‘นายกฯ’นั่งหัวโต๊ะถกครม.หลังสงกรานต์ ประชุมโหรงเหรง รมต.ลา 10 คน ด้าน ‘บิ๊กป้อม’ ปัดตอบโพลยกเป็นผู้นำลำดับ 1 ก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมไปถึงผลโพลที่ให้พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่มีรายชื่อติดโผเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย.ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยในวันเดียวกันนี้วาระการประชุมครม.น้อยมาก มีเพียงการรับทราบมติกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2565 กระทรวงการคลังเสนอร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารอาเซียน ครั้งที่ 9
สำหรับบรรยากาศการประชุมไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกครั้ง เนื่องจากมีรัฐมนตรีแจ้งลาถึง 10 คน ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม, นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.กระทรวงเกษตร และนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลาป่วย 1 คน ขณะที่มีรัฐมนตนีอีก 2 คน อยู่ระหว่างเดินทางจากต่างจังหวัดยังเดินทางมาไม่ถึง คือ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าค่อนข้างอ่อนเพลีย เนื่องจาก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ลงพื้นที่หาเสียง
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาประชุมครม.ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีผลโพลที่ออกมาหลายสำนัก ยกให้พล.อ.ประวิตร เป็นผู้นำลำดับ1 ที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมไปถึงผลโพลที่ให้พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล แต่ไม่มีรายชื่อติดโผเป็นนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมครม.ที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรมและคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์งาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์”
ขณะเดียวกันต้องจับตาการประเมินสถานการณ โควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่า จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และจำนวนอาจมากกว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนมีการทำกิจกรรมร่วมกันช่วงสงกรานต์ และการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ทำให้ใกล้ชิดผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งภายหลังประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ จึงไม่ได้มีการตรวจโควิดก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และพบการสวมหน้ากากน้อยลง รวมถึงการสรุปภาพรวมอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตราย.
