วันอังคาร, พฤษภาคม 21, 2024
หน้าแรกNEWS“กิตติรัตน์”วอนหยุดด้อยค่า กล่าวหาเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินเลว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กิตติรัตน์”วอนหยุดด้อยค่า กล่าวหาเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินเลว

“กิตติรัตน์”วอนหยุดด้อยค่ากล่าวหาเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเงินเลว ชี้แท้จริงแล้วเป็นเงินดี ตามภารกิจกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า นักเศรษฐศาสตร์การเงินคนหนึ่งชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งก็รู้จักมักคุ้นกับคุณรสนา โตสิตระกูล ผ่านความชื่นชอบหลงไหลในศิลปะการดนตรี ได้อ่านความคิดของนักเศรษฐศาสตร์การเงินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะคุณรสนามิได้ระบุนาม และนำความคิดด้อยค่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ว่าเป็นเงินเลว (Bad Money) มาชี้นำคุณรสนา ผมไม่ขอชี้นำอะไรท่านนะครับ ขอเพียงตั้งข้อสังเกตและคำถามต่อนักเศรษฐศาตร์ฯ ท่านนั้นผ่านคุณรสนา และหวังลึกๆ ว่าข้อสังเกตและคำถามของผมอาจทำให้คุณรสนา และมิตรสหายของท่านฉุกใจขี้นมา ว่าน่าจะลองฟังความให้ถ้วนถี่อีกสักครั้งก่อนจะปักใจไปทางหนึ่งทางใด

นายกิตติรัตน์ ระบุว่า 1.คำว่า “เงินเลวเป็นคำที่ผู้บริหารการคลังของอังกฤษ คือ Sir Thomas Gresham ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1558 (พ.ศ.2101) แต่มาโด่งดังจนเป็นรู้จักกันในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่า Gresham’s Law ใน ค.ศ.ที่ 19 หากจะพยายามนำมาใช้กับกรณีนี้ ผมตีความในทางบวกได้ว่าเงินที่ว่าเลวนั้น สามารถทำหน้าที่ของการเป็นตัวกลางของการจับจ่ายใช้สอยที่ดีเมื่อลดความน่าเก็บสะสม

ซึ่งเราทุกคนย่อมทราบดีว่าในยามที่เราจำเป็นต้องกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การมีเงิน หรือรับเงินไปแล้วถูกใช้จ่ายในกรอบเวลา และใช้จ่ายไปกับสิ่งที่พึงประสงค์ จะกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี เงินเลวจึงเป็นเงินที่ดีตามภารกิจได้จึงขอกราบฝากคุณรสนาเรียนถามนักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้นว่าเข้าใจ Gresham’s Law แบบที่นายกิตติรัตน์เข้าใจไหม

นายกิตติรัตน์ ระบุต่อว่า 2.นอกจากการนำคำนิยามเงินเลวเก่าแก่ในอดีตมาใช้เชิงวาทกรรม แต่ไม่อิงความหมายที่ลึกซื้งแล้ว นักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้นไม่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัว ในปัจจุบัน คือ ค.ศ. 2023 (พ.ศ.2566) ของเขตเศรษฐกิจสำคัญของเอเชียใกล้บ้านเราคือ ฮ่องกงบ้างเลยหรือครับ โดยชาวฮ่องกงทุกคนได้รับเงิน 5,000 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท โดยรับเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวันที่ 16 เม.ย.66 จำนวน 3,000 เหรียญฯ หากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิ.ย.ก็ได้รับ อีก 2,000 เหรียญฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 นอกจากนั้นนักเรียนหรือผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 เหรียญฮ่องกงด้วย นักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น ไม่ได้ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจการเงินในต่างประเทศบ้างเลยหรือ

ท่านคิดไหมว่าการมอบเงินดิจิทัลที่มีเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ถูกด้อยค่าว่าเป็น เงินเลวนั้น แท้ที่จริงเป็นเงินดีตามภารกิจกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นักเศรษฐศาสตร์ฯ ท่านนั้น บิดเบือนด้อยค่าดิจิทัล วอลเลตให้คุณรสนาเข้าใจผิดจนตกอกตกใจ นำไปถ่ายทอดกับมิตรสหายผู้หวังดีกับประเทศชาติทำไม หากคุณรสนายังไม่คลายความสงสัย

ผมยินดีไปขอพบเพื่อปุจฉา วิสัชนา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจการเงิน เรื่องศิลปะการดนตรี หรือเรื่องอื่นใดที่อาจจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้อีก ผมจะยินดีเป็นที่สุดครับ ผมจบตรงนี้ ขอผู้พบเห็นข้อความนี้ โปรดอย่าตามมาด้อยค่านโยบายดิจิทัลวอลเลต ของรัฐบาลเลย ว่าไปลอกใครมาแบบคนที่มีอคติที่พอเห็นใครทำอะไรคล้ายใคร ก็จ้องตำหนิว่าลอกเขามา แต่พอทำไม่เหมือนใครเอาเสียเลยก็ด่วนกล่าวหาว่าทำเสี่ยง ทำประหลาด

“ผมช้ำใจทุกครั้งที่มีคนเรียกเราว่ากะลาแลนด์ คือขยับซ้ายก็ไม่เอา ขยับขวาก็ไม่ยอม เอาแต่จมปลักทับปัญหาไว้ เราอย่าปล่อยให้ผู้คนส่วนใหญ่แต่เสียงเบา ต้องลำบากยากจนแบบไม่คิดแก้ไขกันเลยนะครับ” นายกิตติรัตน์ ระบุ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img