วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯห่วงพิษณุโลกน้ำประปาไม่พอใช้ ไม่มั่นใจภาคกลางน้ำไม่ท่วม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯห่วงพิษณุโลกน้ำประปาไม่พอใช้ ไม่มั่นใจภาคกลางน้ำไม่ท่วม

นายกฯห่วงพิษณุโลกน้ำประปาไม่พอ -บางระกำน้ำท่วม-น้ำแล้ง ไม่มั่นใจภาคกลางน้ำไม่ท่วม ซึ่งต้องคิดระยะกลาง ระยะยาว ว่าปีหน้าจะทำอย่างไรอีก 3 ปีจะทำอย่างไร คงต้องมีโครงการออกมาอีกพอสมควร

เวลา 14.15 น.วันที่ 14 ต.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังและคณะ ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อพูดคุยปัญหาการระบายน้ำ และการวางแผนเพิ่มสถานีสูบน้ำ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ได้เดินทางมาร่วมด้วย โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงได้ทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มาต้อนรับ จากนั้นนายกฯ รับฟังรายงานสภาพปัญหาบริเวณพื้นที่ทุ่งสาน อ.พรหมพิราม

โดยนายกฯกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดพิษณุโลกของนายกรัฐมนตรีมาพร้อมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มาครบทุกคนรวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่จะมาช่วยกันดูแลแก้ปัญหาให้กับประชาชนพร้อมย้ำปัญหาเรื่องน้ำเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้่นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่เมื่อฝนตกมามากทำให้เกิดน้ำท่วมได้ง่าย รวมถึงประตูระบายน้ำยังไม่เพียงพอ จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลพื้นที่สุ่มเสี่ยงและดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบพื้นที่ หาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำแก้มลิงเพิ่ม เพื่อรองรับน้ำในฤดูฝน เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย รวมทั้งเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในฤดูแล้ง จากนั้นนายกฯได้มอบถุงยังชีพให้กำลังใจกับประชาชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ นายเศรษฐา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ในชื่อว่า @Thavisin ว่า “เสียงสนับสนุนนโยบาย Digital Wallet ชาวพรหมพิราม จ.พิษณุโลก เสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชนที่ส่งมายังผมว่าอยากได้เงิน 10,000 บาท เพื่อให้ครอบครัวได้มีโอกาสสร้างตัว และแก้ความยากจน เป็นพลังให้เราต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ”

จากนั้น นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ ถึงการลงพื้นที่ที่จังหวัดพิษณุโลก ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ต้องขอโทษนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยด้วย นึกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่อยากรบกวนช่วงวันเสาร์ แต่มาเจอปัญหาเรื่องของน้ำประปาที่เป็นท่อระบบเก่ามา 87 ปีก็เลยโทรศัพท์ไปปรึกษารองนายกฯ ซึ่งรองนายกฯ ก็บอกว่าเดี๋ยวมาเองดีกว่า เดี๋ยวตนกับรองนายกฯ ก็จะช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งน้ำประปาในการอุปโภคบริโภค ของจ.พิษณุโลกเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไปถึงประชาชนแค่ 52% ก็น่าเห็นใจ ก็จะไปดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำตรงนี้ให้ดี ส่วนพื้นที่บางระกำ เรื่องคลองส่งน้ำก็ยังไม่ดีพอ ซึ่งพื้นที่นี้ก็มีปัญหา พอฤดูฝนน้ำก็ท่วม ฤดูร้อนก็แล้ง หน้าที่เราต้องทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง ทั้งนี้ เห็นใจ พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยเพราะบางพื้นที่ท่วมแล้วท่วมอีก แล้งแล้วแล้งอีก

เมื่อถามว่าการมาลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมในครั้งนี้มั่นใจหรือไม่ว่าพื้นที่ภาคกลางจะไม่มีน้ำท่วมยาว นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มั่นใจ เพราะเพิ่งเข้ามาได้เดือนเดียว และเห็นถึงปัญหาว่าสะสมมานาน แต่ก็จะช่วยบรรเทาพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ทั้งนี้ต้องคิดระยะกลาง ระยะยาว ว่าปีหน้าจะทำอย่างไรอีก 3 ปีจะทำอย่างไร ก็คงต้องมีโครงการออกมาอีกพอสมควร

เมื่อถามถึงธนาคารน้ำใต้ดินที่จะป้องกันน้ำแล้ง ที่จะทำได้ภายใน 3 เดือนเป็นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ทฤษฎีน้ำใต้ดินเป็นทฤษฎีที่หลายภาคส่วนเห็นด้วย แต่ก็ต้องถามพื้นที่ว่าต้องการธนาคารน้ำใต้ดินเห็นด้วย โดยจะมีการนำร่องที่จังหวัดชัยนาทจะมีการทำธนาคารน้ำใต้ดินทั้งจังหวัด แล้วก็จะดูว่าจะสามารถช่วย ไม่ท่วมไม่แรงได้จริงหรือเปล่าทั้งนี้หากจังหวัดและเขตหนึ่งเห็นด้วยก็พร้อมที่จะไปทำได้

เมื่อถามต่อว่าจะมีโอกาสระบบบูรณาการน้ำสำเร็จในวาระรัฐบาล 4 ปีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็อยากเห็น เพราะระยะเวลา 4 ปีก็เป็นระยะเวลาที่ยาวพอสมควรบางโครงการก็บอกว่าจะทำในปี 67 ถ้าหลายเริ่มต้นได้เร็ว ผ่านงบประมาณแล้วก็อยากให้เร่งทำ เพราะเวลาคนเดือดร้อนก็คือเดือดร้อน

เมื่อถามว่า สำหรับการตอบรับดิจิทัลวอลเล็ตของประชาชน นายเศรษฐา กล่าวว่าทุกเสียงของประชาชนถือ ว่าเป็นเสียงที่เราต้องฟังรวมถึงเสียงของผู้ที่คัดค้านด้วยเสียงแนะนำว่าควรจะปรับปรุงอย่างไรให้เป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์สูงสุดกับประชาชนก็อยากจะฟังเสียงทุกๆเสียงไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังใครหรือไม่น้อมรับคำเตือน

เมื่อถามว่าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานจนถึงวันนี้ มองภาพรวมการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า หากให้มองตัวเอง แล้วบอกว่าตนเองทำงานเป็นอย่างไรบ้างคงไม่เหมาะสมให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่า ตนก็หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะเราทำงาน หนักทำงานทุกวันเสาร์-อาทิตย์ รัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และพยายามที่จะหาทางออกระยะสั้นให้กับประชาชน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซลเกษตรกรที่เดือดร้อนเราก็มีการพักหนี้ และจะมีนโยบายเข็นออกมาอีกเรื่อยๆ

จากนั้นนายกฯและคณะ เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img