‘ตรีชฎา’ จวก ‘ศิธา’ เลิกเป็นสิงห์นักปั่ นคิดแต่เสี้ยมให้ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ แตกคอ ควรหันมาเสนอแก้ปัญหาประชาชน ไม่ต้องเป็นศัตรูกันให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.66 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่น.ต.ศิธา ธิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท) แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียให้รอไปอีก 10 เดือนให้ สว.หมดวาระ แล้วค่อยจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรค พท. มองสถานการณ์ต่างๆ ตามที่เกิดขึ้นจริง วิกฤตและปัญหาของประเทศ ตลอดเวลา 9 ปีภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น หนักหนาสาหัส พี่น้องประชาชนยากลำบากอย่างแสนสาหัส พรรค พท. มีความหวังว่าหลังจากการตั้งรัฐบาลสำเร็จประเทศมีนายกฯที่มีความรู้ความสามารถ ทำนโยบายเพื่อประชาชนแก้ปัญหาที่สั่งสมมา 9 ปี กระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาปากท้องประชาชนคือเป้าหมายใหญ่
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ขณะนี้พรรค พท. กำลังประสานกับพรรคการเมืองเพื่อให้ได้เสียงสส.เกิน 250 เสียง และจะหาเสียงสว.มาเพิ่มให้เพียงพอต่อการโหวตเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท. การเดินหน้าฟอร์มรัฐบาลของพรรค พท. แม้จะไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มาร่วมด้วยก็ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่า บนกระดานการเมืองที่มีพรรคการเมืองต่างๆ และภายใต้เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ ทำให้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่มีทางเลือกมากนัก ซึ่งเรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่พรรคก้าวไกลได้พยายามเป็นแกนนำแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกฯได้สำเร็จ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดหรือความบกพร่องของพรรค พท. ซึ่ง น.ต.ศิธาก็ทราบดีว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและอะไรคืออุปสรรค ดังนั้นจึงไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุใด น.ต.ศิธาพยายามทำเหมือนไม่เข้าใจเรื่องนี้และพยายามปั่นกระแส เพื่อกวนน้ำให้ขุ่นตลอดเวลา
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีแนวทางของตัวเองในการแก้ไขอุปสรรคจากกติกาของรัฐธรรมนูญ มีการปรับตัว ยืดหยุ่นเมื่อเผชิญภาวะคับขันเมื่อถึงทางตัน ที่สำคัญพรรคเพื่อไทยเปิดใจกว้าง แต่ไม่เคยทิ้งหลักการในการแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน เพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างเต็มใบ โดยเรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการออกเสียงประชามติ มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาดำเนินการ ซึ่งต้องทำให้สำเร็จ ทุกพรรคทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันอย่างเต็มที่ ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทำไม่ได้เพราะถูกสกัดขัดขวาง ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มจึงจะไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า การจับมือกับพรรค ก.ก. ดังที่น.ต.ศิธา เรียกร้องต้องการนั้น พรรค พท.ไม่เคยมองว่าพรรค ก.ก. เป็นฝ่ายตรงข้ามหรือเป็นศัตรูที่จะต้องหักโค่นทำลายกัน แม้แต่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรค พท. ไม่เคยหาเสียงโจมตีพรรคก้าวไกลเลยสักครั้ง เพราะไม่ใช่วิสัยของพรรค พท. ขณะเดียวกันก็แปลกใจเหตุใด น.ต.ศิธา จึงพยายามอย่างมากที่จะทำให้พรรค พท. กับพรรค ก.ก. เป็นศัตรูกัน น.ต.ศิธาเอง ก็ทำงานการเมืองมานาน ควรเข้าใจว่าการเมืองระยะเปลี่ยนผ่านมีความยุ่งยากซับซ้อน มีปัจจัยต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากและมีความไม่แน่นอน แต่การเมืองในมิติใหม่ ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล บางเรื่องอาจต้องร่วมมือกัน เพราะมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างประชาธิปไตยและการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนกลับมากินดีอยู่ดี โดยไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันให้ประชาชนผิดหวังหรือเสื่อมศรัทธา การเป็นมิตรที่ดีในทางการเมือง ร่วมกันพิทักษ์ประชาธิปไตย แก้ปัญหาให้ประชาชนให้ได้โดยเร็ว คือสิ่งที่พรรค พท. และทุกพรรคควรคำนึงถึง
“การจะเดินไปสู่ประชาธิปไตย 100% นั้นแม้จะเป็นเรื่องยาก แต่พรรค พท. มองว่าจะต้องทำให้สำเร็จ แม้จะเดินช้าแต่ก็ต้องค่อยๆ เดินไปข้างหน้า เราต้องทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยึดติดอยู่กับอำนาจมานาน 9 ปีหลุดออกไปไปจากสมการทางการเมืองก่อน นั้นคือความสำเร็จในก้าวแรก ฝ่าฟันให้ผ่านพ้นจุดนี้ไปได้ให้ประเทศและประชาชนกลับคืนสู่ความสุขกินดีอยู่ดีบนเส้นทางประชาธิปไตย และสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้ ส่วน น.ต.ศิธา ควรถอดวิญญาณสิงห์นักปั่น หันมาเสนอทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสร้างประชาธิปไตยได้แล้ว” น.ส.ตรีชฎา กล่าว.
