วันอังคาร, มิถุนายน 18, 2024
หน้าแรกHighlight“แบ่งกระทรวง”ใกล้เคียงวันโหวตนายกฯ “ภูมิธรรม”ไม่ได้ยินห้ามนั่ง“กระทรวงเดิม”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“แบ่งกระทรวง”ใกล้เคียงวันโหวตนายกฯ “ภูมิธรรม”ไม่ได้ยินห้ามนั่ง“กระทรวงเดิม”

ภูมิธรรม’ ยันไม่ได้ยินพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล ยื่นเงื่อนไขไม่ให้ห้ามรมต.นั่งกระทรวงเดิม แย้มแบ่งกระทรวงใกล้เคียงวันโหวตนายกฯ เตรียมประสานคุยรทสช. มั่นใจ ‘เศรษฐา’ ไม่ติดเงื่อนไขจริยธรรม 

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรรคที่จะมาร่วมกับพรรค พท. ยื่นเงื่อนไขร่วมรัฐบาลต้องไม่มีเงื่อนไขห้ามรัฐมนตรีนั่งกระทรวงเดิม หากมีขอให้เปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯว่า ตนยังไม่ได้ยินพรรคใดประสานมาในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคที่จะมาร่วมงานกับ พท. ไม่มีปัญหาที่รุนแรงในเรื่องนี้ ประเด็นที่ว่านายเศษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. ไปพูดไม่ให้พรรคที่จะมาร่วมกับพรรค พท. ทำงานกระทรวงเดิมนั้น นายเศรษฐาไม่ได้พูดเป็นหลัก เป็นคำถามจากสื่อว่าหลักการไม่ควรให้นั่งกระทรวงเดิมหรือไม่ ซึ่งนายเศรษฐา พูดเพียงว่าหลักการดูดีเห็นชอบ แต่ต้องดูว่าการเชิญพรรคต่างๆ มาร่วมต้องให้เกียรติและดูความเหมาะสม ไม่อยากให้ยึดติดอยากให้ดูนโยบาย คุณสมบัติของคนที่จะมาทำงานเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน หน้าที่ของพวกเราต้องประสานงานตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ประเด็นเหล่านี้ต้องไปดูความเหาะสม นโยบายตัวบุคคล คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เท่าที่คุยกับหัวหน้าพรรคหลักๆ เราพูดเหมือนเดิมว่าอยู่ที่ใครร่วมและส่งสัญญาณในการเลือกนายกฯให้พรรค พท. เป็นแกนนำ มีนายเศรษฐา เป็นนายกฯ หลังจากนั้นมาพูดเรื่องกระทรวงให้สังคมพอใจและสอดรับนโยบายบายแต่ละพรรคน่าจะดีกว่า ขอความกรุณาจากพรรคร่วมให้ช่วยดูตรงนี้ เอาวาระประเทศวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วดูความเหมาะสมจะแบ่งกันทำงานอย่างไร ทุกเรื่องคุยกันได้หากใช้เหตุใช้ผล อยากให้รอเวลาคุยกันอีกนิดเดียว
 

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองต่างๆอยากให้คุยก่อนโหวตนายกฯ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรารวมเสียงมาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีปัญหา ถึงเวลาที่เหมาะสมจะทำให้มันชัด ต้องชัดเจนก่อนว่ามีคนพร้อมร่วมรัฐบาลเท่าไรแล้วจะจัดการอย่างไร ตอนนี้เรามี 238 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกจะโหวตให้โดยไม่มีเงื่อนไขก็รวมเป็น 278 เราต้องทำให้ได้ 375 เสียง และเท่าที่ฟังพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็พูดทางบวกให้ใช้นโยบายเป็นแกนกลางกำหนดนโยบายทำงาน ดูใครเมหาะสม ใครเป็นหลักเป็นรอง ถ้าคุยด้วยผลประโยชน์ประเทศชาติคุยได้หมด ตั้งใจว่าเมื่อเลือกนายกฯแล้วรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานได้ในเดือนก.ย. คิดว่าจะประเด็นกระทรวงต่างๆ จะเสร็จสิ้นใกล้เคียงกับการโหวตนายกฯขอดูเวลาที่เหมาะสม

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการประสานพรรคมาร่วมโหวตให้แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติม ได้ประสานงานไปยังพรรค รทสช. แล้วหรือยัง จะมีการประกาศชื่อพรรคร่วมอื่นอีกหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กำลังดำเนินการ ทราบแล้วว่าพรรค รทสช. มีแนวโน้มเป็นบวก เราคุยกันบ้างแล้วตั้งแต่เชิญมารับฟังแนวทางร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่พรรค พท. ยืนยันความสัมพันธ์ไม่มีปัญหา รองหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เตรียมการให้เรียบร้อยแล้วจะเชิญพรรค รทสช. มาพูดคุยอย่างเป็นทางการ เมื่อได้ความชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลกันหรือไม่จะมีการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า สว.อยากให้เศรษฐาไปแสดงวิสัยทัศน์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามไปยังนายเศรษฐา แต่นายเศรษฐาไม่ใช่ สส. การเข้าไปพูดในสภาฯอาจลำบาก ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พูดในรัฐสภาเป็นการตอบคำถามแล้วแสดงวิสัยทัศน์ และที่ผ่านมา ไม่เคยมีการแสดงวิสัยทัศน์ การตรวจสอบผู้ที่จะมาเป็นนายกฯเป็นเรื่องจำเป็น ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ นายเศษฐา ก็พูดชัดเจนแล้วประเด็นที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งคำถามโดยให้บริษัทที่ถูกตั้งคำถามชี้แจง และนายเศรษฐาก็รักษาสิทธิโดยการฟ้องร้องนายชูวิทย์ ว่าไปตามกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเลี่ยงภาษี แต่เป็นการบริหารจัดการภาษีตามกฎหมาย เป็นหลักการที่มีการสอนกันในมหาวิทยาลัย เมื่อทุกอย่างทำตามกฎหมมายก็ไม่ผิดจริยธรรม มั่นใจนายเศรษฐาไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติอย่างแน่นอน

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรค พท. เดินทางไปพูดคุยกับพรรค ก.ก. ที่มีการออกมาระบุพรรค พท. ไม่ได้บอกรายละเอียดการเดินหน้าตั้งรัฐบาลว่า ขอยืนยันข้อเท็จจริง การไปพบกับพรรค ก.ก. วันนั้น ไปในฐานะทีมเจรจา ส่วนที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. ไปด้วยนั้น พรรค ก.ก. เป็นคนร้องขอมา เพื่อจะได้สบายใจกันทุกฝ่ายน.ส.แพทองธารก็เดินทางไป เราไปอย่างเปิดเผยไม่ปิดบังอะไร 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าเราไปแจ้งว่าจะเอาสองลุงมาร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ตรงข้อเท็จจริงอาจจะคลาดเคลื่อน เราบอกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้เขาสนับสนุนเราเป็นรัฐบาลได้ เพื่อให้เราทำงานได้ แต่ทางพรรค ก.ก. อยากให้เรากลับไปเป็น 312 เหมือนเดิม ซึ่งเราบอกไปว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่จะยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เราอยากให้ตั้งรัฐบาลให้ได้เพื่อเปิดประตูแก้วิกฤต แต่เขาอยากให้เราเป็นเหมือนเดิมคือ 312 ซึ่งไปไม่ได้ เมื่อไปไม่ได้เราต้องเลือกทางเดินอื่นที่มีไม่กี่ทาง ซึ่งอาจจะขัดใจประชาชนบ้าง แต่พรรคการเมืองที่จะมาร่วมกับเราก็มาจากประชาชน หากพรรค ก.ก. โหวตให้เราก็ขอบคุณไม่โหวตก็ไม่ว่ากัน หากเขาเป็นฝ่ายค้าน เราเป็นรัฐบาลถ้าทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ เราพร้อมสนับสนุนนโยบายของเขาที่เป็นประโยชน์ แต่เราจะไม่ยอมเรื่องกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบัน ส่วนที่บอกว่าตนไม่ได้ขอขมา ตนยอมรับว่าเคยพูดว่าจะไปขอโทษขอขมา แต่ที่พูดไปเป็นเพียงสร้อย เพราะไม่รู้สึกว่าตนทำผิดอะไร แต่ในการพูดคุยตนได้พูดไปว่า หากมีอะไรไม่สบายใจก็ขอโทษ เรามองเรื่องการร่วมมือเป็นหลักจะสามารถแก้ปัญหาได้ ตนยืนยันแล้วว่าถ้าทำงานใหญ่คิดเรื่องใหญ่ต้องใจใหญ่ คิดเรื่องเล็กทำงานใหญ่ไม่ได้.
 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img