วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกNEWS“นายกฯ”ยันไร้ปัญหาทำงานกับ“ชัชชาติ” รอฟัง “สุริยะ”ปมค่ารฟม.20บ.ตลอดสาย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นายกฯ”ยันไร้ปัญหาทำงานกับ“ชัชชาติ” รอฟัง “สุริยะ”ปมค่ารฟม.20บ.ตลอดสาย

นายกฯยันไร้ปัญหาทำงานกับ “ชัชชาติ” พร้อมทำงานร่วมกัน แก้ปัญหาฝุ่น-จราจร-บุหรี่ไฟฟ้า บอกให้รอฟัง “สุริยะ” ปมค่ารฟม. 20 บาทตลอดสาย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นจังหวะที่ดี เพราะเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาได้แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” 8 ด้าน ซึ่งหลายๆข้อเกี่ยวข้องกับทางกรุงเทพฯปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงแม้เราพยายามจะกระจายความเจริญไปยังต่างจังหวัดกรุงเทพฯ ก็ยังเป็นประเทศไทยเล็กๆอันหนึ่ง ซึ่งตนก็ดีใจที่ได้มาเยือนกทม.เป็นครั้งแรก ได้ทราบวิสัยทัศน์และแผน ทั้งระยะสั้น  ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งนโยบายหลายๆอันก็ล้อไปกับวิชั่นไทยแลนด์ และนโยบายรัฐบาลประเด็นที่ตนฝากกับผู้ว่าฯกทม. ที่ได้ทำอะไรที่ดีๆเยอะ แต่ก็อาจจะมีการพูดน้อยไปนิดก็อยากให้มีการสื่อสาร ก็ขอฝากสื่อมวลชนด้วย

นายกฯ กล่าวว่า หลายเรื่องที่ผู้ว่าฯกทม.นำเสนอวันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆซึ่งวันนี้เราก็จะทำงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นให้การสื่อสารดีขึ้น เช่น เรื่องฝุ่น PM 2.5 อย่างที่ผู้ว่าฯกทม.ประกาศมาตรการเวิร์คฟอร์มโฮม ก็ทำให้รถยนต์น้อยลงไป 9% ถ้าเกิดการประสานที่ดี รัฐบาลก็จะประกาศพร้อมกัน อาจจะเป็นการให้หน่วยงานราชการเวิร์คฟอร์มโฮมเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ต่างคนต่างพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ มีการประสานงานกันเพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ส่วนปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ไฟฟ้าในหมู่เยาวชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องจัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะพบถึงขั้นทำบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรูปกล่องนม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชน เป็นเรื่องที่ไม่ควร ทั้งเรื่องการนำเข้าการเข้มงวดศุลกากรก็ต้องตรวจค้นมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า หัวใจการแก้ปัญหารถติด ไม่ใช่การทำถนนเพิ่ม แต่เป็นการทำขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลหลายๆ รัฐบาล ก็ได้ทำเส้นเลือดใหญ่จำนวนมากแล้ว อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีม่วง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือการที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเดินออกจากบ้านแล้วไปถึงรถไฟฟ้าได้ ก็เป็นสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่  รวมทั้งระเบียบวินัยการจราจรต่างๆที่มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เรื่องสัญญาณไฟจราจร เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้เป็นต้นไป

เมื่อถามว่า ถึงนโยบายค่าโดยสารรถไฟ 20 บาทตลอดสาย เห็นว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปีหน้า ไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ขอให้รมว.คมนาคมเป็นผู้แถลง

เมื่อถามถึงเรื่องฝุ่น แม้กทม.จะดำเนินนโยบายป้องกัน แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เคยทำมาทุกปีในช่วงที่มีฝุ่น จึงมองว่าการแก้ไขควรจริงจังมากกว่านี้หรือไม่โดยเฉพาะกทม. ที่มีกฎหมายอยู่แล้ว แม้จะมีการควบคุม แต่ว่าเขตก่อสร้าง หรือแม้แต่รถก็ยังมีการดำเนินการอยู่ดีควรมีนโยบายที่จริงจัง หรือบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดกว่านี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนเห็นว่าจะต้องแฟร์กับทางเจ้าหน้าที่กทม. ทุกท่านด้วย ซึ่งปัญหาฝุ่นมีทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้พิสูจน์ทราบได้ว่าปริมาณลดลงชัดเจน ผู้ว่าฯกทม.เข้ามาเกือบ 2 ปีแล้ว ท่านได้ทำอะไรดีๆหลายอย่าง ทั้งนี้ ผู้ว่ากทม.ฯและคณะกรรมการของกทม ไม่ได้ละเลย ดูรายละเอียดทุกรายละเอียด แต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีมานานแล้ว รวมถึงเรื่องโครงสร้างอีกหลายอย่าง รวมถึงการขนส่งต่างๆ ที่ต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ในขณะที่มีท่าเรือคลองเตยอยู่  ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ก็ได้เสนอเรื่องนี้ ทางรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันว่า ท่าเรือคลองเตยจะมีการย้ายออกไปหรือไม่ เพราะถ้าหากไม่มีการย้าย ก็จะยังมีการใช้รถบรรทุกขนของต่างๆผ่านเข้ามาในเขตกทม.ทำให้เกิดปัญหา PM 2.5 ยืนยันว่าทางรัฐบาลและกทม.ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่จะให้ทั้งหมดกลายเป็นศูนย์เลย ในระยะเวลานี้ มันก็คงไม่เป็นธรรม กับผู้ว่าฯกทม.เท่าไหร่  เพราะท่านพยายามทำอย่างเต็มที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ความจริงจัง และความจริงใจมีอยู่แล้ว

นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า เรื่องฝุ่นเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ที่ต้องวิเคราะห์ให้ได้แท้จริง และต้องแก้ให้ถูกจุด ที่ผ่านมาเราดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น อย่างเรื่องพื้นที่การก่อสร้างก็มีการตรวจอย่างเข้มข้น โดยหากเราห้ามรถยนต์วิ่งในกรุงเทพฯ จะช่วยได้หรือไม่ แต่ข้อมูลในพื้นที่เขตมีนบุรี-หนองจอก รถยนต์ไม่ได้เยอะ แต่มีปริมาณฝุ่นมาก ดังนั้นก็ต้องพิจารณาว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้จริงหรือไม่ ซึ่งอาจมาจากพื้นที่ด้านนอกกรุงเทพมหานครด้วย เราต้องคิดอย่างละเอียดรอบคอบ ว่าจะกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างไร

ส่วนปัญหารถติดในกรุงเทพมหานคร จะส่งผลให้ฝุ่นเพิ่มขึ้นจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร นายชัชชาติ ระบุว่า ตนเองไม่แน่ใจ ว่ากลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ แต่การจราจรมีการบริหารจัดการอย่างชัดเจน ซึ่งเราต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ สนับสนุนให้ประชาชนใช้รถสาธารณะมากยิ่งขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหารถติด ไม่ใช่การทำถนนเพิ่ม แต่คือการทำให้ระบบขนส่งสาธารณะดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ทำเส้นเลือดใหญ่จำนวนมากแล้วทำต่อกันมาหลายรัฐบาล ทำให้คนออกมาถึงรถไฟฟ้าได้เป็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่โดยตอนนี้กำลังทำทางเท้าให้ดีขึ้น 1,700 กิโลเมตร นำเทคโนโลยีมาช่วยปรับเรื่องไฟเขียวไฟแดงและจะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้

ส่วนการพิจารณาเรื่องการย้ายท่าเรือคลองเตย จะพิจารณาในมิติของมูลค่าการขนส่งอย่างไรนั้นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องดูให้ครบทั้งองค์ โดยจะดูการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 2 และเฟส 3 ซึ่งต้องล้อกันไป โดยที่ไม่มีการกระทบกับการส่งออก

นายชัชชาติ ระบุว่า เรื่องการย้ายท่าเรือคลองเตยอยู่ในแผนวาระฝุ่นแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562 และต้องมาทบทวนว่าจะดีหรือไม่ ซึ่งในต่างประเทศท่าเรือที่อยู่ในเมือง ก็ย้ายออกข้างนอกหมด แต่จะมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำทะเลที่หนุนสูง หากเกิดขึ้นในอนาคต เราจะควบคุมอย่างไร ซึ่งเราต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้ง

สำหรับการติดกล้อง CCTV เพิ่มขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมานคร เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นแค่ปัจจัยเดียว การเอาเทคโนโลยีเข้ามา จะมีการพิจารณาที่ทำให้เพิ่มเติม และดีขึ้น

สำหรับวาระ 4 ปี นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการพัฒนาอะไรใน กทม. นายเศรษฐา ระบุว่า มีหลายอย่างซึ่งคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนต้องดีขึ้นและทำให้ กทม. เป็นเมืองที่น่าอยู่

เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกันของทางรัฐบาล และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากดูจากภาษากายก็จะทราบว่าไม่ได้มีปัญหากันมีการเชิญมาตัวเองก็ยินดีมาย้ำว่ามีการคุยกันตลอดเวลายกหูสายตรงได้ตลอดเรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดใดทั้งสิ้นและไม่เคยมีด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img