป็นที่หนึ่ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนโดยเฉพาะความทุกข์ยาก ตรงจุดตรงความต้องการมากที่สุด ซึ่งผู้สมัครจะทราบปัญหาทราบความต้องการได้ ผู้สมัครทุกคนจะต้องเดินรับฟังเสียงสะท้อนจากคนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เข้าถึงทุกชุมชน เข้าถึงทุกครัวเรือน
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า พรรคมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ โดยจะส่งผู้สมัคร ส.ก.ครบทั้ง 50 เขต ซึ่งนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงนั้น จะมีนโยบายจากส่วนกลาง รวมถึงนโยบายในระดับเขต ที่ผู้สมัครของพรรคไทยสร้างไทยได้ทำงานอย่างหนัก ฟังทุกเสียง ฟังทุกความต้องการ ก่อนกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายในระดับพื้นที่ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์มั่นใจว่า จะถูกใจพี่น้องชาวกรุงเทพฯอย่างแน่นอน เพราะทุกนโยบาย ถูกสร้างขึ้นโดยยึด ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อปลดปล่อย (Liberate)ประชาชนจากพันธนาการของความคิดแบบอำนาจนิยมและรัฐราชการ พร้อมกับสร้างอำนาจ (Empower)ให้กับประชาชนในการรวมตัวกันเพื่อให้เกิดพลังสามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด